WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRISทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 วงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ธ. เกียรตินาคิน'ที่ระดับ 'BBB/Stable'

          ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ชุดใหม่ของธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) ในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาทที่ระดับ “BBB” ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของธนาคารที่ระดับ “A-” ด้วย โดยแนวโน้มยังคง “Stable” หรือ คงที่อันดับเครดิตสะท้อนถึงความเชี่ยวชาญของธนาคารในธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์และธุรกิจตลาดทุน อันดับเครดิตยังพิจารณาถึงแหล่งรายได้ของธนาคารที่มีการกระจายตัวมากขึ้นและเงินกองทุนที่อยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกลดทอนจากส่วนแบ่งทางการตลาดของธนาคารที่มีขนาดเล็ก รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่ค่อนข้างสูงและคุณภาพของสินเชื่อที่ด้อยลง ทั้งนี้ การชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยและความซบเซาของยอดขายรถยนต์ภายในประเทศยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจจำกัดการเติบโตและระดับความสามารถในการทำกำไรของธนาคาร

      อันดับเครดิต 'BBB'สำหรับหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ชุดใหม่ของธนาคาร สะท้อนความเสี่ยงในการด้อยสิทธิและความเสี่ยงในการไม่ชำระหนี้ตามเงื่อนไขการรองรับผลขาดทุนเมื่อธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ ตราสารดังกล่าวมีคุณสมบัติที่สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ Basel III และเป็นไปตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)  เพื่อนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 อย่างไรก็ตาม ตราสารนี้จะสามารถนับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ได้ต่อเมื่อได้รับอนุมัติจาก ธปท. แล้ว ตราสารประเภทนี้มีลักษณะด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ไม่สามารถเลื่อนชำระดอกเบี้ย และไม่สามารถแปลงสภาพได้ ธนาคารสามารถไถ่ถอนตราสารคืนทั้งจำนวนก่อนวันครบกำหนดได้ภายหลังระยะเวลา 5 ปีนับจากวันที่ออกตราสารและได้รับความเห็นชอบจาก ธปท. ผู้ถือตราสารประเภทนี้มีสิทธิด้อยกว่าผู้ฝากเงินและผู้ถือหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของธนาคาร ทั้งนี้ ตราสารดังกล่าวสามารถถูกตัดเป็นหนี้สูญได้ในกรณีที่หน่วยงานกำกับดูแลพิจารณาว่าธนาคารมีผลการดำเนินงานที่ไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ และได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ธนาคาร ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้

         แนวโน้มอันดับเครดิต'Stable'หรือ 'คงที่'สะท้อนการคาดการณ์ว่าธนาคารจะยังคงรักษาระดับความสามารถในการทำกำไร รวมทั้งระดับเงินกองทุนไว้ได้ในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

      สถานะเครดิตของธนาคารอาจได้รับผลกระทบในทางลบหากความสามารถในการทำกำไรยังคงลดลงอันเป็นผลจากพอร์ตสินเชื่อที่หดตัว หรือต้นทุนด้านเครดิตเพิ่มขึ้นเนื่องจากคุณภาพสินเชื่อเสื่อมถอยลง สถานะเครดิตในทางบวกสำหรับธนาคารจะเกิดขึ้นกรณีที่ธนาคารได้ประโยชน์จากการผสานพลังร่วมในกลุ่มโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นและมีสถานะทางการเงินที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม สถานะเครดิตในทางบวกยังไม่น่าเกิดขึ้นได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทยยังคงอ่อนแอ

      ธนาคารเกียรตินาคินมีขนาดของสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 12 จากธนาคารพาณิชย์ไทย 18 แห่ง ณ เดือนกันยายน 2558 โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดของสินเชื่อที่ 1.6% และเงินรับฝากที่ 1.0% ตามแผนกลยุทธ์การเติบโต ธนาคารได้รวมกิจการกับ บริษัท ทุนภัทร จำกัด (มหาชน) เมื่อปี 2555 และใช้ชื่อกลุ่มว่า กลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร (กลุ่มเกียรตินาคินภัทร) การรวมกิจการนี้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในธุรกิจตลาดทุนให้แก่กลุ่ม ทั้งนี้ แหล่งรายได้ของธนาคารในปัจจุบันมีการกระจายตัวมากขึ้น โดยมีรายได้ค่านายหน้าค้าหลักทรัพย์ ค่าธรรมเนียมในธุรกิจวาณิชธนกิจ และกำไรจากการค้าหลักทรัพย์เป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม จากการที่กำไรของธนาคารได้มาจากธุรกิจตลาดทุนในสัดส่วนที่มากกว่าธนาคารอื่น ดังนั้น ผลประกอบการของธนาคารจึงอาจมีความอ่อนไหวต่อความผันผวนในตลาดทุนได้มากกว่าผลประกอบการของธนาคารอื่น

