WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

'ประสาร'ชี้เม็ดเงินรัฐ ดันจีดีพีปีหน้าโตตามเป้า 4.8%

     แนวหน้า : นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เม็ดเงินจากภาครัฐที่จะนำมากระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2558 จำนวน 5.5 หมื่นล้านบาท จากโครงการไทยเข้มแข็ง 1.5 หมื่นล้านบาท และจากสภาพคล่องของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร( ธ.ก.ส.) จำนวน 4 หมื่นล้านบาท ที่จะนำมาจ่ายชาวนายากจนนั้น มองว่าเป็นมาตรการที่ดีในแง่ลดความเสี่ยงจากภาครัฐในการเบิกจ่าย และยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนให้รัฐมีการลงทุน ซึ่งส่งผลให้เอกชนมีความเชื่อมั่นและเกิดการลงทุนตามไปด้วย เชื่อว่าเม็ดเงินดังกล่าวจะเป็นแรงส่งให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2558 เป็นไปตามประมาณการที่ 4.8% ต่อปี

     สำหรับ มาตรการจ่ายเงินช่วยเหลือชาวนาที่มีเพดานชัดเจนไม่เกิน 15 ไร่ จ่าย ไร่ละ 1,000 บาท ส่วนเกิน 15 ไร่จ่าย 1.5 หมื่นล้านบาทต่อครอบครัว ซึ่งไม่ได้ไปใช้กับชาวนาที่ร่ำรวย และมาตรการดังกล่าวไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับกลไกตลาด รวมถึงยังเป็นมาตรการที่เข้าไปช่วยเหลือเฉพาะหน้าในระยะสั้น เพราะยังไม่มีมาตรการอะไรเข้าไปช่วยในภาวะทืปัจจุบันราคาผลผลิตทางการเกษตรค่อนข้างต่ำ ส่วนในระยะยาวต้องมีการปรับปรุงและคิดต่อว่าจะมีการเข้าไปบริหารจัดการอย่างไรกับราคาพืชผลเกษตร

    นายประสาร กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) หรือซุปเปอร์บอร์ดได้มีความประสงค์ให้ธปท.มีอำนาจตรวจสอบและให้มีอำนาจดำเนินการเอาผิดได้ทันทีกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (แบงก์รัฐ) หากพบการทุจริตของผู้บริหารแลัเจ้าหน้าที่ของรัฐ โดยก่อนหน้านี้ธปท.มีอำนาจเพียงแค่ตรวจสอบเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ธปท.ได้อยู่ระหว่างเตรียมการให้มีความชัดเจนถึงเรื่องนี้ เนื่องจากการดำเนินงานของแบงก์รัฐบางแห่ง อาจมีภารกิจแตกต่างกับธนาคารพาณิชย์ เพื่อให้การปฏิบัติเป็นไปอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ รวมถึงต้องรักษาความเชื่อมั่นไว้ด้วย

      "ตอนนี้อำนาจเต็มยังคงเป็นของกระทรวงการคลังอยู่ ทางธปท.ก็ยังอยู่ระหว่างเตรียมการ เพราะการทำงานของแต่ละแบงก์รัฐไม่เหมือนกับธนาคารพาณิชย์ ก็ต้องรอแผนให้ชัดเจนก่อน นอกจากนี้อาจจะมีการปรับเปลี่ยนกฏหมายบ้าง และมาตรฐานก็ไม่เหมือนกัน 100% ซึ่งทางทีมธปท.กำลังศึกษาอยู่ คาดว่าจะได้ข้อสรุปไม่นานนี้" นายประสาร กล่าว

ผู้ว่า ธปท.มองมาตรการภาครัฐกระตุ้นศก.เป็นแรงส่ง GDP ปีหน้าโตได้ 4.8%แน่

   นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า มาตรการของภาครัฐที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเร่งอัดฉีดเงินงบประมาณเข้าสู่ระบบ จะเป็นแรงส่งที่ทำให้เศรษฐกิจไทยในปี 58 ขยายตัวได้ถึง 4.8% ตามที่ ธปท.คาดการณ์ไว้ล่าสุดค่อนข้างแน่นอน

     มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ประกาศวานนี้เป็นมาตรการที่ดีช่วยลดความเสี่ยงเรื่องการเบิกจ่ายของภาครัฐ รวมทั้งเพิ่มเม็ดเงินใหม่เข้าสู่ระบบ ทั้งเงินช่วยเหลือชาวนา 4 หมื่นล้านบาท และงบไทยเข้มแข็ง 1.5 หมื่นล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นความมุ่งมั่นการแก้ปัญหาของรัฐบาล

   ส่วนประสิทธิภาพของมาตรการดังกล่าวจะได้ผลมากน้อยเพียงใดนั้น ต้องดูผลที่ส่งผ่านไปยังภาคเอกชนว่าจะเกิดการลงทุนตามหรือไม่ เพราะการลงทุนภาคเอกชนมีส่วนผลักดันเศรษฐกิจมากกว่าลงทุนภาครัฐ และเชื่อว่าผลจากมาตรการนี้จะเกิดต่อเศรษฐกิจในปี 58 ซึ่งความมั่นใจของภาคเอกชนจะช่วยให้มีการลงทุนและเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีการเติบโตตามที่คาดไว้

   นายประสาร มองว่า มาตรการจ่ายเงินเพื่อช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1 พันบาท และสูงสุดไม่เกิน 1.5 หมื่นบาท ไม่ใช่มาตรการประชานิยม เพราะมีการจำกัดวงเงินไว้เพียง 4 หมื่นล้านบาทในระยะ 1 ปี ซึ่งไม่ส่งผลกระทบให้กลไกราคาตลาดบิดเบือน และเป็นการมุ่งเน้นช่วยเหลือชาวนาที่เป็นรากหญ้าอย่างแท้จริง โดยเป็นมาตรการนี้เป็นเพียงระยะสั้นเท่านั้น หลังจากนี้ควรจะมีมาตรการระยะยาวเข้ามาปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนด้วย

    สำหรับผลกระทบจากเหตุชุมนุมที่ฮ่องกงนั้น ผู้ว่า ธปท.กล่าวว่า ยังคงติดตามสถานการณ์อยู่ โดยขณะนี้ทุกอย่างยังปกติ และคิดว่าไทยคุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นนี้ ไม่ได้มีการตื่นตระหนกและยังคงทำงานไปตามปกติ

    ผู้ว่าการ ธปท. ยังกล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ(คนร.) มีมติให้ ธปท.เข้ามามีส่วนร่วมในการกำกับดูแลธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMEs Bank) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ไอแบงก์) เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นและประสิทธิภาพขององค์กรว่า ขณะนี้คงเร็วเกินไปที่จะพูดว่าจะมีการควบรวมกิจการหรือไม่ คงต้องรอให้มีการจัดทำแผนที่มีความชัดเจนก่อน โดยขั้นตอนต่อไปน่าจะมีการปรับแก้เรื่องกฎหมาย และตอนนี้ยังอยู่ในความดูแลของกระทรวงการคลัง

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!