WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BOAวรไท สนตประภพ copyธปท.เผยศก.ไทยเม.ย.60 โตต่อเนื่อง คาด Q2/60 โตใกล้เคียง Q1/60 มั่นใจ EEC เรียกความเชื่อมั่นเอกชน

      ธปท.เผยศก.ไทยเม.ย. 60 โตต่อเนื่องตามการส่งออก บริโภคภาคเอกชน แต่พบการลงทุนเอกชนยังทรงตัว ชี้ส่งออกโต 5.9% ส่วนนำเข้าโต 10.1% ทำดุลการค้าเกินดุล 1,451 ล้านดอลล์ ส่วนเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.38% แจงเหตุเงินบาทพ.ค.แข็งค่า หลังนลท.ผิดหวังศก.สหรัฐฯ แย่กว่าคาด  ส่วน Q2/60 ประเมินศก.ไทยโตใกล้เคียง Q1 แม้ได้ส่งออกสดใสหนุน แต่ทั่วโลกยังเผชิญปัญหาเอกชนยังชะลอลงทุน มั่นใจ EEC จะกระตุ้นดึงการลงทุนเอกชนได้

       นางสาวพรเพ็ญ สดศรีชัย ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน 2560 พบว่า เศรษฐกิจไทยในเดือนเมษายน ขยายตัวต่อเนื่อง โดยการส่งออกยังขยายตัวในหลายหมวดสินค้า สอดคล้องกับอุปสงค์ต่างประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ด้านการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวจากหมวดบริการเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ในเดือนเมษายน 2560 การส่งออก มีมูลค่า 16,642 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 5.9% ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่า 15,090 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 10.1% 

    ด้านดุลการค้าเกินดุล 1,452 ล้านดอลลาร์ ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 3,132 ล้านดอลลาร์ โดยดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุลต่อเนื่องตามดุลการค้าและบริการ รายได้ และเงินโอนที่เกินดุลจากมูลค่าการส่งออกและภาคการท่องเที่ยว ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนเมษายนที่ผ่านมา อยู่ที่ 0.38% เงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.50% ทั้งนี้ ในเดือนพฤษภาคม ธปท.ยังมองว่า อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มชะลอตัวลงต่อเนื่อง จากฐานปี 2559 อยู่ในระดับสูง และคาดว่าเงินเฟ้อจะกลับมาขยายตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ 

                นางสาวพรเพ็ญ กล่าวว่า การส่งออกที่ฟื้นตัว เป็นผลจากราคาที่ขยายตัวตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกและปริมาณที่เพิ่มขึ้นจากการส่งออกสินค้า โดยเฉพาะการส่งออกยางพาราไปยังจีน โดยมองว่า การส่งออกในไตรมาส 2/2560 เชื่อว่า ยังขยายตัวได้ดี จากอุปสงค์จากต่างประเทศที่ยังฟื้นตัว ขณะที่การส่งออกยานยนต์และแผงวงจรรวม ยังหดตัว จากการเร่งส่งออกไปช่วงก่อนหน้า ด้านการนำเข้า ขยายตัวดี จากการนำเข้าชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า 

      ในด้านการบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวดีจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นผลจากรายได้ครัวเรือน โดยเฉพาะรายได้เกษตรเริ่มฟื้นตัว ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐลดลงทั้งรายจ่ายลงทุนและรายจ่ายประจำ เนื่องจากที่ผ่านมา ภาครัฐได้เร่งเบิกจ่ายไปก่อนหน้าแล้ว แต่ทั้งนี้ ธปท.ยังมองว่า การลงทุนภาครัฐ ยังเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจสำคัญในปีนี้

  สำหรับ การลงทุนเอกชน ยังทรงตัว ซึ่งเป็นไปตามที่ธปท.ประมาณการไว้แล้ว โดยการลงทุนเอกชนที่มาช้า เนื่องจาก เอกชนต้องรอความชัดเจน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก แต่ทั้งนี้ ในระยะต่อไป เชื่อว่า ภาคเอกชนจะเริ่มกลับมาลงทุนอย่างแน่นอน โดยเฉพาะรัฐบาลพยายามสนับสนุน และออกมาตรการกระตุ้นการลงทุนในโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC

  สำหรับ อัตราแลกเปลี่ยนในเดือนเมษายนที่ผ่านมา อ่อนค่าลงจากเดือนก่อน จากการส่งกลับเงินปันผลของบริษัทต่างชาติที่อยู่ในไทยเป็นสำคัญ ขณะที่ในเดือนพฤษภาคม มองว่า ในช่วงแรกค่าเงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงต่อเนื่องจากการคาดการณ์ของนักลงทุนว่าธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนมิถุนายนนี้แน่นอน แต่ค่าเงินบาทเริ่มกลับมาแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง และเป็นทิศทางเดียวกับสกุลอื่นๆในภูมิภาค เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่าลง ตามความกังวลในตลาดเงินโลกต่อประเด็นการเมืองในสหรัฐ และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาดการณ์

  อย่างไรก็ตาม ธปท. ยังมั่นใจว่า เศรษฐกิจในไตรมาส 2 ของปีนี้จะขยายตัวใกล้เคียงไตรมาส 1/2560 โดยยังมีแรงขับเคลื่อนได้ ทั้งจากการลงทุนภาครัฐ การบริโภคภาคเอกชนที่เริ่มฟื้นตัว และจากการส่งออก ที่กลับมาเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ แต่ทั้งนี้ คงไม่สามารถระบุตัวเลขได้ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวได้เท่าไหร่ เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆที่จะต้องพิจารณา โดยเฉพาะภาคการลงทุนเอกชนที่ยังชะลอตัว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!