Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Friday, 04 July 2014 14:47

Hits: 2521

บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ทดสอบแนวต้าน 1500 จุด
Highlight
      ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดขึ้น หลังสหรัฐฯ เผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร มิ.ย. ดีกว่าคาด และอีซีบีส่งสัญญาณคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อเนื่องเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ USA ตลาดหุ้นปิดทำการเนื่องในวันชาติ Germany:Factory Orders พ.ค. คาด -1%m-m (Vs +3.1%)
-วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติซื้ออีก +446 ลบ. (ซื้อสะสม 4 วันรวม +5.39 พันลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อ +157 ลบ. (ซื้อ 5 วัน ใน 6 วันทำการล่าสุดรวม +4.87 พันลบ.)
+/- การเมือง สัปดาห์นี้จับตา กสทช. ชี้แจงการประมูลคลื่นความถี่ต่อคสช. ส่วนเดือนนี้คาดมีการประกาศรัฐธรรมนูญชั่วคราว
คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับขึ้นตามตลาดหุ้นต่างประเทศ ทดสอบแนวต้าน 1500/1510 จุด โดยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังเป็นแรงหนุนให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น ขณะที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิต่อเนื่อง
กลยุทธ์: เก็งกำไรแบบมีจุดตัดขาดทุน 3% หุ้นกลาง-เล็ก DCON CI AMATA APCO ANAN CIMBT AJD ซื้อสะสมหุ้น Earnings Play GOLD TMB KTB SCB BIGC PTTEP SCCC IVL และหุ้นมีประเด็นบวก ADVANC INTUCH CK SCCC ส่วนเทคนิค รอดูบริเวณแนวต้าน 1510 จุด ไม่ผ่าน พิจารณาขายเล่นรอบ

หุ้นในกระแส:
หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 6.0%) ได้แก่ ABC WAT TWZ CI GCAP SIRI UTP หุ้นที่ลงกว่า 2.5 % ได้แก่ VTE KC PF MAX SAWAD THAI IVL
NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ BBL+488 KTB+351 KBANK+340 SCC+295 CPF+194 สูงสุดด้านขาย ได้แก่ ADVANC -341 DTAC-176 INTUCH-142 MINT-112
หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ PTT 223 ADVANC 169 BBL 169

Market Outlook
       คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1500/1510 จุด แรงหนุนมาจากปัจจัยภายนอก และการกลับมาซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ แนะนำ เก็งกำไรสั้น หุ้นขนาดกลาง-เล็ก หุ้น Earning Play มีประเด็นบวก
      คาดดัชนีฯ วันนี้ ปรับขึ้นต่อเนื่อง เพื่อทดสอบแนวต้าน 1500/1510 จุด แนวโน้มบวกได้แรงหนุนจากปัจจัยภายนอกประเทศ ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีของฝั่งสหรัฐฯ ทั้งการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราว่างงานเดือน มิ.ย. ที่ดีกว่าคาด สะท้อนเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวแข็งแกร่ง ประกอบกับการส่งสัญญาณของอีซีบีคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปอีกระยะ พร้อมส่งเสริมภาคธนาคาร ให้ปล่อยสินเชื่อธุรกิจและครัวเรือนเพิ่มขึ้นส่วนแรงหนุนในประเทศ ได้จากการกลับเข้าซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ในกลุ่มธนาคารและวัสดุก่อสร้าง (Domestic Play) ขณะที่นักลงทุนยังจับตา นโยบายพลังงานและกลุ่มสื่อสาร รวมถึงความคืบหน้าทางการเมือง เรื่องการจัดตั้งรัฐบาลและสภาปฏิรูป
      ปัจจัยต่างประเทศ ตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯ ปรับขึ้นร้อนแรง โดยตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดทำนิวไฮต่อเนื่องแรงหนุนมาจากตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร ออกมาสูงกว่าคาดที่ 288,000 ตำแหน่ง จากคาดที่ระดับ 212,000 ตำแหน่ง โดยอัตราการว่างงานลดลงต่ำสุดตั้งแต่เดือน ก.ย. 2008 ที่ 6.1% ในเดือน มิ.ย. และตัวเลข ISM ภาคบริการทรงตัวในระดับสูงที่ 56.0 ส่วนฝั่งยุโรปได้แรงหนุนจากการส่งสัญญานของอีซีบีคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่ออีกระยะหนึ่ง พร้อมเตรียมเงินกู้ให้ภาคธนาคาร ภายใต้โครงการ TLTRO (targeted longer-term refinancing operations) วงเงิน 1 ล้านล้านยูโร (1.36 ล้านดอลลาร์) โดยธนาคารสามารถถือเงินกู้นี้ได้ถึง 4 ปี แต่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับวงเงินในการปล่อยกู้ธุรกิจและครัวเรือน
     ปัจจัยในประเทศ นักลงทุนต่างชาติซื้อต่อเนื่อง โดยเฉพาะบลูชิพขนาดใหญ่ กลุ่มธนาคารและวัสดุก่อสร้างโดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน มิ.ย. ปรับสูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่สอง มาอยู่ที่ 75.1 จาก 70.7 ในเดือน พ.ค. โดยในเดือนนี้ คาดมีความคืบหน้าด้านการเมือง ในเรื่องรัฐธรรมนูญชั่วคราวและและจัดตั้งสภาปฏิรูปที่เบื้องต้นคาดจะจัดตั้งได้ในเดือน ต.ค. นี้
      กลยุทธ์: เก็งกำไรแบบมีจุดตัดขาดทุน 3% หุ้นกลาง-เล็ก DCON CI AMATA APCO ANAN CIMBT AJD ซื้อสะสมหุ้น Earnings Play GOLD TMB KTB SCB BIGC PTTEP SCCC IVL และหุ้นมีประเด็นบวก ADVANC INTUCH CK SCCC สัปดาห์นี้-หน้า รอดูบริเวณแนวต้าน 1510 จุด ไม่ผ่าน พิจารณาขายเล่นรอบ
      Recommend Stocks: เดือน ก.ค. แนะนำลงทุน INTUCH SCCC (Dividend Play) GFPT PTTEP (Global play) KBANK QH SCP (การบริโภคการลงทุนในประเทศ) GUNKUL (พลังงานทดแทน) IVL JAS (มีประเด็นบวก)
     July Statistic : สถิติย้อนหลัง 10 ปี (ปี 47-56) พบว่ามีโอกาส 70% ที่ ดัชนีฯ เดือน ก.ค. ปิดปรับขึ้น ด้วยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ย +2.01%m-m Max +10.68% (ปี 50) Min -12.01% (ปี 51) ขณะที่เดือน ส.ค. และ ก.ย. ให้อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย -0.38%m-m และ +1.22%m-m ตามลำดับ
เทคนิค : ค่อยๆ ไต่ระดับขึ้น
       คาดภาพใหญ่แนวโน้มดัชนีฯ ขาขึ้นยังมีต่อเนื่อง แต่โมเมนตัมบวกไม่แรงนัก โดยดัชนีฯ ยังสามารถปิดสูงขึ้นได้ต่อเนื่อง คาดดัชนีฯมีโอกาสสูงขึ้นจะขึ้นไปแตะแนวต้านต่อไปที่ 1497จุด (Fibonanci) หรือแนวต้านจิตวิทยาที่ 1500 จุดได้ในสัปดาห์นี้ ทั้งนี้แนวต้านหลักที่เป็นกรอบบนของ uptrend channel รอบนี้ที่ดำเนินมาตั้งแต่ต้นปี อยู่ที่บริเวณ 1510 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1486 จุด (SMA 5 วัน) และ 1475 จุด (SMA10 วัน) โดยมีสัญญาณเตือนการปรับฐานรอบสั้นๆ อิง Stochastic, RSI ที่เริ่มเกิดสัญญาณ Overbought และอาจเปลี่ยนเป็น Sell Signal ได้ โดยหากดัชนีฯ ขึ้นทดสอบแนวต้านหลัก 1510 จุด และไม่ผ่าน อาจพิจารณาขายเล่นรอบ

