Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Friday, 09 May 2014 18:16

Hits: 3461

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน

“ยังต้องจับตาการเมืองใกล้ชิด”
• หุ้นเริ่มวิเคราะห์/เปลี่ยนคำแนะนำทางพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
• ภาพตลาดวันก่อน : SET Index ร่วงแรง 23.59 จุด มาปิดที่ 1379.02 เพราะกังวลสุญญากาศการเมือง และวิตกว่าอาจจะมีเหตุการณ์รุนแรงหลังมีเหตุระเบิดหลายจุดเมื่อวานนี้ นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1.14 พันล้านบาท รายย่อยซื้อสุทธิ 305 ล้านบาท พอร์ตบล.ขายสุทธิเล็กน้อย 134 ล้านบาทส่วนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 1.3 พันล้านบาท
• ปัจจัยและกลยุทธ์ : การมีมติถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์จากการเป็นนายกรัฐมนตรีของป.ป.ช.เป็นไปตามที่หลายฝ่ายได้ประเมินไว้ รวมทั้งความเคลื่อนไหวของกลุ่มกปปส.และกลุ่มนปช.ในวันที่ 9 และ 10 พ.ค.นี้ก็เป็นไปตามเกมการเมืองที่คาดกัน แต่สิ่งที่ไม่แน่นอน คือ ปัญหาการเมืองจะจบอย่างไร และเมื่อไร โดยเรามองว่าคำตอบของการจบอย่างไรนั้นมีผลกระทบต่อตลาดน้อยกว่าการจบเมื่อไร เนื่องจากปมการเมืองกดดันธุรกิจ การลงทุนและเศรษฐกิจมากว่า 6 เดือนแล้ว จนทำให้หลายคน & หลายกลุ่มเกิดความอึดอัดและอยากให้สุญญากาศจบลงโดยเร็ว ไม่ว่าจะจบลงด้วยการเจรจาหรือด้วยแนวทางอื่นใดก็ตาม ดังนั้นถ้ามีสัญญาณว่าความยืดเยื้อทางการเมืองจะยุติ และใกล้จะได้รัฐบาลที่มีอำนาจในการบริหารประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชั่วคราว 1-2 ปี หรือเป็นรัฐบาลถาวรก็แล้วแต่ ก็จะเป็นข่าวบวกกับตลาดหุ้นซึ่งมักจะมองข้าม Shot ไปข้างหน้า (แต่ภาคเศรษฐกิจจริงจะต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวอีกระยะ) สำหรับเรื่องรายงานผลประกอบการ 1Q57 ของบจ.และปัจจัยภายนอก ในระยะสั้นมากมองว่ามีน้ำหนักค่อนข้าง Neutral

       กลยุทธ์ : ซื้อตามด้วยค่าบวก หรืออ่อนตัวที่แนวรับ 1370, 1350-1340 จุด แนวต้านระยะสั้นอยู่ที่ 1390, 1400 จุด โดยเน้นไปยังหุ้นพื้นฐานมั่นคง ฟื้นตัวเร็ว และมีปันผล โดยหุ้นพื้นฐานแนะนำซื้อลงทุนวันนี้เป็น TUF

Fundamental Pick
TUF แนะนำซื้อปิด 70.50 บาท ราคาพื้นฐาน 84.00 บาท
      • ปัญหาการเมืองในประเทศไม่ได้มีผลกระทบต่อผลประกอบการบริษัท เพราะรายได้ 95% เป็นการส่งออกไปต่างประเทศ กลยุทธ์สร้างการเติบโตนอกจากธุรกิจที่มีอยู่ในอนาคต คือ การเข้าซื้อกิจการที่กระจายในหลายภูมิภาค ล่าสุดสนใจตลาดแถบอเมริกาใต้ซึ่งมีศักยภาพแต่บริษัทส่งออกไปน้อยมากเพียง 1% เท่านั้น จุดเด่นของธุรกิจ TUF ในปี 57 คือ 1) ได้ประโยชน์จากธุรกิจกุ้งไทยที่ฟื้นตัวดีขึ้น จากช่วง2 ปีที่ผ่านมาเกิดโรคตายด่วน (EMS) และ 2) ธุรกิจทูน่าที่รับจ้างผลิต (OEM) มีคำสั่งซื้อเข้ามามากเพราะราคาทูน่าที่ลดต่ำลงในตลาดโลก อีกทั้งธุรกิจทูน่าที่ใช้ตรายี่ห้อของตนเองก็ให้อัตรากำไรขั้นต้นสูง คาดว่าอัตราการเติบโตกำไรสุทธิปีนี้สูงมากถึง 70% y-o-y แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน DBSV เท่ากับ 84 บาท

ปัจจัยต่างประเทศและโภคภัณฑ์
• ยูโรโซน : ECB มีมติคงอัตราดอกเบี้ย0.25% ตามคาด
• ธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.25% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในการประชุมเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ และในวันนี้ติดตามว่า ECB จะใช้มาตรการอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่ถ้าตัวเลขเงินเฟ้อในยูโรโซนต่ำนานเกินไป

•/+ อังกฤษ : BOE มีมติคงอัตราดอกเบี้ย0.5% ตามคาด เศรษฐกิจยังขยายตัวได้ดีต่อใน 2Q57
•/+ ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.5% และคาดว่าจะคงนโยบายในการซื้อสินทรัพย์ไว้ที่ 3.75 แสนล้านปอนด์ หรือ 6.29 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นตามที่ตลาดประเมินไว้
+ ผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของอังกฤษในเดือนเม.ย.ปรับตัวขึ้นแตะ 58.7 จาก 57.6 ในเดือนมี.ค. โดยเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในปีนี้ และเป็นการขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 ติดต่อกัน ขณะที่ดัชนีภาคการผลิตก็ปรับขึ้นเกือบทำสถิติใหม่ด้วย ซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษมีแนวโน้มที่จะเติบโตดีขึ้นใน 2Q57

+ สหรัฐ : ตัวเลขภาคแรงงานแข็งแกร่ง
+ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 พ.ค.57 ลดลง 26,000ราย สู่ระดับ 319,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ 325,000 รายส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ขยับขึ้นเล็กน้อย 4,500 ราย สู่ระดับ324,750 ราย ขณะที่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องหลังจากได้รับความช่วยเหลือในสัปดาห์แรกไปแล้วนั้นลดลง 76,000 ราย สู่ระดับ 2,685,000 รายในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26เม.ย.

+ จีน : ส่งออกเม.ย.57 เพิ่มขึ้น 0.9%
+ ทางการจีนเปิดเผยว่ายอดส่งออกเดือนเม.ย.57 ของจีนปรับตัวขึ้น 0.9% แตะที่ 1.8854 แสนล้านดอลลาร์ ส่วนการนำเข้าเพิ่มขึ้น 0.8% ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าในเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น1.8%YoY แตะที่ 1.845 หมื่นล้านดอลลาร์

• ตลาดหุ้นสหรัฐแกว่งแคบ...หุ้น Blue Chipปรับขึ้น แต่หุ้นเทคโนโลยียังถูกขายต่อ
• ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,550.97 จุด เพิ่มขึ้น 32.43 จุด หรือ +0.20% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,051.50 จุด ลดลง 16.17 จุด หรือ -0.40% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,875.63 จุดลดลง 2.58 จุด หรือ -0.14%

• สัญญาน้ำมันดิบอ่อนลงเล็กน้อย
• สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 51 เซนต์ ปิดที่ 100.26 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 9 เซนต์ ปิดที่ 108.04 ดอลลาร์/บาร์เรล

• สัญญาทองคำ COMEX ยังซบเซา
• สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 1.2ดอลลาร์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1287.7 ดอลลาร์/ออนซ์ปัจจัยในประเทศและหลักทรัพย์

• การเมือง : ป.ป.ช.มีมติถอดถอนยิ่งลักษณ์ทำให้ต้องเว้นวรรคการเมือง 5 ปี
• เมื่อวานนี้ (8 พ.ค.57) ป.ป.ช.มีมติ 7 ต่อ 0 ว่ามีมูลเพียงพอที่จะส่งเรื่องให้ที่ประชุมวุฒิสภาดำเนินการถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์จากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เนื่องจากปล่อยปละละเลยให้เกิดการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวไปต่างประเทศ ซึ่งการถอดถอนจะทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องเว้นวรรคทางการเมือง 5 ปี ส่วนคดีอาญา ที่ประชุมป.ป.ช.ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการไต่สวนต่อจากนี้ทันที แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไร โดยยืนยันว่าไม่ได้เป็นการรับลูกทางการเมืองตามที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์

• การเมือง : วันนี้ (9 พ.ค.) เลือกประธานวุฒิสภา
• วันนี้ (9 พ.ค.57) จะมีการเลือกตั้งประธานวุฒิสภา ซึ่งตามกฎหมายแล้ววุฒิสภาสามารถทำหน้าที่รัฐสภาในระหว่างที่ไม่มีสภาผู้แทนราษฎรได้ในเรื่องสำคัญและจำเป็นบางเรื่อง (ดูรายละเอียดได้ในกรอบด้านล่างนี้)
วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาระหว่างที่ไม่มีสภาผู้แทนราษฎรเจตนารมณ์ของ รัฐธรรมนูญฯ ทุกฉบับ ที่กำหนดให้มีวุฒิสภาที่มีวาระการดำรงตำแหน่งยาวนานกว่าสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประการหนึ่ง ก็คือ ต้องการให้ประเทศมีองค์กรที่เป็นตัวแทนของปวงชน เพื่อใช้อำนาจนิติบัญญัติอย่างต่อเนื่องไม่ว่างเว้น โดยสมาชิกวุฒิสภามีวาระดำรงตำแหน่ง ๖ ปีนับแต่วันเลือกตั้ง หรือวันที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศผลการสรรหา และเมื่อครบวาระแล้ว ให้สมาชิกวุฒิสภาซึ่งสิ้นสุดสมาชิกภาพตามวาระอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไป จนกว่าจะมีสมาชิกวุฒิสภาขึ้นใหม่ ในวาระเริ่มแรกให้สมาชิกวุฒิสภาที่มาจากการสรรหามีวาระ ๓ ปี นับแต่วันเริ่มต้นสมาชิกภาพ ต่างกับสภาผู้แทนราษฎรที่มีวาระดำรงตำแหน่งเท่ากัน และอาจถูกยุบก่อนครบวาระดำรงตำแหน่งได้อีกด้วย การที่สภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดหรือถูกยุบ ก็จะเหลือแต่วุฒิสภาเพียงสภาเดียว ทำให้ไม่ครบองค์ประกอบของ “ รัฐสภา ” ซึ่งต้องมีสองสภา คือ สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาการไม่ครบองค์ประกอบดังกล่าว ส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินกิจการต่าง ๆ ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญได้ ด้วยเหตุข้างต้นรัฐธรรมนูญจึงได้กำหนดให้วุฒิสภาทำหน้าที่รัฐสภาเฉพาะเรื่องที่สำคัญและจำเป็นบางเรื่อง ในระหว่างที่อายุสภาผู้แทนราษฎรสิ้นสุดลงหรือถูกยุบ ซึ่งมีดังนี้
(๑) การให้ความเห็นชอบผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ (ในกรณีที่พระมหากษัตริย์ มิได้ทรงแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์หรือ ในกรณีที่พระมหากษัตริย์ ไม่สามารถทรงแต่งตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เพราะยังไม่ทรงบรรลุนิติภาวะหรือเพราะเหตุอื่น )
(๒) รับการปฏิญาณตนของผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ก่อนเข้ารับหน้าที่
(๓) รับทราบการแก้ไขเพิ่มเติมกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พระพุทธศักราช ๒๔๖๗
(๔) รับทราบการแต่งตั้งพระรัชทายาทตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์พระพุทธศักราช ๒๔๖๗
(๕) การให้ความเห็นชอบพระนามผู้สืบราชสันตติวงศ์ (ตามที่คณะองคมนตรีเสนอ )
(๖) รับทราบการอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์
(๗) การให้ความเห็นชอบในการประกาศสงคราม
ที่มา : รัฐสภาไทย (Thai National Assembly)

• การเมือง : ก.ก.ต.เลื่อนวันนัดหารือเรื่องเลือกตั้งกับรัฐบาลเป็น 14 พ.ค. แต่รัฐบาลเร่งให้เร็วกว่านั้น
• ก.ก.ต.ขอเลื่อนการหารือเรื่องเลือกตั้งทั่วไปกับรัฐบาลออกไปเป็นวันที่ 14 พ.ค.57 โดยจะมีการหารือในแง่ของกฎหมายว่าใครมีอำนาจขึ้นทูลเกล้าฯ ร่างพ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้ง นายนิวัฒน์ธำรง ซึ่งปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี มีอำนาจนี้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลกำลังเร่งให้ก.ก.ต.เลื่อนวันหารือให้เร็วขึ้นเป็นก่อนวันที่ 12 พ.ค.57 ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นอย่างไร

- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.57ต่ำสุดในรอบ 150 เดือน...เลือกซื้อหุ้นพื้นฐานแกร่ง ได้รับผลกระทบจากปัญหาการเมือง & เศรษฐกิจไม่มาก หุ้นเด่น คือSPALI, CPALL
- ผลสำรวจของม.หอการค้าไทยระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยในเดือนเม.ย.57ลดลงต่อเป็น 67.8 โดยเป็นการลดลงต่อเนื่อง 13 เดือน และดัชนีต่ำสุดในรอบ 150 เดือน ปัจจัยหลักที่กดดัน คือ ปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองที่ยืดเยื้อ และเศรษฐกิจชะลอตัว ดัชนีความเชื่อมั่นมีแนวโน้มว่าจะลดลงต่อในเดือนพ.ค.-มิ.ย.57 เพราะเศรษฐกิจใน 2Q57 ยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว

       ความเห็นเชิงกลยุทธ์ Retail Research : เราประเมินว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคใน 2Q57 จะยังคงต่ำต่อ เนื่องจากปัญหาการเมืองที่ยืดเยื้อจนมาถึงพ.ค.57 และยังมีไม่แน่นอนสูง ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบจากความเชื่อมั่นผู้บริโภคตกต่ำ คือ ที่พักอาศัย, พาณิชย์, กลุ่มเช่าซื้อ & สินเชื่อรายย่อย, สื่อ & บันเทิง, โรงแรม & ท่องเที่ยว เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ถ้าปัญหาการเมืองยุติลงได้ภายในกลางปี 57 ก็มีแนวโน้มว่าความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะกระเตื้องขึ้นใน 2H57ในเชิงกลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำเลือกซื้อหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี ที่ถูกกระทบจากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจซบเซาจำกัด ซึ่งหุ้นเด่นในกลุ่มที่มีความอ่อนไหวกับความเชื่อมั่นผู้บริโภค คือSPALI (ยอดขายและการรับรู้รายได้ในปี 57 อยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่าอุตสาหกรรม มีความหลากหลายของผลิตภัณฑ์และฐานลูกค้า ฐานะการเงินแข็งแรง แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 24บาท) และ CPALL (จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคขั้นพื้นฐาน ขยายสาขาใหม่ต่อเนื่อง มีระบบการจัดการด้านสินค้าคงคลังและโลจิสติกส์ที่ดี แนะนำซื้อ ราคาพื้นฐาน 48 บาท)
นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค arparporns@th.dbsvickers.com