Details

Category: บทวิเคราะห์

Published: Monday, 12 May 2014 17:46

Hits: 3245

บล.ธนชาต : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market Outlook
  Rebound ด้วยระยะจำกัด...ลุ้นการประชุม กกต.วันที่ 14 พ.ค.นี้: SET ปรับลดลงทำจุดต่ำสุดที่ 1,3171 จุด เมื่อวันศุกร์ที่สามารถกลับมาปิดตลาดที่ 1,377.37 จุด หรือปรับลดลง 0.12% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.6 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นสุทธิ 1,886 ล้านบาท...สำหรับแนวโน้ม SET วันนี้ คาดหวังการ Rebound ด้วย Upside ระยะสั้นจำกัดที่ 1,395-1,400 จุด ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก 1) SET ทดสอบแนวรับระยะกลางบริเวณ 1,370-1,375 จุด เมื่อวันศุกร์ยังไม่หลุด มีจังหวะ Technical Rebound ระยะสั้น 2) การชุมนุมใหญ่ช่วงสุดสัปดาห์ของ กปปส. และ นปช.ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น 3) ความคาดหวังเชิงบวกต่อการประชุม กกต.วันที่ 14 พ.ค.นี้ กรณีการ “เลือกตั้ง” ใหม่

  “ลดพอร์ต” ที่แนวต้าน 1,395-1,400 จุด ในจังหวะ Rebound: เราแนะนำ “ลดพอร์ต” ในจังหวะ Rebound บริเวณ 1,395-1,400 จุด เนื่องจาก 1) การเมืองยังไร้ทิศทางต่อไป การเลือกตั้งเกิดได้ยากถ้ายังขัดแย้ง 2) SET มี Valuation ไม่ถูกหลังปรับสูงขึ้น 13% จากจุดต่ำสุดของปี ที่ PE 13.6x และ EPS Growth < 8% และ 3) ในทางเทคนิคเกิดสัญญาณ Double Tops + Bearish Engulfing และสัญญาณ “ขาย” ระยะสัปดาห์

Tactical Portfolio (1-3 months)
  TNS แนะนำ “ถือ” BH, BTS, CPALL, DTAC, INTUCH, JAS, SAMART และ SPCG ใน Tactical Portfolio ต่อเนื่อง ขณะที่ถือเงินสดในสัดส่วน 20% ของพอร์ต รองรับแนวโน้มการ “พักฐาน” ระยะสัปดาห์
  BH: แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมายพื้นฐาน 107 บาท ผลการดำเนินงาน 1Q14 ที่ 639 ล้านบาท +4% y-y, +2% q-q ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เล็กน้อย เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นดีกว่าที่คาดการณ์ไว้
  BTS: แนะนำ “ซื้อ” เป้าหมายพื้นฐาน 9.60 บาท ล่าสุด VGI ประกาศกำไรปี 2014 ที่ 1,146 ล้านบาท ใกล้เคียงคาด ขณะที่ราคาปัจจุบัน BTS ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 7.5-8.1% ในระยะ 12-24 เดือนข้างหน้า
  Tactical Portfolio: Tactical Portfolio ให้อัตราผลตอบแทน -4.19% ต่ำกว่า SET ที่ปรับดลง -3.10% อยู่ 1.08% โดยหุ้นที่ให้อัตราผลตอบแทนต่ำที่สุดในพอร์ตได้แก่ SPCG, JAS, และ SAMART ที่ปรับลดลงแรง 5.3-7.6% ขณะที่หุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนดีกว่า SET ได้แก่ BH และ CPALL ที่ปรับลดลง 1.59-2.3%

Technical
  ลงต่อรอเข้าซื้อ: คาดหวังโอกาสที่ตลาดจะเริ่มมีการฟื้นตัวขึ้นได้ในระยะสัปดาห์ เนื่องจากดัชนีสามารถยืนเหนือระดับ 1375 จุดได้ และเกิดแท่งเทียนลักษณะ Spinning Bottom ความเสี่ยงจำกัดที่ 1360 จุด สำหรับวันนี้คาดว่าดัชนี SET จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1370-1385 จุด
  หุ้นแนะนำซื้อระยะ 1 สัปดาห์ :TUF ฟื้นตัวขึ้นมาใกล้ทดสอบยอดเดิมใกล้เคียงซึ่งอยู่ที่ระดับ 71.25 บาท และคาดว่าจะมีโอกาสทะลุผ่าน 71.50 บาท เปลี่ยนกรอบซื้อขายขึ้นไปสู่เป้าหมายใหม่ที่ 73.50 บาท VNG สิ้นสุดการพักตัวระยะสั้น และคาดว่าจะมีโอกาสทะลุผ่าน 4.08 บาท โดยมีเป้าหมายราคาขึ้นไปสู่ยอดสูงสุดใหม่ที่ 4.30 บาท SCCC เริ่มฟื้นตัว กลับมาอยู่เหนือระดับ 376 บาท เป็นสัญญาณซื้อ โดยคาดว่าจะมีโอกาสทดสอบแนวต้านย่อย 382 บาท มีเป้าหมายขึ้นไปสู่ระดับ 392-395 บาท

TFEX Recommendation
  SET50 Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน โดยมีเป้าหมายการปรับลดลงระยะสัปดาห์ที่ MAV200 วันบริเวณ 927 จุด หรือถัดไปที่ MAV75 วัน (3 เดือน) ที่บริเวณ 912 จุด ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 940 จุด
  Gold Futures: แนะนำ “ถือ” สถานะ Short ต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อน ด้วยเป้าหมายการปรับลดลงที่ 19,600 บาท ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 20,100 บาท ทั้งนี้แม้ราคาทองคำจะทรงตัวในช่วงปลายสัปดาห์ก่อน แต่ค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงล่าสุดที่ 32.6 บาท/ดอลลาร์ฯ ส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศปรับสูงขึ้น
  Oil Futures: แนะนำ “เปิด” สถานะ Long ด้วยเป้าหมายการปรับสูงขึ้นที่ 3,565 หรือถัดไปที่ 3,610 ขณะที่กำหนด Trailing Stop ที่ 3,500

Thai Strategy Team นพดล พิริยวุฒิ อดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล