WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

ผันผวน – แนวโน้มหลักยังเป็นขาขึ้น
Highlight
       ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดลบเล็กน้อยจากแรงขายทำกำไร นักลงทุนต่างชะลอลงทุนเพื่อรอฟังผลประชุมอีซีบีวันพรุ่งนี้ และรายงานจ้างงานสหรัฐฯ วันศุกร์ ส่วนตลาดเกาหลีใต้ วันนี้หยุดทำการ
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ : USA การจ้างงานภาคเอกชน พ.ค. คาด +215k (Vs+220k) ISM non-mfg Index พ.ค. คาด 55.5 (Vs 55.2) รายงาน Fed Beige Book
+วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติซื้อต่ออีก +3.09 พันลบ. (ซื้อสะสม 2 วันรวม 5.78 พันลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้ออีก +19 ลบ. (ซื้อสะสม 16 วัน จาก 17 วันทำการ รวม +1.98 หมื่นลบ.)


+การเมือง คสช. ยกเลิกเคอร์ฟิวเมืองท่องเที่ยว เร่งตั้งบอร์ด BOI ฟื้นฟูความเชื่อมั่น
       คาดดัชนีฯ วันนี้ ผันผวน แต่ทิศทางหลักยังเป็นแนวโน้มขาขึ้น แนวต้าน 1470 จุด แนวรับ 1445/1440 จุด แรงหนุนยังมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ทยอยออกมา ล่าสุดเป็นเรื่องของภาคท่องเที่ยวและการลงทุน ขณะที่แรงขายจาก Trigger funds อาจเป็นปัจจัยถ่วงตลาดระยะสั้น
กลยุทธ์: แนะนำ Trading Buy กลุ่ม Domestic Play อาทิ บ้านฯ นิคมฯ ท่องเที่ยว วัสดุฯ ธนาคาร จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีกว่าคาด อาทิ SPALI QH LH AOT CPALL AMATA HEMRAJ TICON SCC SCB KBANK กลุ่มหลักทรัพย์ ASP MBKET หุ้นรับผลบวกบอลโลก CENTEL MINT CPALL (ดูรายงาน Event Plays วันที่ 3/6/57 SET100 index/Window Dressing)

 

หุ้นในกระแส:
      หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 5.0%) ได้แก่ SUPER SAWAD BMCL UTP UV EA TIPCO SUTHA หุ้นที่ลงกว่า 2.0% AQUA EIC NYT ROBINS LHBANK UNIQ STPI HANA
       NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ PTT+395 DTAC+299 CPALL+294 SCC+287 PTTEP+269 ด้านขาย BBL-350 KTB-35
หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ KBANK 185 ADVANC 111 LH 101

 

Market Outlook
      คาดดัชนีฯ ผันผวน แนวต้าน 1470 จุด แนวรับ 1445/1440 จุด วันนี้มีข่าวดีของกลุ่มท่องเที่ยว และกลุ่มนิคมฯจากการประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวเมืองท่องเที่ยว และเตรียมตั้งบอร์ด BOI หนุนความเชื่อมั่นผู้บริโภคฟื้น ปัจจัยต่างประเทศ มีแรงขายทำกำไรก่อนรอฟังผล ECB Meeting พรุ่งนี้ แรงขาย Trigger Funds อาจเป็นปัจจัยถ่วงตลาดระยะสั้น แนะนำ เก็งกำไร กลุ่ม Domestic Plays อาทิ บ้านฯ นิคมฯ ท่องเที่ยว วัสดุฯ ธนาคารหลักทรัพย์ และหุ้นกลุ่มอาหารรับผลบอลโลก
      คาดดัชนีฯ วันนี้ ผันผวน แต่แนวโน้มหลักยังอยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยมีแนวต้านบริเวณ 1470 จุด แนวรับ 1445/1440 จุด นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่ทยอยออกมา ยังหนุนให้มีแรงซื้อคืนหุ้นอิงการบริโภคและการลงทุนในประเทศ โดยวันนี้มีข่าวดีใน 2 กลุ่ม คือกลุ่มท่องเที่ยว (ยกเลิกเคอร์ฟิวเมืองสำคัญ) และนิคมฯ(ลุ้นตั้งบอร์ดบีโอไอ ปลดล๊อกคำขอที่ค้างอยู่กว่า 7 แสนล้านบาท) ส่วนวันนี้แนะนำเก็งกำไรเพิ่มในส่วนหุ้นกลุ่มอหารที่คาดว่าจะได้รับผลบวกจากกระแสฟุตบอลโลก (CENTEL MINT CPALL) ด้านปัจจัยต่างประเทศยังมีประเด็นบวกเรื่อง ECB meeting ปลายสัปดาห์นี้ มีโอกาสสูงที่จะออกมาตรการ Negative Deposit rate เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นครั้งแรก
     กลยุทธ์: Trading รายวัน ยังเน้นเก็งกำไรหุ้น Domestic Play อาทิ บ้านฯ นิคมฯ ท่องเที่ยว วัสดุฯ ธนาคาร จากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวดีกว่าคาด อาทิ SPALI QH LH AOT CPALL AMATA HEMRAJ TICON SCC SCB KBANK กลุ่มหลักทรัพย์ ASP MBKET และหุ้นรับผลบวกบอลโลก CENTEL MINT CPALL
       ระยะกลาง เราคงคำแนะนำระยะ 3-6 เดือน เลือกลงทุนกลุ่ม High Dividend Play (BTS INTUCH) และเลือกสะสมกลุ่มส่งออก อาหาร (CPF GFPT TUF) ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิคส์ (HANA KCE) กลุ่มพาณิชย์ (CPALL) ส่วนรับเหมาฯ (ITD CK STEC) let profit run
สำหรับเดือน มิ.ย.: แนะนำลงทุน BTS INTUCH (Dividend Play) GFPT TTCL (Global play) SPALI SCC CPALL (การบริโภคการลงทุนในประเทศ) M MEGA OFM (SET50/SET 100 reshuffle)


