Details

Category: ธปท.

Published: Monday, 18 September 2017 18:03

Hits: 4349

ผู้ว่าธปท. ยินดีรับฟังข้อเสนอแนะจากคลัง-เอกชนในการดำเนินนโยบายการเงิน ย้ำทุกอย่างมีเหรียญ 2 ด้าน

     ผู้ว่าธปท.พร้อมรับฟังความเห็นคลัง-เอกชนในการดำเนินนโยบายการเงิน ย้ำต้องพิจารณารอบด้าน ชี้ค่าเงินบาทแข็งค่าเกิดจากไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัด เผยเห็นการเก็งกำไรค่าเงิน พร้อมกำกับแบงก์ตรวจสอบเข้ม เผยดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น หลังนักลงทุนมีความเชื่อมั่นศก.ไทย-การเมืองนิ่ง แนะเอสเอ็มอีปรับโครงสร้างด้วยการลงทุนในนวัตกรรม หลังรัฐเดินหน้าลดต้นทุนทางการเงินเพียงอย่างเดียว

     นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ทางธนาคารแห่งประเทศไทยพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทั้งกระทรวงการคลัง และ ภาคเอกชนในการพิจารณานโยบายการเงิน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการหารือกันกับทุกหน่วยงาน แต่การตัดสินใจนโยบายการเงินเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. ซึ่งจะมีการนำเสนอข้อมูลในทุกด้าน ทุกมิติเพื่อให้กนง. พิจารณาในการประชุมวันที่ 27 ก.ย.นี้

       โดยกนง. และ ธปท. จะต้องทบทวนนโยบายการเงินตลอดเวลา เนื่องจากสถานการณ์การเงินโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และ ต้องมองไปข้างหน้า โดยขอยืนยันว่ากนง.จะพิจารณาให้ครบทุกด้านทั้งด้านเสถียรภาพราคา เสถียรภาพการเงิน และ ปริมาณเงินในระบบ ให้เพียงพอเพื่อเอื้อต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดความสมดุลทั้งในระยะสั้น และ ระยะยาวให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ เนื่องจากนโยบายการเงินเปรียบเหมือนเหรียญ 2 ด้าน ซึ่งมีทั้งผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ โดยต้องคำนึงทั้งผู้ฝากเงิน ผู้กู้เงิน  และ ผู้สูงอายุ ซึ่งนโยบายการเงินต้องมีความระมัดมัดระวังเพื่อไม่ให้กลายเป็นความเสี่ยง หรือ สร้างจุดเปราะบางให้กับประเทศ

     อย่างไรก็ตาม ในการประชุมกนง.รอบนี้ไม่ได้รู้สึกกดดัน หรือ หนักใจการดำเนินนโยบาย เนื่องจากที่ผ่านมากนง. ไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมากนง. ได้มีการลดดอกเบี้ย  2 ครั้ง เนื่องจากมองไปข้างหน้าพบว่า เศรษฐกิจในขณะนั้นมีความจำเป็นที่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น ซึ่งในแถลงการณ์ของกนง. ก็ย้ำมาโดยตลอดที่พร้อมใช้นโยบายการเงินในการดูแลเศรษฐกิจ

       “ปกติเวลาคนมองเรื่องเศรษฐกิจจะมองระยะสั้น แต่ธนาคารกลางต้องมองในระยะยาว เพื่อประโยชน์ของคนในสังคม ซึ่งถือเป็นหน่วยงานกลางหน่วยงานเดียวที่ทำหน้าที่นี้”นายวิรไท กล่าว

      สำหรับ ดัชนีราคาหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้น และ ทำสถิติสูงสุดนั้น มาจากปัจจัยที่นักลงทุนมี ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจไทยมากขึ้น  ประกอบกับ นักลงทุนมีความกังวลปัจจัยการเมืองน้อยลง จึงทำให้นักลงทุนเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในประเทศ โดยกระแสเงินทุนต่างชาติจึงไหลเข้ามาต่อเนื่อง นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ระดับต่ำทำให้ประชาชนหันมาหาสินทรัพย์ที่ได้ผลตอบแทนสูงขึ้น

      ส่วนสถานการณ์เงินทุนที่ไหลเข้าต่อเนื่องไม่ใช่ปัจจัยหลักที่ทำให้เงินบาทแข็งค่า โดยสาเหตุหลักมาจากการที่ไทยเกินดุลบัญชีเดินสะพัดในระดับสูง ตามการส่งออกสินค้า และบริการ โดยพบว่ามีการเก็งกำไรเกิดขึ้นเป็นระยะ โดยเฉพาะในตลาดพันธบัตร ซึ่งธปท. ได้กำชับไปยังสถาบันการเงินที่มีการทำธุรกรรมที่มีความผิดปกติ และ ได้ประสานงานไปยังคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) , ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)  และ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย(คปภ.) เพื่อติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

     นายวิรไท  กล่าวเพิ่มเติมในการเปิดสัมนาวิชาการธนาคารแห่งประเทศไทย ประจำปี 60 ว่า นวัตกรรมเป็นพื้นฐานสำคัญของการเพิ่มผลิตภาพให้สังคมไทยที่ต้องมีการกระบวนการถ่ายทอดนวัตกรรมไปสู่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) แต่ปัจจุบันมีเพียงธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีนวัตกรรม และ กระจุกตัวในธุรกิจขนาดใหญ่ไม่กระจายไปสู่เอสเอ็มอี

     ดังนั้น นวัตกรรมจึงไม่ใช่เพียงการคิดค้น แต่เป็นการจัดกระบวนการให้เอสเอ็มอีมีกลไกลตลาดที่มีประสิทธิภาพ มีทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งแก้กฎระเบียบที่เอื้อต่อผู้ประกอบการ และ ผู้ประกอบการต้องมีการปรับทัศนคติเพื่อยอมรับการเปลี่ยนแปลง แม้จะเป็นเรื่องยาก เนื่องจากประเทศกำลังเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 

       ในขณะเดียวกัน ภาครัฐควรมีบทบาทในการกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในนวัตกรรม โดยเฉพาะการลงทุน โจทย์สำคัญสำหรับภาครัฐจึงไม่ได้อยู่ที่การลดต้นทุนทางการเงินหรือภาษีของการทุนของภาคเอกชนแต่เพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรให้ธุรกิจกล้าที่จะลงทุน และ มีความต้องการที่จะลงทุนใหม่

     ดังนั้น นอกจากการแก้ไขกลไกตลาดที่ไม่สมบูรณ์แล้วภาครัฐสามารถมีบทบาทช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการลงทุนที่ส่งเสริมนวัตกรรมระดับแนวหน้า และ เพิ่มพูนศักยภาพของเอกชน ภาครัฐไม่ควรมุ่งแต่จะซ่อมแซม เศรษฐกิจปัจจุบัน แต่ควรมุ่งที่จะส่งเสริมเศรษฐกิจในอนาคตโดยการเพิ่มความสามารถของกลไกตลาดที่จะขับเคลื่อนการลงทุนระยะยาว

     โดยต้องไม่ลืมว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนเป็นองค์ประกอบสำคัญของความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและ โอกาสทางธุรกิจที่ตามมา แม้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกในปัจจุบันก็เกิดขึ้นบนพื้นฐานของการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างกว้างขวาง

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย