WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BAYโนรอากกรุงศรี รายงานกำไรสุทธิแข็งแกร่งที่ 5.2 พันล้านบาท สำหรับไตรมาส 1/2559 เพิ่มขึ้น 19.0% จากไตรมาส 1/2558

    กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) ในเครือมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ได้รายงานผลกำไรสุทธิไตรมาส 1/2559 ที่ 5.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 19.0% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าจะเผชิญสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่ท้าทาย กอปรกับผลกระทบจากปัจจัยด้านฤดูกาลในการใช้จ่ายของผู้บริโภค และการชำระคืนเงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจขนาดใหญ่ ปัจจัยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมาจากการเติบโตของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย และรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ

     สรุปผลประกอบการ (ตามงบการเงินรวม) และฐานะการเงินที่สำคัญ สำหรับไตรมาส 1/2559

·        กำไรสุทธิ: อยู่ที่ 5.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.8% จากไตรมาส 4/2558 และเพิ่มขึ้น 19.0% จากไตรมาส 1/2558

·        ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM): ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 3.81% เทียบกับ 3.82% ในไตรมาส 4/2558

·        รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ: เพิ่มขึ้น 2.7% จากไตรมาส 4/2558 จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมจากการให้กู้ยืม ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจเช่าซื้อ และค่าธรรมเนียมจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายประกัน

·        อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้: ปรับดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญอยู่ที่ 45.9% จาก 47.6% ในไตรมาส 4/2558 สะท้อนการเติบโตของรายได้และประสิทธิภาพในการบริหารค่าใช้จ่าย

·        เงินให้สินเชื่อ: ลดลง 0.1% หรือจำนวน 1.3 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558  

·        เงินรับฝาก: ลดลง 1.3% หรือจำนวน 13.8 พันล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558

·        สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: อยู่ที่ 2.28% ของเงินให้สินเชื่อรวม เมื่อเทียบกับ 2.24% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558

·        อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้: อยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 142.9% เทียบกับ 140.6% ณ สิ้นปี 2558

·        อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง: อยู่ที่ 13.5%

     ณ สิ้นไตรมาส 1/2559 เงินให้สินเชื่ออยู่ที่ 1.3 ล้านล้านบาท ลดลงจำนวน 1.3 พันล้านบาท คิดเป็น 0.1% จากธันวาคม 2558 การลดลงของเงินให้สินเชื่อในไตรมาส 1/2559 มาจากปัจจัยด้านฤดูกาลในการชำระคืนเงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจขนาดใหญ่ และความต้องการสินเชื่อที่ชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจ ขณะที่สินเชื่อเพื่อรายย่อยเติบโตจากเงินให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย

       เงินรับฝากลดลง 1.3% จากธันวาคม 2558 การลดลงของเงินรับฝากสอดคล้องกับความต้องการของสินเชื่อที่ชะลอลง ทั้งนี้ สัดส่วนของเงินรับฝากประเภทออมทรัพย์และจ่ายคืนเมื่อทวงถามต่อเงินรับฝากทั้งหมดปรับสูงขึ้นอยู่ที่ 54.8% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559

     ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิทรงตัวอยู่ที่ระดับ 3.81% เทียบกับ 3.82% ในไตรมาส 4/2558 สะท้อนต้นทุนทางการเงินปรับตัวดีขึ้นระหว่างไตรมาส แม้ว่าผลตอบแทนโดยรวมของสินทรัพย์จะปรับลดลง

     อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งหมดอยู่ที่ 2.28% เมื่อเทียบกับ 2.24% ในเดือนธันวาคม 2558 ขณะที่อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นจาก 140.6% ณ สิ้นปี 2558 มาอยู่ที่ 142.9% ณ สิ้นไตรมาส 1/2559

     นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในไตรมาส 1/2559 กรุงศรีมีกำไรสุทธิที่แข็งแกร่งที่ 5.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.0% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน แม้ว่าจะเผชิญสภาพแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจที่ท้าทาย กอปรกับผลกระทบจากปัจจัยด้านฤดูกาลในการใช้จ่ายของผู้บริโภค และการชำระคืนเงินทุนหมุนเวียนของธุรกิจขนาดใหญ่ ทั้งนี้ ปัจจัยขับเคลื่อนผลการดำเนินงานที่ดีในไตรมาส 1/2559 มาจากการเติบโตของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยที่แข็งแกร่ง ซึ่งสะท้อนหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของธนาคารภายใต้แผนธุรกิจระยะกลางในการเติบโตและเพิ่มสัดส่วนของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ขณะเดียวกันรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เพิ่มขึ้นเป็นผลจากต้นทุนทางการเงินที่ปรับดีขึ้น จากการปรับเพิ่มขึ้นของสัดส่วนเงินฝากต้นทุนต่ำและยอดเงินรับฝากที่ลดลง