ประเด็นจับตา
1. ประเด็นการเมือง: จับตาแนวทางการตั้งสภาปฏิรูป และกำหนดเวลานำไปสู่การเลือกตั้ง
ประเด็นการเมือง (Update):
      คสช. ให้ฝ่ายกฎหมายปรับแก้เนื้อหาร่างธรรมนูญชั่วคราว, จะได้ใช้ภายในก.ค.นี้ การประชุมคสช.เพื่อพิจารณาร่างธรรมนูญฉบับชั่วคราว ได้ปรับแก้เนื้อหาของร่างดังกล่าวเพียงเล็กน้อย จากนั้นได้มอบหมายเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย ไปปรับแก้ตามที่ ที่ประชุมคสช.ให้ข้อสังเกตไว้ โดย หัวหน้าคสช.พร้อมจะนำร่างธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อให้มีผลบังคับใช้ภายในเดือนก.ค.นี้ เมื่อเสร็จสิ้นจากกระบวนการดังกล่าวแล้ว จะมีการจัดตั้ง สภาปฏิรูปแห่งชาติ ซึ่งคาดว่าจะสามารถทำงานได้ราวเดือน ต.ค.นี้ เพื่อเดินหน้าปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ
       ขณะเดียวกัน สภาปฏิรูปแห่งชาติ จะทำข้อเสนอถึง คณะกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวร คาดว่าจะใช้เวลาในการปฏิรูป และทำข้อเสนอถึงคณะกรรมการ ยกร่างฯ ประมาณ 12 เดือน และคาดว่าจะสามารถประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับถาวร ได้ราว ก.ค. 58 จากนั้น คสช.จะใช้เวลาอีก 3 เดือน เพื่อจัดเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา โดยภายในปี 58 จะมีรัฐบาลมาจากการเลือกตั้งโดยสมบูรณ์
กกต. คาดสัปดาห์หน้าได้ข้อสรุป ข้อเสนอแก้กฎหมายเลือกตั้ง ก่อนเสนอคสช. ภายในสัปดาห์หน้า กกต. น่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมาย และอุปสรรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อนำมาจัดทำข้อเสนอไปยังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และนำไปประกอบการยกร่างกฎหมายของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)ต่อไป

      +/- 2. ล้ม23โครงการกองทุนอนุรักษ์ เลิก'โซลาร์รูฟท็อป'ศาลากลาง, "โซลาร์รูฟ" ไม่เกิน 1 พันกิโลวัตต์ไม่ถือเป็นรง., ไม่ต้องขอรง. 4
      บอร์ดกองทุนอนุรักษ์พลังงานตั้ง2อนุกก.ประเมินแผนลงทุน ล้ม"โซลาร์รูฟท็อป"ศาลากลาง
คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ได้มีการยกเลิกโครงการไปแล้ว 10 โครงการ เช่น โครงการประชาสัมพันธ์การอนุรักษ์พลังงาน และโครงการนำร่องติดตั้งไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ บนหลังคา หรือโซลาร์รูฟท็อป บนหลังคาศาลากลาง 74 จังหวัดทั่วประเทศ มูลค่า 1,800 ล้านบาท ส่วนแนวทางการดำเนินงานด้านพลังงานทดแทน จะดำเนินการตามแผนการพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก อาทิ การส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในระดับชุมชน ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์พลังงานลม พลังงานน้ำ ชีวมวล และก๊าซชีวภาพ

