WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ธปท.หั่นจีดีพี ปีนี้โตแค่ 0.8% ปีหน้าเหลือ 4%-ลดเป้าน้ำมันดิบปีหน้า 70 เหรียญฯ

    ธปท.หั่นเป้าจีดีพีปีนี้ โตแค่ 0.8%จากเดิม 1.5% ส่วนปี58 โต 4% จากเดิมคาดโต 4.8% หลังศก.โลกชะลอกว่าที่คาด   คาดจีดีพีQ4/57โต 2.7% มอง Q1/58โตเกิน 4% จากฐานต่ำปีนี้ เผยล่าสุดรอ ครม.อนุมัติใช้กรอบเงินเฟ้อทั่วไปเป็นเป้าหมายนโยบายการเงิน แทนเงินเฟ้อพื้นฐาน  ส่วนตัวเลข ศก.รายการอื่นปรับลดลงเกือบหมดทั้งส่งออก นำเข้า  เงินเฟ้อ  โดยคาดส่งออกปีนี้หดตัว0.5%จากเดิม 0.0%

     นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโนบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ได้เปิดเผย รายงานนโยบายการเงิน ฉบับเดือนธันวาคม 2557 เพื่อเสนอกรอบประมาณการภาวะเศรษฐกิจ และแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อที่ชัดเจนและมองไปข้างหน้า ซึ่งเป็นข้อมูลล่าสุดที่ กนง.ใช้ประกอบการตัดสินใจในการดำเนินนโยบายการเงิน??

   โดยล่าสุดวันนี้ (26 ธ.ค.)ธปท.ได้ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ปี2557 ลงเหลือโต 0.8%จากเดิม(คาดการณ์เมื่อ ก.ย.57)คาดโต 1.5% และปี2558 ปรับลดเหลือโต4% จากประมาณการเดิมที่ 4.8% หลังเศรษฐกิจโลกชะลอกว่าที่คาดและกระทบต่อการส่งออก นอกจากนี้รายได้เกษตรกรที่หดตัวยังส่งผลกระทบต่อการบริโภคภาคครัวเรือนมากกว่าที่คาด

  "คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ตลอดช่วงประมาณการ โดยความเสี่ยงต่อประมาณการเศรษฐกิจสมดุล เนื่องจากโอกาสที่เศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำกว่ากรณีฐาน จาก 1.เศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัวกว่าคาด และส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของการส่งออกสินค้า และ 2.รายได้เกษตรที่หดตัวอาจส่งผลต่อการบริโภคของครัวเรือนมากกว่าคาด ใกล้เคียงกับโอกาสที่เศรษฐกิจจะขยายตัวสูงกว่ากรณีฐานจากภาครัฐที่อาจเร่งเบิกจ่ายได้เร็วและทำให้การใช้จ่ายภาคเอกชนฟื้นตัวเร็วกว่าคาดตามไปด้วย "นายเมธี  ระบุ 

   นายเมธี กล่าวเพิ่มเติมว่า คาดว่าอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจไทย หรือ จีดีพี ไตรมาส 4/2557 จะขยายตัวได้ 2.7%เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการบริโภค การใช้จ่าย และการลงทุนทั้งจากภาครัฐและเอกชนมีการฟื้นตัวล่าช้า เช่นเดียวกับการส่งออก        

  ขณะที่ไตรมาส 1/2558 คาดว่าจีดีพี จะขยายตัวได้มากกว่า 4% เนื่องจากฐานปี 2557 ต่ำ ประกอบกับมองว่าภาครัฐจะมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณในโครงการต่างๆ ได้มากขึ้น ??นอกจากนี้ ยังมองว่า การลงทุนภาครัฐที่คาดว่าจะขยายตัวได้นั้น จะเอื้อให้ภาคเอกชนเริ่มทยอยกลับมาลงทุนเพิ่มมากขึ้นในระยะต่อไป การบริโภคกลับมาขยายตัวได้ดี ตามภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว

