Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Friday, 09 May 2014 17:55

Hits: 3241

บล.ทิสโก้ : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -23.59 จุด ป.ป.ช.ชี้มูลยิ่งลักษณ์ผิดจำนำข้าว
      SET อ่อนแอกว่าคาด โดยไม่เด้งตามหุ้นโลกที่ปรับตัวขึ้น หลังรัสเซียยอมถอนทหารจากบริเวณชายแดนยูเครน และปธน.ปูตินประสงค์เจรจาเพื่อยุติปัญหายูเครน หลัก ๆ เนื่องจากการเมืองภายในปท.กดดันเพิ่ม หลังสุเทพนัดเผด็จศึกเร็วขึ้นเป็น 9 พ.ค. รวมทั้งป.ป.ช.ชี้มูลยิ่งลักษณ์ผิดจำนำข้าว ต่างชาติพลิกซื้อสุทธิ 1.17 พันลบ.

ทิศทางตลาดวันนี้ : มีโอกาสแกว่งลงอีก แต่ไม่รุนแรง รอดูกำลังม็อบ กปปส.
       หุ้นโลกเมื่อคืน (8 พ.ค.) แกว่งไร้ทิศทาง โดยตลาดหุ้นยุโรปปรับขึ้น ขานรับธนาคารกลางสหภาพยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณผ่อนคลายการเงินเพิ่ม ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯ แม้จำนวนขอรับสวัสดิการลดลงมากกว่าคาด แต่การซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนี DJIA +0.2% แต่ S&P500 -0.1% และ NASDAQ -0.4% จากแรงขายหุ้นเทคโนโลยี ด้านการเมืองในปท. การชี้มูลความผิดยิ่งลักษณ์คดีจำนำข้าวของป.ป.ช.แทบไม่มีผลให้การเมืองเปลี่ยนแปลง เพราะศาลรธน.ตัดสินนายกฯ สิ้นสุดสถานะภาพไปแล้ว ขณะที่การยื่นเรื่องให้วุฒิสภาถอดถอนและดำเนินคดีทางอาญายังต้องใช้เวลาอีกพอสมควร ตอนนี้คงจับตาไปที่กำลังม็อบ กปปส.ที่เริ่มดีเดย์เผด็จศึกวันนี้ (9 พ.ค.) เป็นวันแรก

     อย่างไรก็ดี จากการขึ้นเวทีปราศรัยของสุเทพเมื่อคืนนี้ ที่เรียกร้องให้ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองออกมาช่วยมวลมหาประชาชนให้ภาระกิจการเรียกคืนอำนาจอธิปไตยเสร็จสิ้น โดยจะให้เวลา 3 วัน ก่อนที่ กปปส.จะลงมือทำเองนั้น บ่งชี้ว่าการเผด็จศึกคงไม่รวดเร็ว โดยสรุป มอง SET ยังมีโอกาสแกว่งลงอีก แต่ไม่รุนแรงเหมือน 2-3 วันก่อนหน้านี้ จากวังวนของปัญหาการเมือง ประกอบกับต่างชาติแม้พลิกซื้อสุทธิเมื่อวาน แต่กลับ Short SET50 Index Futures สูงถึง 1.29 หมื่นสัญญา แม้ส่วนหนึ่งมาจากการปรับสัญญาให้มีขนาดเล็กลง แต่ก็ยังถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงอยู่ดี ประเมินกรอบแนวรับ 1370-75 แนวต้าน 1390 คาดไม่มีหุ้นใด ๆ ติด Cash Balance เย็นนี้ (9 พ.ค.)

กลยุทธ์การลงทุน : Wait & See; กล้าเสี่ยงเทรดลุ้นเด้งสั้นๆ เน้นตั้งรับ-ขึ้นขาย
      เรายังคงมุมมองเดิม คือ การเมืองไทยเดือน พ.ค. มีแนวโน้มยื้อและเสี่ยงเกิดเหตุรุนแรง (ฝ่ายรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยต้องการเดินหน้าเลือกตั้งให้สำเร็จ แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นการเลือกตั้งที่ไม่เรียบร้อย ทำให้การเมืองตกอยู่ในวังวนเดิมเหมือนช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา, ฝ่าย กปปส. ต้องการปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง และจะสู้ไม่ถอยจนกว่าจะได้ชัยชนะ) ซึ่งจะกระทบประมาณการ GDP และกำไรบจ.อาจถูกหั่นลงอีกรอบ ล่าสุด ผู้ว่าการธปท. เล็งปรับเป้า GDP ปีนี้ลงในช่วงเดือน มิ.ย. จากปัจจุบันที่คาดการณ์ไว้ที่ 2.7% ภาพรวมการลงทุนแนะนำ Wait & See ก่อน ยังไม่รีบร้อนซื้อคืน รอดูพัฒนาการทางการเมืองต่ออีกสักระยะ แต่สำหรับนลท.ที่กล้าเสี่ยง อาจลุ้นเด้งสั้น ๆ ได้ หลัง SET ร่วงลงเร็วเกินไป และ SET แถวนี้เป็นระดับต้นทุนการซื้อต่างชาติรอบนี้ (ต้นทุน SETคำนึงถึงผลกระทบค่าเงินอยู่ที่ 1368, ไม่รวมค่าเงินอยู่ที่ 1379) หุ้นเด่น (Top picks) สำหรับเดือน พ.ค. คือ AMATA, ANAN, HANA, IVL, SPALI, STPI, TVO นอกจากนี้ การร่วงของราคาหุ้นหลายตัวในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้หุ้น HEMRAJ (มูลค่าเหมาะสม 5 บาท), GFPT (CONSENSUS 16.4 บาท) น่าสนใจต่อการลงทุนระยะสั้น โดยทั้งคู่ คาดงบ Q1 จะโต 12% YoY และ 2 เท่า YoY ตามลำดับ
หุ้นเด่นรายวัน : ไม่มี

ปัจจัยติดตาม  
วันที่ ปท. เหตุการณ์
9 พ.ค. TH กปปส.นัดชุมนุมใหญ่ ทวงคืนอำนาจอธิปไตย (ร่นเวลาเร็วขึ้นจากกำหนดเดิม 14 พ.ค.)
JP ตัวเลขดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของญี่ปุ่น ในเดือน มี.ค. (เบื้องต้น)
CH ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค-ผู้ผลิตของจีนในเดือน เม.ย.
GE ตัวเลขส่งออก-นำเข้า, ดุลการค้า และดุลบัญชีเดินสะพัดของเยอรมันในเดือน มี.ค.
US ตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐฯ ในเดือน มี.ค.
10 พ.ค. TH นปช.นัดชุมนุมแบบยืดเยื้อ
12 พ.ค. JP ตัวเลขดุลบัญชีเดินสะพัดของญี่ปุ่นในเดือน มี.ค.

ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
นักวิเคราะห์ : 
อภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล  เลขทะเบียนนักวิเคราะห์ : 18171  
02-633-6467 , apichatp@tisco.co.th
ธนพล บำรุงพงศ์  เลขทะเบียนนักวิเคราะห์ : 46537  
02-633-6471 ,  tanaphon@tisco.co.th