WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.เคที ซีมิโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

ลุ้นตัวเลขการค้าจีน-การเมืองคลี่คลายระดับหนึ่ง
Highlight


        ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้ เปิดบวก จากถ้อยแถลงของประธานเฟด นักลงทุนคาดเฟดคงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อ
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ China ส่งออก เม.ย. คาด -3.5%y-y นำเข้า -2.3%y-y ดุลการค้าเกินดุล +$18.8bn. (มี.ค. ส่งออก -6.6%y-y นำเข้า -11.3% เกินดุล +$7.71bn.) ผลประชุมธนาคารกลาง EU, BoE คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.25%, 0.5% ตามลำดับ Germany: Industrial Production มี.ค. คาด +0.2% m-m (Vs 0.4%) ผลประชุมธนาคารกลาง ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดฯ คาดคงดอกเบี้ยที่ 3.5% 3% 7.5%ตามลำดับ
      -วันทำการล่าสุด นักลงทุนต่างชาติกลับมาขาย -2.02 พันลบ. (จากซื้อสะสม 3 วัน 3.92 พันลบ.) ส่วนนักลงทุนสถาบันในประเทศกลับมาขาย -159 ลบ. (จากซื้อสะสม 4 วัน รวม +2.13 พันลบ.)
การเมือง ลุ้นวันนี้ป.ป.ช. จะตัดสินคดีจำนำข้าวหรือไม่ จากที่ก่อนหน้านี้เคยกล่าวว่าจะเป็นช่วงระหว่างวันที่ 8-15 พ.ค. นี้
      คาดดัชนีฯ วันนี้ยังผันผวน แนวรับ 1393/1380 จุด แนวต้าน 1408/1413 จุดการเมืองยังเป็นความเสี่ยง หลังศาลฯ ตัดสินสิ้นสถานภาพนายกฯ และครม.ที่ดำรงตำแหน่ง ณ ขณะนั้น
      กลยุทธ์: รายเดือน แนะนำ ขึ้น-ทยอยขายลดพอร์ต (ถือเงินสด 60%) ส่วนระยะสั้น แนะชะลอการเก็งกำไร/ขายตัดขาดทุนหากดัชนีฯ < 1400 จุด


หุ้นในกระแส:
      หุ้นโมเมนตัมบวก (ขึ้นเกิน 4.0%) ได้แก่ EMC ICHI SUPER AIT IVL SNC TWS
NVDR (หน่วย: ลบ.) สูงสุดด้านซื้อ ได้แก่ BGH+277 INTUCH+148 IVL+133 ด้านขาย ADVANC-638 BBL-338 AOT-244
    หลักทรัพย์ที่มี Short Sell สูงสุด (หน่วย:ล้านบาท) ได้แก่ ADVANC 138 BBL 70 CK 63
     หลักทรัพย์ที่ขึ้นเครื่องหมาย XD วันพฤหัส AJD GL SAM TFD TRU วันศุกร์ A BWG DCC STA

 

