WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.ฟินันเซีย ไซรัส : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

 

คาด SET มีสิทธิรีบาวด์ให้เทรดดิ้งสั้นตามรอบได้..ก่อนแกว่งลงอีก!!
      กลยุทธ์ : แม้เราคาดว่า SET อยู่ในช่วงแกว่งพักตัวลงในกรอบกว้าง แต่ก็มีสิทธิรีบาวด์ช่วงสั้นสลับให้เห็น ดังนั้นจึงแนะนำให้เลือกหุ้นเข้าซื้อเทรดดิ้งตามรอบได้ เพื่อรอขายทำกำไรในจังหวะดีดกลับต่อไป แต่ส่วนที่จะซื้อเพื่อถือลงทุนยังสามารถรอการปรับตัวลงลึกกว่านี้ได้
หุ้นเด่นทางเทคนิค : BECL, SINGER, BCH(buy back)
      แนวโน้ม : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาแม้ว่า SET จะยังมีจังหวะแกว่งตัวลงอยู่ แต่ก็พอจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาหนุนให้ดัชนีอยู่ในลักษณะแกว่งทรงตัวได้บ้าง เนื่องจากในระหว่างสัปดาห์ตลาดปรับตัวลงมาค่อนข้างแรงพอควรแล้ว ขณะที่เช้านี้แม้ว่าตลาดหุ้นต่างประเทศจะยังอยู่ในช่วงแกว่งตัวผันผวนให้เห็นแต่ก็พอจะมีจังหวะแกว่งบวกด้วย เนื่องจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีต่อเนื่องของสหรัฐ โดยล่าสุดตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งประจำเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นเกินคาด รวมทั้งมีแรงซื้อในหุ้นกลุ่มค้าปลีกในสหรัฐ หลังยอดขายของบริษัท แก๊ป อิงค์ ขยายตัวเกินคาด ทำให้ FSS คาดว่า SET มีสิทธิที่จะมีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามาช่วยผลักดันให้ดัชนีสามารถรีบาวด์กลับไปเคลื่อนไหวเป็นบวกได้บ้าง โดยเฉพาะหลังจากในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาการชุมนุมของทั้งฝ่ายต่อต้านและสนับสนุนรัฐบาลยังไม่มีเหตุการณ์บานปลายอย่างที่กังวลกัน และนักลงทุนอาจมีความหวังว่าสถานการณ์การเมืองจะผ่อนคลายลงได้บ้าง จากการประชุมหารือนอกรอบของ สว. ในบ่ายวันนี้(12 พ.ค.) หลังจากปลายสัปดาห์ที่แล้วมีการเลือกประธานวุฒิฯ ซึ่งผลออกมาตามคาด อย่างไรก็ตามเนื่องจากสถานการณ์การเมืองในบ้านเรายังไม่ชัดเจน ดังนั้น FSS ยังแนะนำแค่เพียงการเข้าเทรดดิ้งสั้นตามรอบในลักษณะ “ลงซื้อ-ขึ้นขาย”

แนวรับ 1376-1371 , 1368-1365 จุด แนวต้าน 1385-1390 , 1395-1400 จุด
   Fund Flow วานนี้ไหลออกจากตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยไหลออกจากตลาดหุ้นไต้หวัน US$191.1 ล้าน เกาหลีใต้ US$65.8 ล้าน และ ไทย US$57.8 ล้าน แต่ไหลเข้าตลาดหุ้นอินโดนีเซีย US$42.1 ล้าน ฟิลิปปินส์ US$17.4 ล้าน และเวียดนาม US$4.3 ล้าน ค่าเงินภูมิภาคเช้านี้อ่อนค่าเล็กน้อย Flow น่าจะยังไหลออกต่อ

 

ข่าว/หุ้นเด่นมีประเด็น
  (-) Deadlock นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 ได้รับเสียง 96:51 ให้เป็นประธานวุฒิสภาคนต่อไป ซึ่งจะมีการนำขึ้นทูลเกล้าฯเพื่อแต่งตั้งอย่างเป็นทางการต่อไป วันนี้นายสุรชัยจะเรียกประชุมส.ว.นอกรอบถกแก้ปัญหาบ้านเมือง เพราะเหลือเพียงสภาเดียวที่ทำงานได้ ขณะที่ประธานกกต.ระบุว่าวันเลือกตั้งที่กำหนดไว้ 20 ก.ค. อาจเลื่อนเป็นต้น ส.ค. เพราะยังไม่สามารถชี้ขาดสถานะนายนิวัฒน์ธำรงได้ว่ามีอำนาจในการทูลเกล้าและรับสนองฯแต่งตั้งประธานวุฒิสภาและร่างพ.ร.ฎ.เลือกตั้งใหม่หรือไม่ หากมีการแต่งตั้งประธานวุฒิสภาเมื่อใด กระบวนการถอดถอนน.ส.ยิ่งลักษณ์และ 308 ส.ส.-ส.ว.ที่แก้รธน.จะเดินหน้า หากส.ส.ดังกล่าวมีความผิด จะขาดคุณสมบัติการสมัครรับเลือกตั้ง
  (-) เรทติ้งของประเทศมีความเสี่ยง Fitch เตือนการเมืองที่ยืดเยื้ออาจส่งผลด้านลบต่อความมั่นคงทางการเงินและการลงทุนของไทย ก่อนหน้านี้ Moody’s ก็เตือนแล้ว อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 5 ปีปรับตัวลงต่ำสุดในรอบเกือบ 1 ปีที่ 2.99% เมื่อวันศุกร์ จากความกังวลเรื่องการเมือง ค่าเงินบาทอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนที่ 32.62 บาท/ดอลลาร์
  (-) กำไรของบจ.อาจถูกปรับประมาณการลงอีก ล่าสุด 37% ของหุ้นใน FSS Coverage รายงานกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 13% Q-Q ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มพลังงานและปิโตรที่ฟื้นตัว แต่ลดลงถึง 16% Y-Y เพราะการเมือง กลุ่มที่แย่ที่สุด Y-Y เป็นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคในประเทศ ได้แก่ วัสดุก่อสร้าง ค้าปลีก หลักทรัพย์ ยานยนต์ สายการบิน และมีเดีย มีเพียงกลุ่มอิเล็คทรอนิคส์ที่ดีขึ้นมาก และกลุ่ม ICT ที่ยังพอทรงตัวได้ สัปดาห์นี้จะครบกำหนดที่ทุกบริษัทต้องส่งงบการเงิน ระวังการปรับประมาณการกำไรลงที่อาจตามมา
  (+) SVI กำไรเท่ากับคาด กำไรสุทธิ 1Q14 ลดลง 74% Q-Q แต่เพิ่มขึ้น 5% Y-Y ส่วนกำไรปกติลดลง 2% Q-Q เพราะลูกค้าเลื่อนคำสั่งซื้อออกไป แต่เพิ่ม 1,346% Y-Y เพราะปีก่อนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม คิดเป็น 26% ของประมาณการทั้งปี คงราคาเป้าหมาย 4.50 บาท ราคาหุ้นปรับลงมาจน Upside กว้างขึ้น จึงเพิ่มคำแนะนำเป็นซื้อ จากเดิมถือ
   (0) BH กำไรดีเกินคาด กำไรสุทธิ 1Q14 เพิ่ม 2% Q-Q และ 4% Y-Y แกร่งเกินคาด เราปรับประมาณการกำไรปกติปีนี้ขึ้นเล็กน้อย 2% เป็น 2,788 ล้านบาท โต 11% Y-Y (แต่ยังเติบโตต่ำกว่า BGH) และปรับราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 107 บาทจาก 100 บาท แต่ราคาหุ้นสะท้อนข่าวบวกไปมากแล้ว เราปรับคำแนะนำลงเป็นถือ จากเดิมซื้อ
  (+) SAT กำไรต่ำกว่าคาดเล็กน้อยแต่ใกล้จุดต่ำสุดแล้ว กำไรสุทธิ 1Q14 ลดลง 59% Q-Q และ 28% Y-Y ส่วนกำไรปกติลด 21% Q-Q และ 29% Y-Y คิดเป็น 24% ของประมาณการทั้งปี แนวโน้ม 2Q14 จะชะลอลงอีกและเป็นจุดต่ำสุดของปีนี้ เราปรับกำไรทั้งปีลงเล็กน้อย 3% เป็น 690 ล้านบาท ลดลง 15% Y-Y แต่ราคาเป้าหมายที่อิง PE 12 เท่าไม่เปลี่ยนไปมากนัก จึงยังคงราคาเป้าหมายที่ 20 บาท แนะนำทยอยซื้อ
  (0) NOK กำไรต่ำกว่าคาดมาก โดยกำไรสุทธิ 1Q14 ลดลงถึง 72% Q-Q และ 90% Y-Y ต่ำกว่าเราและตลาดคาดกว่า 20% แต่เชื่อว่ากำไรผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1Q14 อย่างไรก็ตาม เราปรับกำไรทั้งปีลง 10% เหลือ 795 ล้านบาท ลดลง 25% Y-Y ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 18 บาทจาก 20 บาท ยังคงแนะนำเพียงถือ

  ตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาขยับตัวเพิ่มขึ้นได้อีก 32.37 จุด จุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่อง จากหุ้นกลุ่มค้าปลีกและการแพทย์ที่พุ่งขึ้น
  ส่วนตลาดหุ้นยุโรปเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมาขยับตัวลดลงหลังผลประกอบการบริษัทเอกชนหลายแห่งออกมาอ่อนแอกว่าคาด รวมถึงนักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายต่อสถานการณ์ความไม่สงบในยูเครน
  ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดเช้านี้แกว่งตัวในกรอบแคบโดยนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย โดยจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองในหลายๆประเทศ
  ค่าเงินบาทยังแกว่งตัวอ่อนค่าลงต่อเนื่อง คาดวันนี้เคลื่อนไหวในกรอบ 32.55-32.68 บาท/ดอลลาร์
  ราคาน้ำมันดิบในตลาด NYMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 0.27 ดอลลาร์/บาร์เรล มาปิดที่ 99.99 ดอลลาร์/บาร์เรล จากรายงานที่ว่าสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่สูง
  ราคาทองคำในตลาด COMEX ส่งมอบเดือน มิ.ย. ขยับลง 0.10 ดอลลาร์/ออนซ์ มาปิดที่ 1,287.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น จากตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงหลังที่ออกมาค่อนข้างน่าพอใจ
Contact person : Somchai Anektaweepon Research Dept. Tel: 02-646-9967, 02-646-9852

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!