WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.กรุงศรี : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

แนวโน้มและปัจจัยการลงทุนวันนี้
เลือกตัวขายทำกำไร – รอดู
            ตลาดหุ้นไทยเริ่มปรับฐานเป็นวันแรกหลังการดีดขึ้น 4.4% ในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา โดยเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค และวานนี้ปิดที่ 1449.40 จุด (-4.84 จุด, -0.33%) มีลักษณะเวียนสลับกลุ่มขึ้น/ลงและหนักไปทางขายทำกำไรในกลุ่มหลักๆ เช่น ธนาคาร สื่อสาร อสังหา ท่องเที่ยว และปรับขึ้น 4 กลุ่มเช่นปิโตรเคมี ขนส่ง โรงพยาบาล ยานยนต์ และเหมืองแร่ มูลค่าการซื้อขายถือว่าอยู่ในระดับสูงถึง 51,344 ล้านบาท ค่าเงินบาททรงตัวทางอ่อนค่าที่ 32.657 บาท/US$ และนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิต่องเนื่องแต่ลดลงเหลือ 582 ล้านบาท ขณะที่เริ่มเห็นกองทุนในประเทศขายทำกำไรออกมาบ้าง 79 ล้านบาท

 

ปัจจัยการลงทุนวันนี้
      ตลาดคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะลดอัตราดอกเบี้ยลงในการประชุมวันที่ 5 มิ.ย.นี้ และหากเป็นไปตามคาดการณ์ การปรับลดครั้งนี้จะถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสู่แดนลบเป็นครั้งแรกของอีซีบี และประเมินว่าอีซีบีจะพิจารณาใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมเพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจที่ต้องเผชิญกับเงินเฟ้อที่อยู่ระดับต่ำ ค่าเงินที่แข็งแกร่งจนเกินไป รวมทั้งการขยาย ตัวที่ชะลอตัว
      ดัชนี ภาคการผลิตจีน (PMI) เดือนพ.ค. รายงานที่ระดับ 49.4 ซึ่งปรับตัวดีขึ้นจากเดือนเม.ย. ที่ 48.1 เนื่องจากยอดการสั่งสินค้าเพื่อการส่งออกปรับตัวดีขึ้นในรอบ 4 ปี แตะที่ระดับ 53.2 ในเดือนพ.ค. และมากกว่าเดือนเม.ย. ที่ระดับ 48.9 อย่างไรก็ดีตัวเลขภาคการบริโภคภายในประเทศของจีนยังคงไม่ฟื้นตัว
คสช.ได้ประกาศยกเลิกเคอร์ฟิวในพื้นที่ พัทยา จ.ชลบุรี เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และจ.ภูเก็ต เพื่อหวังจะกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยจะมีประกาศยกเลิกเคอร์ฟิว ในพื้นที่อื่นๆ ซึ่งเตรียมเสนอให้คสช.พิจารณา เช่นที่ กระบี่ พังงา และสุราษฎร์ธานี ส่วนที่ถนนข้าวสารในกทม. จะต้องพิจารณาตามความเหมาะสม เนื่องจากยังพบมีกลุ่มต่อ ต้านคสช.
จากปัจจัยการเมืองภายในในเริ่มนิ่งในระดับหนึ่ง และตลาดได้รับรู้ไปพอสมควร เรายังประเมินทิศทาง SET ในวันนี้จะยังมีลักษณะขึ้นลงคละกลุ่ม และสลับเวียนซื้อและขายในหุ้นรายตัว โดยยังคงมองว่าหุ้นรายตัวที่เทียบตลาดยังไม่ปรับขึ้นมากยังสามารถคาดหวังแรงซื้อและปรับตัวได้ แต่ภาพรวมตลาดเรามองว่าได้เข้าสู่ระดับการปรับฐานของราคาระยะสั้น เราแนะนำขายทำกำไรสั้น หรือรอดูแนวโน้มตลาดก่อน

 

แนวโน้มการลงทุนสำหรับระยะกลาง
คงน้ำหนักพอร์ตลงทุน ถือหุ้น 100%
คงน้ำหนักพอร์ตจำลองการลงทุนในหุ้นเป็น 100% และเงินสด 0%
Accumulate: สะสมหุ้น
Trading: เลือกซื้อเก็งกำไรเหนือ 1450 จุด ต่ำกว่า รอดู

เปรียบเทียบดัชนี

     จากต้นปี-ปัจจุบัน กลุ่ม HEALTH ขึ้นมากสุดถึง 36.3% ขณะที่กลุ่ม พลังงาน ปิโตรฯ อาหาร และมีเดียส์เป็นกลุ่มที่ Laggard เมื่อเทียบกับตลาดและกลุ่มอื่น
สถานะพอร์ตจำลอง (เริ่ม 25 พ.ย. 56)
พอร์ตหุ้น 100% ถือเงินสด 0%

หลังการปรับราคา XD
ผลตอบแทนพอร์ตจำลอง (100%) = +8.2%
ผลตอบแทน SET = +7.1%
พอร์ตจำลองสุทธิ > SET
หมายเหตุ: Cash/Equity weighting เป็นการแสดงมุมมองของ KSS Research เพื่อใช้เป็นแนวทางว่าด้วยแนวโน้มระยะกลาง (3-6 เดือน) ว่าจะมีแนว โน้มเชิงบวก หรือ เชิงลบ โดยหุ้นที่แนะนำในพอร์ตจำลองเป็นหุ้นพื้นฐานที่เราประเมินว่าจะมีแนวโน้มที่ดี ไม่มีนัยสำคัญเพื่อคำแนะนำว่าควร “ซื้อ” หรือ “ขาย” หุ้นดังกล่าวในเวลาใด

Analysts
Kasamapon Hamnilrat Registration No. 17622
Apisak Limthumrongkul Registration No. 13130

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!