WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BOAธปท.เกาะติดสถานการณ์ตลาดหุ้นจีนใกล้ชิด เบื้องต้นมองกระทบฐานะการลงทุนของไทยจำกัด -กระทบตลาดเงินโลกไม่มาก

    นายจิรเทพ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา โฆษก ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์จีนที่ปรับลดลงอย่างต่อเนื่องภายในระยะเวลา 3 สัปดาห์ ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลต่อความผันผวนและเทขายหลักทรัพย์ อย่างไรก็ดี ผลต่อเศรษฐกิจจีนล่าสุดยังไม่เห็นผลกระทบที่ชัดเจน (ข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดของจีนยังมีถึงเพียงเดือนพฤษภาคม 2015) แต่หากตลาดหุ้นยังคงปรับลดต่อเนื่อง อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจผ่านความเชื่อมั่นของภาคเอกชนที่ลดลง และความมั่งคั่งของภาคครัวเรือน (Wealth effect) ที่ปรับลดลงทั้งจากเงินออมและมูลค่าราคาทรัพย์สิน ซึ่งจะกระทบต่อการบริโภคของภาคครัวเรือนในระยะต่อไป อย่างไรก็ดี ผลกระทบต่อการระดมทุนในจีนไม่น่าจะมากนักเพราะ Aggregate Financing จากการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์มีเพียงร้อยละ 2

     "ปัจจุบันกลุ่มนักลงทุนรายย่อยในตลาดหลักทรัพย์จีนมีการถือครองคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของมูลค่าตลาด ซึ่งนักลงทุนรายย่อยเหล่านี้ส่วนใหญ่ใช้เงินลงทุนจาก (1) เงินออมและ (2) การกู้ยืมแบบ margin loan ดังนั้น เมื่อราคาหลักทรัพย์ที่ใช้ค้ำประกันลดลงต่ำกว่าระดับ maintenance margin นักลงทุนเหล่านี้จะถูกบังคับขายหลักทรัพย์ และต้องรับผลขาดทุนไป"นายจิรเทพ กล่าว

     แม้ว่า ตลาดหลักทรัพย์จีนที่ปรับลดลงจะส่งผลต่อ Sentiment นักลงทุนอยู่บ้าง แต่ในภาพรวมผลกระทบต่อตลาดเงินโลกยังมีไม่มากนัก สำหรับการลงทุนของนักลงทุนไทยในประเทศจีนส่วนใหญ่มิได้เป็นการลงทุนในตลาดหุ้นจีนโดยตรง แต่จะเป็นการลงทุนผ่านกองทุน FIF ซึ่งไปลงทุนในเงินฝากและตราสารหนี้ที่มี Credit Rating ในระดับสูง (A+/A) อีกทอดหนึ่ง โดยรวมการปรับลดลงของตลาดหลักทรัพย์จีน จึงประเมินว่าน่าจะมีผลกระทบต่อฐานะการลงทุนของไทยค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ดี ธปท. ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!