Market Outlook
       คาดดัชนีฯ ผันผวน แนวรับ 1393/1380 จุด แนวต้าน 1408/1413 จุด ยังมีความเสี่ยงด้านการเมือง หลังศาลรธน. ตัดสินยิ่งลักษณ์สิ้นสถานภาพนายกฯ แต่วันนี้ปัจจัยภายนอกกลับมาเป็นบวก
       คาดดัชนีฯ วันนี้ ผันผวน แนวรับ 1393/1380 จุด แนวต้าน 1408/1413 จุด (ลดการเก็งกำไร หากดัชนีฯหลุด 1400 จุด) แม้วานนี้ตลาดตอบรับเชิงบวก หลังคำตัดสินศาลฯ ให้นายกฯ และครม. บางคนพ้นจากตำแหน่ง แต่ไม่รวมครม. ทั้งคณะ ส่งผลให้ความเสี่ยงทีจะเกิดเหตุรุนแรง สุญญากาศทางการเมืองคลี่คลายไปในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี ความเสี่ยงทางการเมืองยังคงไม่ลดลง โอกาสของการปรับฐานยังมี ขณะที่ลุ้นประเด็นจำนำข้าวว่า ป.ป.ช. จะตัดสินวันนี้หรือไม่ ด้านปัจจัยต่างประเทศกลับมาเป็นบวกหลังประธานเฟดแถลงสหรัฐฯ ยังต้องการมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ สำหรับการลงทุนเดือนนี้ คงคำแนะนำ ขึ้นขาย-รอซื้อบริเวณแนวรับ 1380/1360 จุด เน้นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่มีปันผลดี
      การเมืองในประเทศ ตลาดตอบรับเชิงบวกหลังคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญวานนี้ ให้นายกฯ และครม. ที่ดำรงตำแหน่ง ณ ขณะนั้นพ้นจากตำแหน่ง แต่ไม่รวมครม. ทั้งคณะ ซึ่งผู้ที่เหลือให้ทำหน้าที่รักษาการ และวานนี้ ครม. มีมติให้นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี ซึ่งทำให้ภาพและเงื่อนไขทางการเมืองต่างๆ ไม่เปลี่ยนมากนัก แต่ดีกว่ากรณีแย่สุดที่คาดว่าครม. ทั้งคณะต้องพ้นจากตำแหน่งในทันทีจึงคาดการดีดตัวขึ้นของดัชนีฯ วานนี้จะเป็นระยะสั้น เนื่องจากความเสี่ยงต่างๆ เช่น จากการเผชิญหน้าของ 2 กลุ่ม ความเสี่ยงต่อการเลือกตั้งยังคงอยู่ และปัจจัยด้านพื้นฐานและเศรษฐกิจยังอ่อนแอเมื่อเทียบระดับดัชนีฯที่ปัจจุบัน คาดการปรับลงของดัชนีฯ มีโอกาสเกิดขึ้น ประเมินแนวรับไว้ที่ 1380/1360 จุด
      ปัจจัยต่างประเทศ กลับมาเป็นแรงหนุนหลังวานนี้ประธานเฟดแถลงส่งสัญญานสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง โดยกล่าวว่าการใช้มาตรการการเงินในระดับสูงเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจะยังคงมีต่อไป เนื่องจากการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้อยังต่ำกว่าระดับที่เฟดตั้งเป้าไว้ แม้ว่าเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวแล้วก็ตาม ขณะที่เลี่ยงที่จะตอบหรือส่งสัญญานว่าอัตราดอกเบี้ยจะปรับขึ้นเมื่อใด ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้นักเศรษฐศาสตร์กว่าครึ่งคาดว่าเฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วขึ้นเป็นกลางปี 2015 จากเดิมที่คาดไว้เป็นไตรมาส 3 ปี 2015
      กลยุทธ์ลงทุน: ทยอยขายทำกำไร สำหรับการลงทุนระยะ 2 เดือน(ความเสี่ยงขาลงอยู่ที่ 1314/1300 จุด) ส่วนการลงทุนระยะสั้น แนะนำ ขึ้นขาย-ลงซื้อ โดยเฉพาะบริเวณ 1420 จุด จากความเสี่ยงทางการเมืองและวิตกการปรับพอร์ตช่วงเดือน พ.ค.
      *ระยะเดือน (ดูรายงาน Monthly เดือน พ.ค.) ถือเงินสด 60% ของพอร์ต เน้นเลือกลงทุนหุ้นปันผลสูง มีประเด็นบวก แนะนำลงทุน BTS INTUCH (Dividend Play) GFPT PSL BANPU IVL (Global play) STPI TTCL JAS RS (ประเด็นบวกระยะสั้น)
      +ระยะสั้น แนะนำ รอซื้อเมื่ออ่อนตัว แนวรับ 1380/1360 จุด หลักทรัพย์ที่ยัง laggard และปันผลสูง
1) หุ้น laggard (PBV< mean-0.5SD) PTTGC PTT PTTEP IRPC BANPU ESSO MONO ROJNA IVL
2) หุ้นที่มีปันผลสูง (Yield > 5%) MODERN BTS TICON TTW TVO INTUCH ADVANC SPALI KTB BECL PTTGC (ดูรายละเอียดในหัวข้อรายงานพิเศษ)


