Details

Category: ธปท.

Published: Sunday, 28 December 2014 18:03

Hits: 3026

ธปท.หั่น‘จีดีพี’ปี’57ลงแรง โตแค่ 0.8%ต่ำกว่ารัฐบาลประเมิน

    แนวหน้า : 'แบงก์ชาติ'ปรับลดอัตราเติบโตทางเศรษฐกิจปีนี้ลง ปลอบปีหน้าจะเริ่มฟื้นช้าๆ อานิสงส์การจับจ่ายในประเทศจะดีขึ้นจากราคาน้ำมัน ลดลง รวมทั้งปัจจัยปรับเงินเดือนข้าราชการฯลฯ

     นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. ได้พิจารณาปรับประมาณการผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือประเมินอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ของปี 2557 เหลือ 0.8% ต่อปี จากเดิมได้คาดการณ์ไว้ที่ 1.5% ต่อปี เนื่องจากเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้ จากการส่งออกที่หดตัวตามแนวโน้ม เศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด

     “ธปท.ได้ประมาณการณ์จีดีพีปีนี้ลดลงเหลือ 0.8% จากเดิมในเดือนก.ย.ที่คาดว่า อยู่ที่ 1.5% ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่ต่ำกว่าของรัฐบาลที่มองว่าปีนี้ยังน่าจะโตที่ 1% ส่วนจีดีพีปีหน้าธปท.คาดว่าจะลดลงเหลือ 4.0 % จากเดิมคาดไว้ 4.8%”

      สำหรับ ในปี 2558 ธปท.ได้คาดการณ์จีดีพีในไตรมาสแรกของปี 2558 ไว้มากกว่า 4.0% โดยมองว่าเศรษฐกิจไทยปีหน้ามีแนวโน้มดีขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นฐานที่ต่ำจากไตรมาสแรก ปี 2557 จีดีพีขยายตัวติดลบ โดยได้คาดการณ์ทั้งปี 2558 ขยายตัวได้ที่ 4.0% ต่อปี จากการใช้จ่ายภาครัฐและการลงทุนภาคเอกชนที่จะมีโครงการลงทุน เบิกจ่ายได้มากขึ้น ความเชื่อมั่นนักลงทุนฟื้นตัวดีขึ้น และมีปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันที่ลดลงทำให้ต้นทุนลดลงตามไปด้วย รวมถึงการบริโภคภาคเอกชนความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ในเกณฑ์ดี รายได้นอกภาคการเกษตรดีขึ้นตามการฟื้นตัวเศรษฐกิจ และการปรับขึ้นเงินเดือนข้าราชการ

     ขณะที่ภาคการส่งออกสินค้าในปี 2558 คาดว่าจะขยายตัวได้ 1.0% ต่อปี จากเศรษฐกิจโลกประเทศคู่ค้าอย่างสหรัฐฯฟื้นตัวได้มากขึ้น แต่ก็เป็นไปอย่างช้าๆ ส่วนการส่งออกบริการ ปรับดีขึ้นตามนักท่องเที่ยวจีนที่ความเชื่อมั่นฟื้นตัวเร็ว และได้รับแรงสนับสนุนจากราคาน้ำมันที่ลดลง แต่โดยรวมยังค่อยข้างจำกัดเนื่องจากการชะลอตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรปและรัสเซีย รวมถึงบางส่วนยังมีความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองของไทย ส่วนนำเข้าปี 2557 ติดลบ -7.5% ขณะที่ปี 2558 การนำเข้าเติบโต 4%

    นอกจากนี้ ธปท.ยังประมาณการอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานปรับลดลงเล็กน้อยในปี 2558 มาที่ 1.2% จากเดิมคาด 1.3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับลดลงมาที่ 1.2% จากคาด 2.1% ตามภาวะราคาน้ำมันที่ได้รับแรงกดดันด้านต้นทุนต่ำลงตามแนวโน้มราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลก

    อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามความชัดเจนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และความชัดเจนในการเร่งใช้จ่ายของภาครัฐให้เป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นและการลงทุนภาคเอกชน รวมถึงความแตกต่างของนโยบายการเงินในกลุ่มประเทศหลัก และปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ ที่อาจทวีความรุนแรงขึ้นและส่งผลต่อตลาดการเงินและการเคลื่อนย้ายเงินทุนระหว่างประเทศ