       สำหรับ แนวโน้มธุรกิจโดยรวมของธนาคารในระยะต่อไป นายโกโตะให้ความเห็นว่า ขณะที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสแรกเป็นการฟื้นตัวด้วยข้อจำกัด เราคาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่เหลือของปี โดยแรงขับเคลื่อนสำคัญมาจากการเร่งการใช้จ่ายภาครัฐ และภาคการท่องเที่ยวที่เติบโตแข็งแกร่ง แม้ว่าเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้  ทั้งนี้ การบริโภคจะฟื้นตัวโดยได้รับอานิสงส์จากราคาสินค้าเกษตรที่มีเสถียรภาพมากขึ้น การเติบโตของรายได้นอกภาคเกษตร และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของรัฐบาล ขณะที่การเร่งเบิกจ่ายภาครัฐและโครงการลงทุนจะเอื้อต่อการฟื้นตัวของการลงทุน ภายใต้สมมติฐานดังกล่าว ธนาคารคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวที่ 3.2% ซึ่งจะสนับสนุนต่อการขยายตัวของสินเชื่ออย่างครอบคลุมที่ 5-6% สำหรับปี 2559 อย่างไรก็ดี ธนาคารยังคงต้องระมัดระวังความเสี่ยงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่จะช้ากว่าที่คาด ซึ่งจะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

      ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่ใหญ่เป็นอันดับห้าในไทยมีสินเชื่อรวม 1.302 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.032 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 1.754 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารยังคงแข็งแกร่งอยู่ที่ 167.2 พันล้านบาท หรือเทียบเท่า 13.5% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 11.8%

เกี่ยวกับกรุงศรี

       กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ) เป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อ และเงินฝาก และดำเนินธุรกิจมานานกว่า 70 ปี กรุงศรีเป็นบริษัทในเครือของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) กลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น และเป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันการเงินที่ใหญ่ที่สุดระดับโลก กลุ่มกรุงศรีให้บริการทางการเงินการธนาคารอย่างครบวงจร ทั้งในด้านสินเชื่อเพื่อผู้บริโภค การลงทุน การบริหารจัดการกองทุน รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอันหลากหลายแก่กลุ่มลูกค้าบุคคล ลูกค้า SME และลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ผ่านสาขาของธนาคารกว่า 675 สาขา (เป็นสาขาที่ให้บริการทางการเงินในรูปแบบปกติ 638 สาขาและสาขาที่ให้บริการเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 37 สาขา) และช่องทางการขายกว่า 27,000 แห่งทั่วประเทศ นอกจากนี้ กรุงศรียังเป็นผู้ออกบัตรเครดิตรายใหญ่ที่สุดของประเทศ โดยมีจำนวนบัญชีบัตรเครดิตและสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ/สินเชื่อส่วนบุคคลมากกว่า 7.7 ล้านบัญชี และเป็นผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ชั้นนำ (กรุงศรี ออโต้) พร้อมทั้งมีบริษัทบริหารจัดการกองทุนที่มีอัตราเติบโตสูงที่สุดแห่งหนึ่ง (บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนกรุงศรี จำกัด) ทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกธุรกิจสินเชื่อเพื่อผู้มีรายได้น้อย (บริษัท เงินติดล้อ จำกัด) อีกด้วย

         กรุงศรี มีพันธสัญญาในการดำเนินธุรกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด ธนาคารและบริษัทในเครือได้ผ่านการรับรองการเป็นสมาชิกอย่างสมบูรณ์ของ แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านทุจริตโดยมุ่งร่วมมือกับองค์กรชั้นนำในไทยและผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียของธนาคาร เพื่อให้การดำเนินธุรกิจปราศจากการทุจริตคอร์รัปชั่น

เกี่ยวกับ MUFG (มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป)

      มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 350 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงานกว่า 2,000  แห่ง ราว 50 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 140,000 คน ซึ่งนำเสนอบริการที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์ แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งรวมทั้งธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ, มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ทรัสต์ แอนด์ แบงก์กิ้ง คอร์เปอเรชั่น (ทรัสต์แบงก์ชั้นนำของญี่ปุ่น) และมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซิเคียวริตี้ โฮลดิ้ง หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความเชื่อถือมากที่สุดในโลกตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน  MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!