ทางเทคนิค : ความเสี่ยงปรับฐานรอบใหม่ หากหลุด 1400 จุด มีเพิ่มขึ้น
      ภาพใหญ่ระยะ 2 ปี ของทิศทางดัชนีฯ ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ใน Downtrend Channel กรอบ 1195-1445 จุด ส่วนระยะสั้น ยังคงอยู่ในกรอบขาขึ้น Up Channel แบบ V-Shape กรอบ 1392-1473 จุด โดยเริ่มมีสัญญาณการเตือนถึงการปรับฐาน (Correction) จากการแตะระดับสูงสุดของภาวะ Overbought ที่เคยเกิดขึ้นในอดีตไม่ว่าจะเป็น Stochastic, RSI, MACD สะท้อนขาขึ้นของดัชนีฯอาจมีเพียง 1432/1442 จุด แม้วานนี้ดัชนีฯ ดีดกลับมายืนเหนือ 1400 จุด แต่สัญญานระยะสั้นยังไม่กลับเป็นบวก 

ประเด็นจับตา
-1. ประเด็นการเมือง: กลับมาลุ้นป.ป.ช. วันนี้ตัดสินคดีจำนำข้าวหรือไม่


ประเด็นการเมือง (Update):
       ครม.ให้"นิวัฒน์ธำรง"ปฏิบัติหน้าที่นายกฯ,กกต.ชี้ไม่กระทบจัดเลือกตั้งครม. มีมติให้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรมว. พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรี แทน นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ในวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี จาก เลขาธิการ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)
       กกต.เดินหน้าเลือกตั้งได้ข้อสรุป1สัปดาห์ กกต. กล่าวถึงกรณีที่ที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปฏิบัติหน้าที่นายกรัฐมนตรีและรวม.กลาโหม สิ้นสภาพ.ค.วามเป็นรัฐมนตรี ว่าไม่กระทบต่อการจัดการเลือกตั้งส.ส.ครั้งใหม่ ที่กำลังจะมีขึ้น ทั้งนี้หากต้องการให้การเลือกตั้งเป็นตามกำหนดเดิมคือ ในวันที่ 20 ก.ค.นั้น กกต. กับรักษาการแทนนายกรัฐมนตรี จะต้องได้ข้อสรุปภายใน 1 สัปดาห์นับจากนี้
      "จารุพงศ์" เผยเพื่อไทยจะเสนอ"ยิ่งลักษณ์"เป็นปาร์ตี้ลิสเบอร์ 1 ชิงนายกฯอีกสมัย หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า พรรคจะเสนอชื่อ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) บัญชีรายชื่อ(ปารตี้ลิสต์)อันดับหนึ่ง เพื่อชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอีกสมัย ในการเลือกตั้ง วันที่ 20 ก.ค.นี้
      'อภิสิทธิ์' ห่วงปลุกมวลชนต้านคำวินิจฉัยศร. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวถึงกรณีคำวินิจฉัย ศาลรัฐธรรมนูญ (ศร.) ว่าไม่คิดว่าผลของคำวินิจฉัยในคดีหนึ่งคดีใดจะสามารถเป็นคำตอบ เพราะก็ยังมองว่า จะเกิดความไม่แน่นอนต่อไป ต่อจากนี้ก็ต้องมีการตีความที่แตกต่างกัน ก็อาจจะเกิดการปลุกระดมมวลชน และการต่อต้านตามมา
       "สุเทพ"เลื่อนชุมนุมใหญ่เร็วขึ้น เป็น 9 พ.ค. ปฏิบัติการทวงคืนอธิปไตยสู่ปชช. กปปส. ประกาศ เลื่อนปฏิบัติการทวงคืนอำนาจอธิปไตยสู่ประชาชน เร็วขึ้นเป็น วันที่ 9 พ.ค.เวลา 9.09 น. จากเดิมกำหนดวันที่ 14 พ.ค. เนื่องจากสถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป หลังจากวันนี้ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี สิ้นสุดความเป็นรัฐมนตรีและให้หยุดปฏิบัติหน้าที่

      2. การประกาศผลประกอบการ 1Q57F ของบจ. คาดว่าจะส่งผลต่อหลักทรัพย์รายบริษัทฯ ในสัปดาห์นี้
Thai-บจ. ที่คาดว่าจะประกาศผลประกอบการภายในสัปดาห์นี้ (6 พ.ค.. – 9 พ.ค.) เด่นๆ ได้แก่ TRUE TUF