คสช. มีมติให้ "โซลาร์รูฟ" ไม่เกิน 1 พันกิโลวัตต์ไม่ถือเป็นรง., ไม่ต้องขอรง.4
      คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีมติให้การผลิตไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์บนหลังคาที่มีขนาดไม่เกิน 1 พันกิโลวัตต์ ไม่ถือว่าเป็นโรงงาน ทำให้กรณีดังกล่าวไม่จำเป็นต้องยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (รง.4) ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานได้ประกาศรายชื่อผู้ที่ได้ รับคัดเลือกตามโครงการรับซื้อไฟฟ้าจากการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้ง บนหลังคาปี 56 จำนวน 200 เมกกะวัตต์ แต่การดำเนินการของผู้ประกอบการมีความล่าช้า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากความล่าช้าเรื่องการออกใบอนุญาต รง.4 จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม หลังยังมีข้อถกเถียงกันระหว่างหน่วยงานรัฐ เรื่องความชัดเจน ของความจำเป็นต้องขอใบอนุญาต รง.4 ดังกล่าวด้วย
     โดยข่าวการยกเลิกโซลาร์รูฟท๊อป กดดันราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานทางเลือกที่เกี่ยวข้องกับแผงโซลาร์ร่วงลงวานนี้ โดยเฉพาะหุ้น SOLAR อย่างไรก็ดี ยังรอความชัดเจนต่อมาตรการพลังงานแสงอาทิตย์ชุมชน 800 เมกกะวัตต์ ที่เดิมคาดได้ข้อสรุปในช่วง 2-3 เดือนนี้
     ทั้งนี้ การอนุมัติให้การผลิตไฟฟ้าพลังงาน แสงอาทิตย์บนหลังคาที่มีขนาดไม่เกิน 1 พันกิโลวัตต์ ไม่ถือว่าเป็นโรงงาน ซึ่งเป็นข่าวบวกต่อ GUNKUL ด้วยเช่นกันเนื่องจากยังเหลือการก่อสร้างอีก 6 เมกกะวัตต์ที่จะสามารถเดินหน้าได้ทันทีหากไม่ต้องขอใบ รง. 4 โดยแนะนำสะสมเมื่ออ่อนตัว เนื่องจากคาดรัฐบาลยังสนับสนุนพลังงานทางเลือก และ GUNKUL มีทั้งงานในมือ และรายได้งานโรงไฟฟ้าพลังงานลมช่วยหนุน

3. สำหรับคาดการณ์ผลกำไรบจ. 2Q57F พบว่า แบงก์ทิสโก้จะประกาศงบวันแรก 10 ก.ค. แต่บจ. ที่คาดว่าจะรายงานกำไรเติบโตดีขึ้น y-y q-q ได้แก่ TMB BAY SCB KTB BIGC PTTEP

+/- 4.รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ :
ศุกร์: USA ตลาดหุ้นปิดทำการ Germany:Factory Orders พ.ค. คาด -1%m-m(Vs +3.1%)