    ด้านแรงกดดันเงินเฟ้อลดลงมากจากด้านต้นทุนเป็นสำคัญ โดยราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลงมากและมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำตลอดช่วงประมาณการ  ธปท.จึงยังคงประมาณการเงินเฟ้อพื้นฐาน (ไม่รวมราคาอาหารสดและพลังงาน)ปี57ที่1.6% แต่ลดคาดการณ์ปี58เหลือ1.2% จากเดิม1.3% และหั่นคาดการณ์เงินเฟ้อทั่วไปปี57ที่1.9%จากเดิม2.2% ปี58เหลือ1.2%จาก 2.1% ตามราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลง ?เนื่องจากอุปทานจากกลุ่มประเทศNon-OPEC เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการผลิต Shale Oil ของสหรัฐฯ ขณะที่กลุ่ม OPEC คงระดับการผลิตไว้เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ประกอบกับความต้องการน้ำมันในตลาดโลกยังมีไม่มากตามเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวช้า 

    อย่างไรก็ตาม แม้เงินเฟ้อต่ำลงตามราคาน้ำมัน แต่ยันยังไม่เกิดภาวะเงินฝืด โดย ธปท.ได้ปรับลดเป้าน้ำมันดิบดูไบปีนี้เหลือ 97.1 เหรียญฯ/บาร์เรล ปี58 เหลือ70เหรียญฯ  จากคาดการณ์เดิมที่ 103.5เหรียญฯ และ 101เหรียญฯ/บาร์เรล ตามลำดับ

    นายเมธี กล่าวต่อถึง ความคืบหน้าในการปรับเป้าหมายเงินเฟ้อว่า ธปท.ได้เสนอไปยังกระทรวงการคลังเพื่อขอใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไป จากปัจจุบันใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อพื้นฐานในการกำหนดนโยบายการเงิน โดยครั้งล่าสุด ธปท.ได้ปรับสมมติฐานราคาน้ำมันดิบดูไบปีหน้าเป็น 70 ดอลลาร์ต่อบาเรล ซึ่งขณะนี้ยังไม่แน่ใจว่าจะทันการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีหรือไม่ ซึ่งหากไม่ทัน ธปท.ยืนยันว่า หากจะใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อพื้นฐานเดิมก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ??

   ตามกฎหมายแล้วมันก็ควรจะทัน แต่ถ้าไม่ทันก็ไม่เป็นไร เพราะที่ผ่านมาเราก็เคยใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่แล้ว”นายเมธี กล่าว

   อนึ่ง ปัจจุบันคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้อนุมัติให้ ธปท.ใช้ อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยรายไตรมาสที่0.5-3.0%ต่อปี  เป็นเป้าหมายนโยบายการเงินสำหรับปี 2557 ตามข้อเสนอร่วมกันระหว่าง กนง.และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 

    ด้านมูลค่าการนำเข้าปีนี้ คาดจะหดตัวที่7.5% จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัวเพียง 6.8% เช่นเดียวกับมูลค่าการนำเข้าปี 2558 คาดว่าจะเพิ่มขึ้น4% ลดลงจากจากประมาณการครั้งก่อนที่คาดว่าจะขยายตัว 9.5% พร้อมกับปรับลดคาดการณ์มูลค่าการส่งออกปี57เป็นติดลบ0.5% จากเดิม 0.0% ส่วนปี58 โตเหลือแค่1% ต่ำกว่าประมาณการครั้งก่อนที่คาดว่าจะเติบโต 4% โดยเป็นผลจากเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ ส่งผลให้การส่งออกของไทยมีแนวโน้มการฟื้นตัวล่าช้าออกไป ??

                “เรามองส่งออกต่ำมากที่ 1% จากเศรษฐกิจโลกที่ต่ำกว่าคาด ปัจจัยในประเทศในเรื่องของข้อจำกัดด้านการผลิตความไม่ทันสมัยของเทคโนโลยี ราคาน้ำมันที่ปรับลดลงแรง ส่งผลลบต่อราคาสินค้าเกษตรได้รับผลกระทบไปด้วย”นายเมธี กล่าว

                 ธปท.จึงประเมินว่าดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2558 จะเกินดุล 4.3พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 0.7พันล้านดอลลาร์  ขณะที่ในปีนี้คาดว่าจะเกินดุล 8.6 พันล้านดอลลาร์ ลดลงจากเดิมที่คาดเกินดุล 11.5พันล้านดอลล์  ซึ่งเป็นผลมาจากการนำเข้าที่ลดลงตามราคาน้ำมันในตลาดโลก    ขณะที่ดุลการค้าในปี 2558 คาดว่าจะเกินดุล 16 พันล้านดอลลาร์  จากปีนี้คาดว่าจะเกินดุล21.9 พันล้านดอลลาร์ 

 สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!