USA: การประกาศผลประกอบการ 1Q57 ของบจ. สหรัฐฯ
      บจ. สหรัฐฯ เริ่มทยอยประกาศผลประกอบการช่วงไตรมาสแรกปีนี้ โดยผลสำรวจจาก บลูมเบิร์ก ปรับคาดการณ์กำไรบจ.ที่คำนวณใน S&P 500 ลงเหลือ 0.7%y-y รายรับ เพิ่ม 2.6%y-y เนื่องจากผลกระทบฤดูหนาวที่รุนแรง ยาวนาน โดยจากผลสำรวจพบว่า มีสัดส่วนบจ.ที่รายงานงบเชิงบวก มีเพียง 1 รายเทียบกับเชิงลบถึง 6 ราย ขณะที่รายงาน 384 บจ.ที่คำนวณในดัชนี S&P 500 ที่ผ่านมา พบว่า มีจำนวน 75% ที่รายงานกำไรดีกว่าคาด และ 52% รายงานรายได้ดีกว่าคาด ทั้งนี้ บริษัทฯที่จะทยอยประกาศผลประกอบการในช่วงสัปดาห์นี้ เช่น, PRUDENTIAL, BERKSHIRE, FANNIE MAE ฯลฯ

      3. รายงานเศรษฐกิจสำคัญสัปดาห์นี้ จับตา Jellen แถลงแนวโน้มเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ (วันพุธ) การค้าระหว่างประเทศจีนและผลประชุมธนาคารกลาง EU, BOE (วันพฤหัสฯ)
      วันพฤหัสบดี: China ส่งออก เม.ย. คาด -3.5%y-y นำเข้า -2.3%y-y ดุลการค้าเกินดุล +$18.8bn. (มี.ค. ส่งออก -6.6%y-y นำเข้า -11.3% เกินดุล +$7.71bn.) ผลประชุมธนาคารกลาง EU, BoE คาดคงดอกเบี้ยที่ 0.25%, 0.5% ตามลำดับ Germany: Industrial Production มี.ค. คาด +0.2%m-m(Vs 0.4%) ผลประชุมธนาคารกลาง ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย อินโดฯ คาดคงดอกเบี้ยที่ 3.5% 3% 7.5%ตามลำดับ
วันศุกร์: Germany ดุลการค้า มี.ค. คาดเกินดุล +17.5 Euro bn.(Vs +16.3bn.) S.Korea คาดธนาคารกลางคงดอกเบี้ยที่ 2.5% ฟิลิปปินส์ มี.ค. ส่งออก+10%y-y (Vs 24.4%)

รายงานตัวเลขเศรษฐกิจวันทำการผ่านมา:
      ผลสำรวจชี้กิจกรรมทางธุรกิจภาคบริการญี่ปุ่นชะลอตัวในเดือน เม.ย. ข้อมูลจากบริษัทมาร์กิต ระบุว่าบริษัทภาคบริการของญี่ปุ่นได้รายงานว่า กิจกรรมทางธุรกิจลดลงในเดือน เม.ย. ขณะที่จำนวนธุรกิจใหม่ร่วงลงเป็น ครั้งแรกในรอบ 9 เดือน อันเนื่องจากการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 5% เป็น 8% ทั้งนี้ ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจที่ปรับค่าตามฤดูกาลแล้ว ลดลงสู่ระดับ 46.4 จาก 52.2 ในเดือน มี.ค. โดยร่วงต่ำกว่าระดับ 50 ที่แบ่งแยกระหว่างการขยายตัวและการหดตัว
เยอรมนี เผยยอดสั่งซื้อภาคอุตฯดิ่ง 2.8% ทรุดหนักสุดรอบ 1 ปีครึ่ง กระทรวงเศรษฐกิจของเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมร่วงลง 2.8% ในเดือน มี.ค. จากเดือน ก.พ. ซึ่งเป็นการดิ่งลงมากที่สุดในรอบ 1 ปีครึ่ง ขณะที่ความต้องการสินค้าทุนและสินค้าอุปโภคบริโภคของเยอรมนีจากยูโรโซนทรุดตัวลง ผลสำรวจของรอยเตอร์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดสั่งซื้อจะเพิ่มขึ้น 0.3%
       สหรัฐ เผยประสิทธิภาพการผลิตร่วงลงเกินคาดใน Q1/2014 กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประสิทธิภาพการผลิตร่วงลง 1.7% ในไตรมาส 1/2014 ขณะที่ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเพิ่มขึ้น 4.2%นักเศรษฐศาสตร์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดไว้ว่า ประสิทธิภาพการผลิตจะลดลง 1.0% และต้นทุนแรงงานต่อหน่วยจะเพิ่มขึ้น 2.6% ใน ไตรมาส 1/2014