         พอร์ตสินเชื่อของธนาคารยังคงหดตัวต่อเนื่องตามแนวโน้มอันจำกัดของยอดจำหน่ายรถยนต์และสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในประเทศไทย รวมถึงผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย ทั้งนี้ สินเชื่อและดอกเบี้ยค้างรับของธนาคาร ณ เดือนกันยายน 2558 มีทั้งสิ้น 177.8 พันล้านบาท ลดลง 4% จากเดือนธันวาคม 2557 ธนาคารมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของสินเชื่อซึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์ที่เน้นในตลาดเฉพาะกลุ่ม โดยธนาคารมีพอร์ตสินเชื่อขนาดใหญ่ 2 กลุ่ม ได้แก่ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (ประมาณ 68% ของสินเชื่อรวม) และสินเชื่อกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการก่อสร้าง (21%) นอกจากนี้ ธนาคารยังปล่อยสินเชื่อที่มีความเสี่ยงสูงเพื่อจะได้ผลตอบแทนที่มากเพียงพอต่อต้นทุนทางการเงินซึ่งอยู่ในระดับสูงด้วย ทั้งนี้ ธนาคารมีความเสี่ยงด้านเครดิตทั้งจากสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้ว (ซึ่งมีสัดส่วนมากกว่า 40% ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ทั้งหมด) สินเชื่อกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และสินเชื่อการค้าในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยอาจส่งผลกระทบต่อคุณภาพสินเชื่อของธนาคารได้ในกรณีที่เศรษฐกิจทรุดตัวลง

       คุณภาพพอร์ตสินเชื่อของธนาคารด้อยลงในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ สินเชื่อด้อยคุณภาพคงค้างของธนาคารเพิ่มขึ้นจาก 5.6 พันล้านบาท ในปี 2555 เป็น 11.6 พันล้านบาท ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 ทั้งนี้ อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม ณ เดือนกันยายน 2558 เท่ากับ 6.5% โดยสูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม ในขณะที่ปริมาณสำรองที่มีต่อสำรองพึงกันของธนาคาร เท่ากับ 155% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย

     ธนาคารมีกำไรสุทธิในปี 2557 จำนวน 2.7 พันล้านบาท ลดลง 40% จากปีก่อน อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยลดลงจาก 1.84% ในปี 2556 เป็น 1.08% ในปี 2557 ความสามารถในการทำกำไรของธนาคารลดลงเป็นผลจากการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและการเพิ่มขึ้นของต้นทุนด้านเครดิต อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการของธนาคารปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในปี 2558 โดยมีกำไรสำหรับงวด 9 เดือนแรกของปี 2558 จำนวน 2.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ธนาคารพยายามลดต้นทุนทางการเงินโดยได้ขยายฐานเงินทุนไปยังผู้ฝากเงินรายย่อย อย่างไรก็ตาม ต้นทุนทางการเงินของธนาคารยังคงอยู่ในระดับที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรม

    เงินกองทุนของธนาคารยังคงอยู่ในระดับสูงและเพียงพอต่อแผนการเติบโตในอนาคต โดย ณ เดือนกันยายน 2558 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงเท่ากับ 14.53% และมีอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยงเท่ากับ 14.91% ซึ่งสูงกว่าอัตราส่วนขั้นต่ำที่กำหนดโดย ธปท. ที่ระดับ 6.00% และ 8.50% ตามลำดับ

ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (KK)

อันดับเครดิตองค์กร:              A-

อันดับเครดิตตราสารหนี้:

KK164A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 600 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559     A-

KK165A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 3,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559  A-

KK168A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559  A-

KK168B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 1,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559 A-

KK16DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 975 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2559    A-

KK172A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 4,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560  A-

KK174B: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 900 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2560     A-

KK187A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 240 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561     A-

KK18DA: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 625 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561    A-

KK18DB: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 10 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2561      A-

หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ในวงเงินไม่เกิน 1,500 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2560            A-

หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่นับเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 2 ในวงเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายในปี 2568  BBB

แนวโน้มอันดับเครดิต:           Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com

        ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2231-3011 ต่อ 500 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

         และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้ ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!