       ปัจจัยในประเทศ หนุนจากมาตรการต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน – นักลงทุนยังมีความคาดหวังเชิงบวกต่อเศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งปีหลัง หลังจากมาตรการต่างๆ ที่เร่งแก้ปัญหา เช่น การยกเลิกเคอร์ฟิวเมืองท่องเที่ยว 3 เมืองได้แก่ พัทยา สมุย ภูเก็ต คาดส่งผลมีแรงเก็งกำไรในหุ้นกลุ่มท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT) นอกจากนี้ CENTEL และ MINT ยังเป็นหุ้นกลุ่มได้ผลบวกจากฟุตบอลโลกจากการขายอาหาร เช่น พิซซ่า และไก่ทอดที่มีบริการส่งถึงบ้าน ด้านกลุ่มนิคมฯ ลุ้นข่าวดีเรื่องตั้งบอร์ด BOI เพิ่มมาปลดล็อกคำขอที่ค้างอยู่กว่า 7 แสนล้านบาท ทำให้มีแรงเก็งกำไรในกลุ่มนี้เช่นกัน ส่วนภาคเอกชน มีมาตรการจากธนาคารหลายแห่งช่วย ผ่อนปรนหนี้ SMEs ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกทาง ทางด้านผู้บริโภค วานนี้ม. หอการค้าเผยตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 60.7 เป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือนที่ปรับขึ้น


ค่าเงินบาทเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย ที่ 32.64 บาท/ดอลลาร์ หลังวานนี้แข็งค่าสุดที่ 32.58 บาท/ดอลลาร์ ลดความกังวลช่วงสั้นว่าจะอ่อนค่าจนหลุด 33.00         บาท/ดอลลาร์ เพราะจะส่งผลต่อ กลุ่มพลังงาน (FX loss) และความเชื่อมั่นนักลงทุน
+ปัจจัยต่างประเทศ บวกจากผลประชุม ECB – ECB Meeting: เราคาดว่า ผลประชุมอีซีบี ต้นเดือน มิ.ย. จะส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะ Equities จากคำพูดล่าสุดของประธาน ECB ชี้ว่าคณะกรรมการของ ECB กำลังพิจารณาเรื่องดังกล่าวอยู่ โดยมาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม จะออกมาในการประชุมครั้งถัดไปเลย เราคาดว่าโอกาสสูงที่ ECB จะตัดสินใจใช้วิธีลดดอกเบี้ย 10 bps ในทุก key interest rate และคาดว่าจะมีการส่งสัญญาณเพิ่มสภาพคล่อง อาทิ LTRO programme ออกเดือน มิ.ย. หรืออาจส่งสัญญาณ การทำ QE เฉพาะตราสารหนี้ที่เชื่อมโยงกับ SME
ทางเทคนิค ระยะสัปดาห์ยังคงเป็นสัญญาณขาขึ้น โดยตลาดมีโอกาสปรับสูงขึ้นทดสอบแนวต้านของ Fibonanci กรอบ 1386-1470 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1445/1440 จุด

 

