Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Friday, 09 May 2014 18:00

Hits: 3343

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : ซื้อเล่นรอบ 1,363
Technical : แนวรับ : 1,370 / 1,363 แนวต้าน 1.385 / 1,400
หุ้นแนะนำพิเศษ :SCB แนวรับ 154/159 แนวต้าน164.5/169
หุ้นเด่นรายวัน : TOP MC GUNKUL
       วันพฤหัสบดีตลาดหุ้นไทยปิดตลาดในแดนลบ โดยดัชนี SET Index ปิดที่ระดับ 1,379.02 จุด ลดลง 23.59 จุด(-1.68%) มูลค่าการซื้อขาย 39,734.07 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นซื้อสุทธิ 1,170.51 ล้านบาท
       แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,363- 1,400 ตลาดกังวลเรื่องผลกระทบหลังจาก ปปช ชี้ความผิดรักษาการณ์นายก และส่งเรื่องให้วุฒิสภาลงมติถอดถอน ว่าจะเกิดความรุนแรงของกลุ่มผู้ชุมนุม ในขณะที่ SET50 ระหว่างวันมีแนวต้าน 936 (940) วกกลับขึ้นมาจะกลับเป็นสัญญาณบวก ต่ำกว่าหลีกเลี่ยงเพื่อรอการปรับตัวแนวรับต่อไปที่ระดับ 923 GFM14 เก็งกำไรในกรอบ 19,810-20,120 GFQ14 เก็งกำไรในกรอบ 19,870-20,180
       กลยุทธ์ แรงขายในลักษณะของการ Panic ต่อสถานการณ์ทางการเมือง โดยเฉพาะเรื่องการยื่นถอดถอนนายกต่อวุฒิสภา ซึ่งในวันนี้จะมีการประชุมเพื่อเลือกประธานและรองประธาน รวมทั้งการชุมนุมใหญ่ของกลุ่ม กปปส. หากเกิดการปรับตัวลงวันนี้ในทางเทคนิคจะเข้าเขตขายมาก ซื้อระยะสั้นเล่นรอบ เน้นหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง กลุ่มสื่อสาร ปรับตัวลงแรง ซื้อ ADVANC SAMART INTUCH กลุ่มพลังงาน PTT PTTEP PTTGC BANPU กลุ่มธนาคาร SCB KTB หุ้นรายหลักทรัพย์ KTIS CPN RPC TUF ระยะกลาง ถือ

หุ้นแนะนำพิเศษ
     SCB (ราคาปิด 160 ซื้อ เป้าหมาย 191) ปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งจากการเป็นแบงก์ขนาดใหญ่และกลยุทธ์การเพิ่มส่วนแบ่งตลาดในกลุ่มสินเชื่อผู้ประกอบการSME และสินเชื่อรายย่อยที่สนับสนุนการเติบโตของสินเชื่ออย่างต่อเนื่องและเพิ่มความสามารถในการทำกำไร ในช่วง 1Q57 มีกำไรสุทธิ 13,129 ล้านบาทใกล้เคียงกับ 1Q56 และเพิ่มขึ้น 11.7%QoQ โดยคิดเป็น 24% ของประมาณการทั้งปีที่ 5.4 หมื่นล้านบาทซึ่งเติบโต 7% จากปี 56 เบื้องต้นฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการตามเดิม โดยมีความเสี่ยงที่จะไม่เป็นไปตามประมาณการดังกล่าวจากการตั้งสำรองหนี้สูญสูงกว่าสมมติฐาน ขณะที่ฐานะเงินกองทุนยังแข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 15.6% เงินกองทุนชั้นที่ 1 เท่ากับ 12.2%

หุ้นเด่นรายวัน
      TOP (ปิด 52 ถือเป้าปี 57: 54 บาท)แจ้งกำไรสุทธิ 1Q57 ออกมาสูงกว่าที่เราและตลาดคาดไว้ โดยมีกำไรสุทธิ 2,534 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจากที่ขาดทุนสุทธิ 14 ล้านบาทใน 4Q56 แต่ยังหดตัว 21.5% เมื่อเทียบกับ YoY กำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น qoq มาจากการฟื้นตัวของค่าการกลั่นหลังส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินซึ่งเป็นตัวกดดันค่าการกลั่นใน 4Q56 กลับมาฟื้นตัวประกอบกับบริษัทมีการบันทึกกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 692 ล้านบาทตรงข้ามกับ 4Q56 ที่ขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยน 1,815 ล้านบาท
MC (ราคาปิด 16.50 ซื้อเก็งกำไร) กองทุนในอเมริกาสนใจเข้าลงทุน เนื่องจากมองว่าพื้นฐานแกร่ง-งบดีต่อเนื่อง แนวโน้มผลการดำเนินงาน 1Q57 ดีกว่า 2Q56 ที่ทำได้ 676.55 ล้านบาท เนื่องจากมีฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นโดยคาดรายได้พุ่งขึ้น 20% (ที่มา : ทันหุ้น)
GUNKUL(ราคาปิด 12.80 ซื้อเก็งกำไร) มั่นใจปีนี้รายได้โต 50% กำไรสุทธิโต 10% โดยมีงานในมือแล้วกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ทั้งปี ล่าสุดเดินเครื่องโครงการ “โซลาร์ รูฟ ท็อป”4 โครงการ เริ่มสร้างรายได้ตั้งแต่เดือนพ.ค.นี้ (ที่มา : ข่าวหุ้น)

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* MAX/ TCC / TYCN มีผลบังคับใช้ 16 เม.ย. - 23 พ.ค. 57
* RASA มีผลบังคับใช้ 21 เม.ย. - 30 พ.ค. 57
* EFORL มีผลบังคับใช้ 28 เม.ย. - 6 มิ.ย. 57
* EVER/ IFEC / OCEAN / SUPER มีผลบังคับใช้ 6 พ.ค.-13 มิ.ย.
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : เพิ่มขึ้น 32.43 จุด
     ดัชนี ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้น 32.43 จุด เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และยอดส่งออกของจีนที่ปรับตัวสูงขึ้น โดยเมื่อวานนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ ลดลง 26,000 ราย สู่ระดับ 319,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 20,000 ราย ขณะเดียวกันสำนักงานศุลกากรของจีนก็รายงาน ยอดส่งออกของจีนในเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้น 0.9% ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้นเพียง 0.8% ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.8% yoy ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 32.43 จุด หรือ +0.20% ปิดที่ 16,550.97 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 16.17 จุด หรือ -0.40% ปิดที่ 4,051.50 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 2.58 จุด หรือ -0.14%ปิดที่ 1,875.63 จุด

ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 0.51 เหรียญ
      ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 51 เซนต์ เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นติดต่อกันในช่วง 2 วันก่อนหน้า อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบไม่ได้ลดลงมากนักเนื่องจากตลาดยังมีแรงหนุนจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ โดยเมื่อวานนี้กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ลดลง 26,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 20,000 ราย ขณะที่จีนรายงานยอดส่งออกเพิ่มขึ้นมากกว่าเมื่อเทียบกับการนำเข้าส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้า 1.8% ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบลดลงเพียง 51 เซนต์ ปิดที่ 100.26 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนมิ.ย.9 เซนต์ ปิดที่ 108.04 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดหุ้นนิกเกอิ
      การกลับตัวขึ้นโดยเปิดกระโดดขึ้นมาเมื่อวานนี้เป็นการเข้าซื้อระยะสั้นตอบรับเฟดยังคงดำเนินนโยบายอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ อัตราการว่างงานที่ปรับลงต่อเนื่อง รวมทั้งข้อมูลการส่งออกของจีนที่ปรับตัวดีขึ้น 0.9% แต่การกลับตัวขึ้นยังไม่ผ่านเส้นแนวต้านค่าเฉลี่ย 14,250 คาดยังคงเป็นการรอการประกาศผลประกอบการบริษัทเอกชนที่จะทยอยประกาศออกมา แนวรับสำคัญบริเวณ 14,000-13,885

ตลาดหุ้นฮั่งเส็ง
       ดัชนี กลับตัวขึ้นจากข้อมูลการส่งออกของจีนที่มีการขยายตัวดีขึ้นเมื่อวานนี้ กรอบแนวโน้มการเคลื่อนไหวยังคงเป็นการแกว่งตัวในทิศทางขาลง ระยะสั้นการปิดตัวของแท่งเทียนเมื่อวานนี้ด้วยแท่งเทียนโดจิที่ไม่สร้างจุดต่ำใหม่กว่าเป็นสัญญาณบวกและมีโอกาสที่จะทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 5 วัน 21,980-22,000 การผ่านยืนเหนือขึ้นมาจะเป็นสัญญาณซื้อเก็งกำไร แนวต้านหลัก 22,150 การผ่านยืนขึ้นมาจะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแนวโน้มใหญ่
Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 tawatchai@globlex.co.th
วิลาสินี 02-6725937 wilasinee@globlex.co.th
อาทิตย์ 02-6725946artit@globlex.co.th