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
   HSBC เผย PMI ภาคบริการจีนพุ่งสวนทางผลสำรวจสำนักงานสถิติ เอชเอสบีซี/มาร์กิตรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของจีน ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ 53.1 ในเดือน มิ.ย. จาก 50.7 ในเดือน พ.ค. อย่างไรก็ดี ในช่วงเช้านี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติ (NBS) ของจีน รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการร่วงลงสู่ระดับ 55.0 ในเดือน มิ.ย. จากระดับ 55.5 ในเดือน พ.ค.
      ผลสำรวจดัชนี PMI ชี้ภาคธุรกิจยูโรโซนขยายตัวต่ำสุดรอบ 6 เดือนใน มิ.ย. ดัชนี PMI ทั่วไปสำหรับภาคบริการของยูโรโซนร่วงสู่ระดับ 52.8 จาก 53.2 ในเดือน พ.ค. ซึ่งสอดคล้องกับข้อมูลขั้นต้น และสูงกว่าระดับ 50 ที่แบ่งแยกระหว่างการขยายตัวและการหดตัว
      ผลสำรวจดัชนี PMI ชี้ภาคเอกชนเยอรมนีขยายตัวต่ำสุดรอบ 8 เดือนใน มิ.ย. ดัชนีคอมโพสิตผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ขั้นสุดท้ายของมาร์กิต ซึ่งประเมินการขยายตัวของภาคการผลิตและภาคบริการร่วงลงสู่ระดับ 54.0 ในเดือน มิ.ย. จากระดับ 55.6 ในเดือน พ.ค. ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการร่วงลงสู่ระดับ 54.6 ในเดือน มิ.ย. จาก 56.0 ในเดือน พ.ค.
      ผลสำรวจดัชนี PMI ชี้ภาคธุรกิจฝรั่งเศสหดตัวเป็นเดือนที่ 2 ใน มิ.ย. ดัชนีคอมโพสิตผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) สำหรับภาคการผลิตและภาคบริการ ร่วงลงสู่ระดับ 48.1 ในเดือน มิ.ย. จาก 49.3 ในเดือน พ.ค. ซึ่งระดับที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว เฉพาะภาคบริการ ดัชนี PMI ร่วงสู่ระดับ 48.2 จากระดับ 49.1
ในเดือน พ.ค.
      ผลสำรวจชี้ดัชนี PMI ภาคบริการอิตาลีขยายตัวสูงสุดรอบ 3 ปีครึ่งใน มิ.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของ Markit/ADACI สำหรับ ภาคบริการ ซึ่งครอบคลุมบริษัทต่างๆ นับตั้งแต่โรงแรมไปจนถึงบริษัทประกัน พุ่งสู่ระดับ 53.9 ในเดือน มิ.ย. จากระดับ 51.6 ในเดือน พ.ค. ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 3ติดต่อกัน และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย. 2010
      ผลสำรวจชี้ดัชนี PMI ภาคบริการสเปนขยายตัวเป็นเดือนที่ 8 ใน มิ.ย. ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของมาร์กิตสำหรับภาคบริการของสเปน อยู่ที่ระดับ 54.8 ในเดือน มิ.ย. ลดลงจากระดับ 55.7 ในเดือน พ.ค.
ISM เผยดัชนี PMI ภาคบริการลดลงเล็กน้อยในเดือน มิ.ย. สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการลดลงสู่ 56.0 ในเดือนมิ.ย.จาก 56.3 ในเดือนพ.ค. นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ดัชนี PMI ภาคบริการจะทรงตัวที่ระดับ 56.3 ในเดือน มิ.ย.
      สหรัฐ เผยจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งเกินคาดใน มิ.ย. ขณะว่างงานต่ำสุด 6 ปี กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 288,000 ตำแหน่งในเดือน มิ.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ คาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ระดับ 212,000 ตำแหน่ง จากระดับ 224,000 ในเดือน พ.ค. และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายทศวรรษ 1990 ที่ตัวเลขจ้างงานเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือนละ 200,000 ตำแหน่ง เป็นเวลา 5เดือนติดต่อกัน ส่วนอัตราว่างงานดิ่งลงสู่ระดับ 6.1% ในเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็น ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ก.ย.2008 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 6.3%

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดสร้างจุด New High Record ใหม่ รับข้อมูลจ้างงานแข็งแกร่ง
วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดสร้างทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยดัชนี DJIA ปิดเพิ่มขึ้น 92.02 จุด หรือ 0.54% สู่ระดับ 17,068.26 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่ม 10.82จุดหรือ 0.55% สู่ระดับ 1,985.44 จุด Nasdaq ปิดบวก 28.19จุด หรือ 0.63% สู่ระดับ 4,485.93 จุด
ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงเป็นประวัติการณ์เป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2000 และปรับขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์+1.3%, ดัชนี S&P 500 +1.25% และดัชนี Nasdaq +2%
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่ม 288,000 ตำแหน่งในเดือนมิ.ย. สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ที่ 212,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานลดลงสู่ 6.1% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2008 ซึ่งยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 2

+ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดเพิ่มจากรายงานจ้างงานสหรัฐฯดีเกินคาด
      วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นยุโรป ปิดสูงขึ้น FTSE ปิดเพิ่มขึ้น 48.84 จุด หรือ 0.72% สู่ 6,865.21 จุดดัชนี CAC40 ปิดสูงขึ้น 45.16 จุด หรือ 1.02% สู่ 4,489.88 จุด และ DAX ปิดบวก 118.16 จุด หรือ 1.19%สู่ 10,029.43 จุด หลังจากอีซีบี มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.15% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมคงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากที่ระดับติดลบ 0.10% ประกอบกับสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาด

-ราคาน้ำมันดิบ ปิดลดลงเล็กน้อย หลังลิเบียอาจส่งออกน้ำมันรอบใหม่
      วันทำการที่ผ่านมา Brent ส่งมอบ ส.ค. ปิดลดลง 0.24ดอลลาร์ สู่ 111 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ ส.ค. อ่อนตัว 0.42 ดอลลาร์ มาปิด ตลาดที่ 104.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นักลงทุนลดความกังวลด้านอุปทานน้ำมัน หลังจากลิเบียประกาศยุติภาวะฉุกเฉินด้านน้ำมัน
      รัฐบาลลิเบียประกาศว่า ทางรัฐบาลได้บรรลุข้อตกลงกับผู้นำกลุ่มกบฏที่ยึดครองท่าเรือขนส่งน้ำมัน และข้อตกลงนี้เกี่ยวข้องกับการส่งมอบสถานีขนส่งน้ำมันสองแห่งสุดท้าย โดยข้อตกลงนี้อาจส่งผลให้ลิเบียส่งออกน้ำมันได้เพิ่มขึ้น 500,000 บาร์เรลต่อวัน
      ราคาน้ำมันดิบสหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรงกว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เพราะว่า พายุเฮอริเคนอาร์เธอร์กำลังจะพัดเข้าสู่ชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ ซึ่งจะส่งผลลบต่ออุปสงค์น้ำมันเบนซินในช่วงสุดสัปดาห์วันหยุดยาวของสหรัฐ
     ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลงมาแล้วกว่า 5 ดอลลาร์จากจุดสูงสุดรอบ 9 เดือนที่ 115.71 ดอลลาร์ที่ทำไว้ในวันที่ 19 มิ.ย. ราคาน้ำมันดิบสหรัฐปิดตลาดในแดนลบถึง 10 วันในช่วง 13 วันทำการที่ผ่านมา และปิดตลาดสัปดาห์นี้ด้วยการดิ่งลง 1.6 % จากสัปดาห์ที่แล้ว โดยราคาน้ำมันดิบรูดลง 3 % ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา

-ราคาทองคำ ร่วงลง จากรายงานจ้างงานสหรัฐฯดีกว่าคาด
     วันทำการที่ผานมา ราคาสัญญาทองเดือน สิงหาคม ปิดตลาด ลดลง 10.30 ดอลล์ สู่ 1,320.60ดอลลาร์ต่อออนซ์ ราคาทองสปอตร่วง 7.65 ดอลลาร์ สู่ 1,319.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงเกินคาดในเดือนมิ.ย. โดยตัวเลขดังกล่าวกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่รวดเร็วเกินคาด

* ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ทรงตัว
      วันทำการที่ผานมา ดัชนี Baltic Dry Index ปิดไม่เปลี่ยนแปลง โดยอยู่ที่ 890 จุด หลังจาก ปี 56 พิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก (แนะนำ เก็งกำไร PSL TP Consensus 22.84-27.25 บาท TTA TP Consensus 22.83-27.25 บาท)

ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501
Thanomsaks@ktzmico.com
02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564
Tidaratp@ktzmico.com
02-624-6270