ประเด็นจับตา
-1. ประเด็นการเมือง: จับตานโยบายเศรษฐกิจ โดยเฉพาะโครงการรัฐขนาดใหญ่
ประเด็นการเมือง (Update):
       สั่งจ่ายงบค้างท่อใน2สัปดาห์ "ประยุทธ์" สั่งทำแผนเบิกจ่ายงบปี 2557 ค้างท่อ เสนอภายใน 2 สัปดาห์ ยึดโปร่งใส-ตรวจสอบได้ พร้อมให้เตรียมโครงการลงทุนปี 2558 ยันเดินหน้าลงทุนโครงการรถไฟรางคู่ ขณะที่รถไฟความเร็วสูง ขอศึกษาผลดี-ผลเสีย เล็งส่งทหารทำโครงการบริหารจัดการน้ำ ชี้ต้นทุนต่ำ-เสร็จตามระยะเวลา ไม่นำเอารูปแบบการบริหารการจัดการน้ำจำนวน 3.5 แสนล้านบาท มาใช้ทั้งหมด แต่จะหยิบยกเป็นบางส่วน โดยจะเน้นไปที่โครงการที่เป็นเบี้ยหัวแตก
คสช. จะเริ่มศูนย์ปรองดองฯในมิ.ย., รับฟังความเห็นทุกกลุ่ม สลายขัดแย้งคืนความสุข ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) การดำเนินการโดยภาพรวม จะบูรณาการทุกส่วนงาน ทั้งพลเรือน ตำรวจและ ทหาร โดยอาศัยกลไกที่มีอยู่แล้วร่วมด้วย อาทิ ศูนย์ไกล่เกลี่ยของอำเภอ องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นองค์กรภาคประชาสังคม โดยมีขั้นตอนการปฏิบัติ 3 ขั้นตอน เริ่มจากเชิญผู้แทนเกี่ยวข้องจัดตั้งคณะทำงานเพื่อหารือวางกรอบแนวทางทำงาน, รวบรวมความเห็นจัดทำเป็นกรอบทำงาน ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่ เดือน มิ.ย.นี้และสุดท้ายนำไปสู่การปฏิบัติ ที่จะเริ่มในเดือน ก.ค.
คสช. ยกเลิกเคอร์ฟิว "พัทยา-สมุย-ภูเก็ต" วันนี้, เชื่อการท่องเที่ยวดีขึ้น คสช. ยกเลิกประกาศห้ามออกนอกเคหะสถาน (เคอร์ฟิว) ในจังหวัดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ประกอบด้วย เมือพัทยา จ.ชลบุรี,เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.ภูเก็ต นับตั้งแต่วันนี้ เพื่อบรรเทาผลกระทบด้านการท่องเที่ยว

 

2. การประชุม ECB :ทั่วโลกจับตาประชุมธ.กลางยุโรปพฤหัสฯนี้ คาดผ่อนคลายนโยบายครั้งใหญ่
      การประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันที่ 5 มิ.ย. ถือเป็นเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ หลังจากอีซีบีส่งสัญญาณว่าจะผ่อนคลายนโยบายการเงินในหลายรูปแบบด้วยกัน ตามข่าว อีซีบีกำลังจัดเตรียมนโยบายหลายอย่างเพื่อเลือกใช้ในวันที่ 5 มิ.ย. ซึ่งรวมถึงนโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ย และนโยบายแบบเฉพาะเจาะจงที่ตั้งเป้าหมายไปยังการส่งเสริม การปล่อยกู้แก่บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) นอกจากนี้ อีซีบี อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงสู่ระดับติดลบเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ด้วย โดยการกระทำดังกล่าวจะส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์เป็นฝ่ายที่ต้องจ่ายเงินให้แก่อีซีบีเมื่อนำเงินมาฝากไว้ ซึ่งจะกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจมากยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอีซีบีจะผ่อนคลายนโยบายการเงินลงอีก เนื่องจากค่าเงินยูโรที่แข็งค่าขึ้นส่งผลให้อียูกังวลต่อปัญหาภาวะเงืนฝืดและการส่งออก ซึ่งหลังจากที่ประธานอีซีบี ออกมาส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าเตรียมผ่อนคลายนโยบายการเงินทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลง ราคาทองคำปรับตัวลง และตลาดหุ้นปรับสูงขึ้น เราคาดว่ามีโอกาสสูงที่ ECB จะตัดสินใจใช้วิธีลดดอกเบี้ย 10 bps ในทุก key interest rate อาทิ refinance rate ลดเหลือ 0.15% , Deposit rate ลดเป็น -0.10% (อัตราดอกเบี้ยที่แบงก์ ฝากที่ ธนาคารกลาง) และ marginal lending facility rate ลดลงเป็น 0.65% โดยการผ่อนคลายนโยบายการเงินของอีซีบีหรือการส่งสัญญาณเพิ่มเติมจะส่งผลบวกต่อสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงตลาดหุ้น

 

      3.รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ : จับตา EU CPI พ.ค. คาด 0.7%q-q, 1Q57 GDP คาด 0.2%q-q, ECB Meeting คาดลด 10 bp refinance rate and 10 bp cut ใน Deposit rate
     พุธ: USA การจ้างงานภาคเอกชน พ.ค. คาด +215k (Vs +220k) ISM non-mfg Index พ.ค. คาด 55.5 (Vs 55.2) รายงาน Fed Beige Book
      พฤหัสบดี: ECB Meeting คาดลดดอกเบี้ยเหลือ 0.1% (Vs 0.25%) UK Meeting คาดคงดอกเบี้ย 0.5% Germany คำสั่งซื้อโรงงาน เม.ย. คาด +1.1%m-m (Vs -2.8%)
      ศุกร์ : USA: การจ้างงานนอกภาคเกษตร พ.ค. คาด +218k(Vs +288k) อัตราว่างงาน 6.4% (Vs 6.3%) Germany ดุลการค้า เม.ย. คาด +$14พันล้านยูโร (Vs +16.4 พันล้านยูโร)

 

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
      เยอรมนี เผยอัตราเงินเฟ้อลดต่ำสุดรอบหลายปีในเดือน พ.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่ปรับให้สอดคล้องเพื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรป เพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งต่ำกว่าในผลสำรวจของรอยเตอร์ที่ 1.0% และเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.พ. 2010
ดัชนี PMI ภาคบริการจีนพุ่งสูงสุดในรอบ 6 เดือน สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน รายงานว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) นอกภาคการผลิตพุ่งขึ้นสู่ 55.5 ในเดือน พ.ค. จาก 54.8 ในเดือน เม.ย. โดยดัชนีที่ระดับสูงกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคบริการขยายตัว ดัชนียอดสั่งซื้อภาคบริการดีดขึ้นจาก 50.8 ในเดือน เม.ย. สู่ 52.7 ในเดือน พ.ค. ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดรอบ 8 เดือน ทางด้านดัชนีการคาดการณ์ ทางธุรกิจขยับลงจาก 61.5 ในเดือน เม.ย. สู่ 60.7 ในเดือน พ.ค. แต่ถือว่ายังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก
      สหรัฐ เผยยอดสั่งซื้อโรงงานเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือน เม.ย. กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเพิ่มขึ้นเกินคาด 0.7% ในเดือน เม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือน มี.ค. และเพิ่มขึ้นเป็น เดือนที่สามติดต่อกันนักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ยอดสั่งซื้อของโรงงานจะเพิ่มขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย.

 

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงจากแรงขายทำกำไร
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดลดลงจากขายทำกำไร หลังทำ New High ต่อเนื่อง โดยดัชนี DJIA ปิดลดลง 21.29 จุด หรือ- 0.13% สู่ระดับ 16,722.34 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดย่อลง 0.73 จุด หรือ -0.04% สู่ระดับ 1,924.24จุด และ Nasdaq ปิดร่วง 3.12 จุด หรือ - 0.07% สู่ระดับ 4,234.08 จุด นักลงทุนรอลุ้นผลการประชุมของ อีซีบี และรายงานตัวเลขการจ้างงานรายเดือนของสหรัฐที่จะประกาศวันศุกร์ ขณะที่ในส่วนของภาคธุรกิจนั้น บรรดาผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของสหรัฐ จะเปิดเผยยอดขายเดือนพ.ค.ตลอดทั้งวันนี้ โดยหุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม บวก 0.63% หลังบริษัทเปิดเผยในวันนี้ว่า ดีลเลอร์ของบริษัทส่งมอบรถยนต์ 284,694 คันในสหรัฐอเมริกาในเดือน พ.ค. เพิ่มขึ้น 13%จากปีก่อน ซึ่งถือเป็นยอดขายรวมที่ดีที่สุดของบริษัทนับตั้งแต่เดือน ส.ค. 2551 ด้านไครสเลอร์ กรุ๊ป แอลแอลซี รายงานว่า ยอดขายรถในสหรัฐเพิ่มขึ้น 17%จากปีก่อน ซึ่งเป็นยอดขายเดือน พ.ค. ที่สูงที่สุดของบริษัทนับตั้งแต่ปี 2550

 