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
Global Momentum
+ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดขึ้น รับถ้อยแถลงเยลเลน
        วันพุธ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดขึ้น โดยดัชนี DJIA ปิดบวก 117.52 จุด หรือ 0.72% สู่ระดับ 16,518.54 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดเพิ่มขึ้น 10.49 จุดหรือ 0.56% สู่ระดับ 1,878.21 จุด และ Nasdaq ปิดปรับตัวขึ้น ปิดลดลง 13.09 จุด หรือ 0.32% สู่ระดับ 4,067.67 จุด หลังความเห็นจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณถึงการสนับสนุนเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง แต่ดัชนี Nasdaq ลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกันตามการร่วงลงของหุ้นกลุ่มอินเทอร์เน็ต

+ ตลาดหุ้นยุโรป ปรับขึ้นรับผลประกอบการสดใส
       วันพุธ ตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่ปิดขึ้น FTSE ปิดขยับลง 2.12 จุด หรือ 0.03 % สู่ 6,796.44จุด ดัชนี CAC40 ปิดปรับขึ้น 18.37 จุด หรือ 0.41 % สู่ 4,446.44 จุด และ DAX ปิดบวกขึ้น 53.77 จุด หรือ 0.57% สู่ 9,521.30 จุด โดยภาคเอกชนเปิดเผยผลประกอบการในทางบวก และปัจจัยนี้สามารถบดบังการดิ่งลงอย่างรุนแรงของ หุ้นบริษัทเฟียต ซึ่งมีสาเหตุมาจากความไม่มั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อแผนธุรกิจ ใหม่ของเฟียต

+ราคาน้ำมันดิบ ปรับขึ้น ตัวเลขสต็อกน้ำมันหนุน
        วันพุธ Brent ส่งมอบ มิ.ย. ปรับขึ้น 1.07 ดอลลาร์ สู่ 108.13 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน Nymex ส่งมอบ มิย. พุ่งขึ้น 1.27 ดอลลาร์ มาปิด ตลาดที่ 100.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล การลดลงอย่างพลิกความคาดหมายของสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐ ช่วยหนุนราคาน้ำมันดิบสหรัฐ ทางด้านราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ได้รับแรงหนุนจากความขัดแย้งในลิเบียที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

-ราคาทองคำ ปิดลง อากวิกฤติยูเครนลดระดับ
       วันพุธ ราคาสัญญาทองเดือนมิถุนายน ปิดตลาดดิ่งลง 1.5 % สู่ 1,288.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนเทขายทำกำไรทองออกมา หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียเรียกร้องให้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในยูเครนเลื่อนการจัดลงประชามติออกไป และกล่าวว่าเขากำลังถอนทหารออกจากบริเวณพรมแดนระหว่างรัสเซียกับยูเครน
รอยเตอร์โพลล์สำรวจจาก 28 นักวิเคราะห์ คาดว่าราคาทองคำเฉลี่ยปีนี้ อยู่ที่ $1262.50 และ $ 1254.20 ต่อออนซ์ใน 3Q และ 4Q ปีนี้ ตามลำดั้บ จากเศรษฐกิจสหรัฐฯที่แข็งแกร่งและการทำ QE ของเฟด หนุนค่าเงินดอลล์สหรัฐฯแข็งค่า

+ ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index ปิดทรงตัว
       วันพุธ ดัชนี Baltic Dry Index ปิดทรงตัวที่ระดับ 1,022 จุด หลังจาก ปี 56 พิ่มขึ้น +28.14%y-y เป็น 2227 จุด (จาก 1738 จุด ณ สิ้นปี 55) โดยระดับสูงสุดอยู่ที่ 2337 จุด เมื่อ 12/12/56 และระดับต่ำสุดอยู่ที่ 698 จุดเมื่อ 2/1/56 ขณะที่ระดับสูงสุดตลอดกาลอยู่ที่ 11793 และระดับตํ่าสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 554 กลุ่มเรือ (Shipping) คาดผ่านจุดต่ำสุด Bottom Out และฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก (แนะนำ เก็งกำไร PSL TP Consensus 22.84-27.25 บาท TTA TP Consensus 22.83-27.25 บาท)
ถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย, no. 14501 Thanomsaks@ktzmico.com 02-624-6244
ธิดารัตน์ ผโลดม, no. 16564 Tidaratp@ktzmico.com 02-624-6270

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!