WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ธปท.เผยผลประชุม กนง. เมื่อ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ระบุแนวโน้ม ศก.ไทยปีนี้ฟื้นตัว มองเงินเฟ้อครึ่งปีแรกยังติดลบ แต่ไร้สัญญาณเงินฝืด ชี้ มีความเสี่ยงเงินทุนไหลเข้า

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานการประชุมคณะกรรมการ นโยบายการเงิน(กนง.) เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า

     ที่ประชุมคณะกรรมการ กนง. ประเมินเศรษฐกิจไทย ปี 2558 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยคาดว่าในระยะต่อไป เศรษฐกิจไทยจะได้รับผลดีจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงมาก  

     ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปที่ลดลง มาจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ลดลง  และมีแนวโน้ม ที่จะติดลบในครึ่งแรกของปี 58  แต่ภาวะดังกล่าวไม่ได้เป็นสัญญาณของภาวะเงินฝืด และนโยบายการเงินที่อยู่ ในระดับผ่อนปรนในปัจจุบัน จะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัว และมีส่วนทำให้อัตรา เงินเฟ้อทั่วไป กลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายภายในปลายปีนี้

     "อัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลางของสาธารณชน ยังอยู่ในระดับ ใกล้เคียงกับเป้าหมายเงินเฟ้อ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสาธารณชนมีความเข้าใจว่า สถานการณ์ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบ เป็นเพียงสถานการณ์ชั่วคราว" ธปท.ระบุ

     นอกจากนี้ กนง.มองว่า มีความเสี่ยงของการไหลเข้าของเงินทุนมากกว่าเดิม ภายหลังจากที่บางประเทศผ่อนคลายนโยบายการเงิน โดยกรรมการ กนง.2 ราย ที่มี ความเห็นให้ปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% เห็นว่า การดำเนินนโยบายการเงินของหลาย ประเทศในโลก จะทำให้เกิดความเสี่ยงของเงินทุนไหลเข้า ซึ่งจะเพิ่มแรงกดดันให้เงินบาท แข็งค่า และ อาจกระทบต่อเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

    ขณะที่กรรมการเสียงส่วนใหญ่ 5 ราย มองว่า ในภาวะที่ตลาดการเงินโลก มีแนวโน้มผันผวนขึ้นในระยะข้างหน้า นโยบายการเงินควรให้น้ำหนักกับการรักษา เสถียรภาพทางการเงินมากขึ้น

      อย่างไรก็ดี กนง.ระบุว่า ปัจจุบันยังไม่เห็นการเคลื่อนย้ายเงินทุนมายังไทย อย่างมีนัยสำคัญ แต่เห็นว่าควรติดตามพัฒนาการในตลาดการเงินไทย โดยเฉพาะอัตรา แลกเปลี่ยน อย่างใกล้ชิดต่อไป

จับตาวันนี้ ผู้ว่าธปท. ถกปัญหาค่าเงินบาทผันผวน กับ กกร.

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้ เวลาประมาณ 11.00 น. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะหารือร่วมกับ คณะกรรมการร่วม 3 สถาบันภาคเอกชน (กกร.) เกี่ยวกับกรณีที่ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวน จนอาจส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการ ณ ห้องกระจก ชั้น 2 อาคารสโมสร ธปท. 

      หลังก่อนหน้านี้ นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ระบุ ว่า กกร.มีความเป็นห่วงความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งขันทางการค้าในตลาดโลก หากสถานการณ์ยังไม่ได้รับการแก้ไขอาจส่งผลให้การส่งออกของไทยไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าปีนี้จะขยายตัวร้อยละ 3.5  4

      นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยระบุว่าวันนี้ (11 กุมภาพันธ์) หอการค้าไทยจะเข้าพบธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อชี้แจงผลกระทบจากปัญหาเงินบาทแข็งค่าเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่ง พร้อมขอให้ ธปท.ช่วยพิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือ โดยภาคเอกชนอยากเห็นเงินบาทอยู่ในระดับที่ช่วยให้สินค้าส่งออกของประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก โดยจะขอให้ธปท.พิจารณาค่าเงินบาทเปรียบเทียบรายกลุ่มประเทศคู่ค้า เพราะ ธปท.เป็นผู้กำหนดกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ขณะที่ภาคเอกชนไม่มีข้อมูลลึกเท่ากับ ธปท. 

     ขณะที่นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ระบุว่า ธปท.ได้รับทราบแล้วและจะมีการรับฟังข้อคิดเห็นของ กกร.ในวันที่ 11 ก.พ.นี้ อย่างไรก็ตาม มองว่า ธปท. ยังดูแลค่าเงินบาทให้เคลื่อนไหวไปตามกลไกตลาดอย่างแน่นอน

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!