- ตลาดหุ้นยุโรป ปิดย่อลง รอลุ้นผลประชุมอีซีบี
      วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรปลดลง เพื่อรอลุ้นผลประชุมอีซีบี พรุ่งนี้ FTSE ปิดลดลง 27.80 จุด หรือ -0.41% สู่ 6,836.30 จุด ดัชนี CAC40 ปิดย่อลง 12.20 จุด หรือ -0.27% สู่ 4,503.69 จุด และ DAX ปิดร่วง 30.38 จุด หรือ -0.31% สู่ 9,919.74 จุด ขณะนี้ทุกสายตาจับจ้องไปที่การประชุมอีซีบีในวันพฤหัสบดีนี้ ขณะที่หุ้นปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากนักลงทุนไม่คิดว่าอีซีบีจะทำอะไรได้มากนัก ด้านสำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ค.ลดลงแตะ 0.5% จาก 0.7% ในเดือน เม.ย.ซึ่งต่ำกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.6%ส่วนอัตราว่างงานยูโรโซน อยู่ที่ระดับ 11.7% ในเดือนเม.ย. ลดลงเล็กน้อยจากระดับ 11.8% ในเดือน มี.ค. เมื่อเดือนที่แล้ว ประธานอีซีบี นายมาริโอ ดรากิ กล่าวว่า ธนาคารตระหนักดีถึงความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อต่ำที่ยืดเยื้อนานเกินไปในกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศ พร้อมเผยว่า เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของธนาคาร ยินดีที่จะลงมือดำเนินการในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งก็คือในวันพฤหัสบดีนี้

 

+/-ราคาน้ำมันดิบ ปิดคละ
     วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบ ก.ค. ย่อลง 0.01 ดอลลาร์ สู่ 108.82 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ ก.ค. ปรับขึ้น 0.19 ดอลลาร์ มาปิด ตลาดที่ 102.66 ดอลลาร์ต่อ บาร์เรล ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ร่วงลงในช่วงแรก ก่อนจะปรับขึ้นมาปิดตลาดในแดนบวกในวันอังคาร โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐและจีน หลังจากที่ราคาน้ำมันเคยได้รับแรงกดดันในช่วงก่อนหน้านี้จากปริมาณการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันอังคารว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานเพิ่มขึ้น 0.7 % ในเดือน เม.ย. หลังจากเพิ่มขึ้น 1.5 % ในเดือน มี.ค. โดยยอดสั่งซื้อนี้เพิ่มขึ้นในเดือนเม.ย.เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันผลสำ รวจภาคเอกชนที่ออกมาในวันอังคารระบุว่า ภาคโรงงานของจีนอยู่ในภาวะที่ดีที่สุดในรอบ 4 เดือนในเดือน พ.ค. โดยเอชเอสบีซี/มาร์กิตรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นสุดท้าย สำหรับภาคโรงงานของจีนปรับขึ้นสู่ 49.4 ในเดือน พ.ค. ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขขั้นต้นที่ 49.7 แต่อยู่สูงกว่าระดับ 48.1 ในเดือน เม.ย

 

+ราคาทองคำ ขยับขึ้นเล็กน้อย หลังร่วง 5 วันและต่ำสุดรอบ 4 เดือน
      วันทำการที่ผานมา ราคาสัญญาทองเดือน สิงหาคม ปิดตลาด เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.50 ดอลล์ หรือ 0.04% สู่ 1,244.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาทองอาจปรับตัวอย่างเฉื่อยชาในวันพุธ เนื่องจาก นักลงทุนรอดูผลการประชุมกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันพฤหัสบดี และเนื่องจากความสนใจลงทุนในสัญญาล่วงหน้าทองลดลงเป็นอย่างมาก อุปสงค์ทองอยู่ในระดับต่ำในตลาดปัจจุบันในจีน ซึ่งถือเป็นตลาดทองที่ใหญ่ที่สุดในโลก ถึงแม้เทศกาล Dragon Boat ได้สิ้นสุดลงไปแล้วในวันจันทร์ที่ผ่านมา และปัจจัยนี้ทำให้ราคาทองมีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้น

 

+ ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดบวก หลังลดลง 5 ในรอบ 6 วันที่ผ่านมา
      วันทำการที่ผานมา ดัชนี Baltic Dry Index กลับมาปิดเพิ่ม 14 จุด หรือ 1.5% เป็น 948 จุด หลังจาก ปี 56 พิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก (แนะนำ เก็งกำไร PSL TP Consensus 22.84-27.25 บาท TTA TP Consensus 22.83-27.25 บาท)
ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501Thanomsaks@ktzmico.com 02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564 Tidaratp@ktzmico.com 02-624-6270

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!