WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TMB บญทกษ หวงเจรญทีเอ็มบี มีกำไรจากการดำเนินงานก่อนสำรองเติบโตต่อเนื่อง 6% ขณะที่ยังตั้งสำรองอย่างระมัดระวัง อัตราส่วนสำรองต่อ NPL ยังแข็งแกร่งที่ 140%  

    ทีเอ็มบี หรือ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) แจ้งผลประกอบการ ไตรมาส 1 ปี 2559 ในวันนี้ โดยธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองฯ จำนวน 4,571 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว ธนาคารยังคงตั้งสำรองฯอย่างระมัดระวังที่ระดับค่อนข้างสูงเป็นจำนวน 1,877 ล้านบาทในไตรมาสนี้ แม้ว่าค่าใช้จ่ายสำรองจะลดลง 21% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เพื่อธนาคารยังคงอัตราส่วนสำรองต่อ NPL อยู่ในระดับสูงที่ 140% ทั้งนี้ หลังสำรองธนาคารฯ มีกำไรสุทธิที่ 2,092 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%

    นายบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารทีเอ็มบี กล่าวว่า สินเชื่อเติบโต 1% ในไตรมาสนี้ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยซึ่งเป็นผลจากการที่ธนาคารปรับปรุงกระบวนการนำเสนอสินเชื่อให้มีความรวดเร็วและถูกต้องตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีขึ้น ทำให้ลูกค้าสนใจใช้ผลิตภัณฑ์ของธนาคารมากขึ้น ในขณะที่เงินฝากลดลงเล็กน้อย 1% โดยหลักมาจากการบริหารสัดส่วนของเงินฝากให้สอดคล้องกับการเติบโตของสินเชื่อ โดยสัดส่วนสินเชื่อต่อเงินฝากอยู่ที่ 92% ในขณะที่เงินฝากลูกค้าบุคคลยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่ 3% อีกทั้ง ธนาคารยังประสบความสำเร็จในการขยายเงินฝากธุรกรรมทางการเงิน (Transactional deposit) จากฐานเงินฝากลูกค้าบุคคล โดยเงินฝาก All free ยังเติบโตได้ดีโดยเพิ่มขึ้น 37% จากปลายปีที่แล้ว

     ในไตรมาสนี้ธนาคารมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 4% จากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว สำหรับรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยขยายตัวต่อเนื่องที่ 10% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากลูกค้าบุคคลโดยเฉพาะค่าธรรมเนียมผลิตภัณฑ์แบงก์แอสชัวรันส์ อันเป็นผลจากการที่ธนาคารพัฒนาผลิตภัณฑ์แบงก์แอสชัวรันส์ให้สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้หลากหลายมากขึ้น อีกทั้งธนาคารยังมีค่าธรรมเนียมจากหนังสือค้ำประกันและธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น

     ทั้งนี้ รายได้รวมของธนาคารในไตรมาสนี้อยู่ที่ 8,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% ขณะที่ค่าใช้จ่ายทั้งหมดมีจำนวน 3,911 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 10% อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการดำเนินงานหลักเพิ่มขึ้นเพียง 4% ทำให้ธนาคารมีกำไรจากการดำเนินงานหลักก่อนสำรองฯที่ 4,571 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว 6%

       ส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) มีจำนวน 21,452 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 979 ล้านบาทจาก 20,473 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2558 ทำให้สัดส่วน NPL เพิ่มขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 3.11% เมื่อเทียบกับ 2.99% ในไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ในระดับที่คาดการณ์ไว้

      ธนาคารยังคงตั้งสำรองอย่างระมัดระวัง โดยตั้งสำรองในระดับสูงที่จำนวน 1,877 ล้านบาทในไตรมาสนี้ แม้ว่าค่าใช้จ่ายสำรองจะลดลง 21% จาก 2,387 ล้านบาท ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพื่อให้ธนาคารยังคงสัดส่วนสำรองฯ ต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ในระดับแข็งแกร่งที่ 140% โดยหลังตั้งสำรองฯ ธนาคารมีกำไรสุทธิ 2,092 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28%

    ขณะเดียวกัน ธนาคารยังคงดำรงสถานะเงินกองทุนในระดับสูง โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนรวม (CAR) ภายใต้เกณฑ์ Basel III ที่อัตรา 16.8% โดยเป็นกองทุนชั้นที่ 1 (Tier 1) ในสัดส่วน 11.4% ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของธนาคารแห่งประเทศไทยซึ่งกำหนดไว้ที่ 9.125% และ 6.625% ตามลำดับ

    นายบุญทักษ์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ผลการดำเนินงานของธนาคารยังปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความพยายามในการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง นอกจากนี้ ธนาคารยังมีความระมัดระวังรวมทั้งให้ความสำคัญในการรักษาคุณภาพสินทรัพย์และสัดส่วนสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพให้อยู่ในระดับสูง เพื่อความมั่นคงและการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไป

TMB posts 6% growth of operating profit before provision, keeps up conservative provisioning and maintained coverage ratio high at 140%

     TMB Bank announced financial results for the first quarter of 2016 today. The Bank and its subsidiaries reported a pre-provision operating profit (PPOP) of THB4,571 million, an increase of 6% compared to the same quarter last year. The Bank kept up its conservative provisioning and booked provision at a relatively high amount of THB1,877 million in this quarter, albeit 21% decresed from1Q15, to maintain the high level of coverage ratio at 140%. Net profit was reported at THB2,092 million, rose by 28% YoY.

     Mr. Boontuck Wungcharoen, CEO of TMB Bank, said “Loan growth was moderate at 1% driven mainly by growth of mortgage loan. Such growth was effectively achieved on the back of revamped process which resulted in quick turnaround time with high accuracy so the Bank has been able to offer better loan products and ultimately better answer customers’ need. Deposit declined slightly by 1% so as to optimize deposit with loan growth. Loan to deposit ratio stood at 92%. Nevertheless, TMB continued to expand retail deposit base by 3%. Retail transactional deposit was also successfully expanded, evidenced by 37% growth of All Free deposit.

     Net interest income (NII) grew by 4% from same quarter last year. Non-interest income (Non-NII) also continued to increase by 10%. The growth of Non-NII was driven mainly by fee income from retail customers, mainly from bancassurance, of which the Bank further developed bancassurance products to better serve different customer segments. Moreover, Non-NII growth was also supported by increased fee from Letter of Guarantee and  increased foreign currency business.

     The Bank’s total revenue was  THB8,408 million, a 6%  increase compared to same quarter last year, while non-interest expenses were THB3,911 million or rose by 10%. However, operating expenses from core business grew only by 4%. PPOP, as a result, increased by 6% to THB 4,571 million.

    Non-performing loans (NPLs) reported at THB21,452 million, increased by THB979 million from THB20,473 million at end of December 2015. NPL ratio, therefore, increased slightly from 2.99% to 3.11%, which was in line with the Bank’s expectation.

    The Bank maintained conservative provisioning and set aside provision at a relatively high level of THB1,877 million, albeit 21% decreased from THB2,387 in 1Q15, to keep up the coverage ratio at the high level of 140%. After provision, net profit was reported at THB2,092 million, rose by 28% YoY.

     The Bank had strong financial position with capital adequacy under BASEL III at 16.8% and Tier 1 at 11.4% at the end of March 2016, well above BOT’s minimum requirements of 9.125% and 6.625% respectively. 

     Mr. Boontuck added that “The Bank’s performance continuously improved from ability to deliver products that meet demand of the customers. At the same time, the Bank maintained its conservativeness and carefully managed asset quality and retained coverage ratio at high level, aiming for sustainable growth and long term stability” 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!