WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.กสิกร มอง SET พรุ่งนี้ Sideway-Up รอลุ้น ECB กระตุ้นศก. ส่วนในปท.ได้ Digital Economy เม็ดเงินจาก LTF หนุน แนะซื้อเมื่อดัชนีฯ อ่อนตัว

 บล.กสิกร มอง SET พรุ่งนี้แกว่งตัวแบบ Sideway-Up หลังนลท.รอลุ้น ECB ออกแผนกระตุ้นศก.ในสัปดาห์หน้า หนุนหุ้นทั่วโลกพุ่งส่วนในประเทศยังมีปัจจัยบวกจาก Digital Economy โครงสร้างพื้นฐาน และเม็ดเงินจาก LTF แนะ ซื้อเมื่อดัชนีฯ อ่อนตัวที่แนวรับ 1,550 จุด โดยประเมินแนวต้านอยู่ที่ 1,570 จุด ในหุ้น CK- ITD - TPOLY- DEMCO- IFEC

  นายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินลงทุนบุคคล บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ แกว่งตัวบวกและลบโดยมีจุดต่ำสุดและสูงสุดห่างกันกว่า 10 จุด หลังจากผลการประชุมของ FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐที่เป็นไปตามคาดการณ์ว่าจะยกเลิกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ พร้อมกับเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไปอีกระยะหนึ่ง รวมถึงนักลงทุนให้ความสนใจกับหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก ในกลุ่มก่อสร้างและพลังงานทดแทนก่อนที่ดัชนีฯ จะปิดตัวลงในแดนบวกอยู่ที่ระดับ 1,565.35 จุด เพิ่มขึ้น 2.68 จุด หรือคิดเป็น +0.17%

  ส่วนปัจจัยภายนอกเรื่องของการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 31 ตุลาคม 2557 ที่มีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่นอาจจะปรับลดคาดการณ์การขยายตัวจีดีพีในปีงบประมาณ 57 จาก 1.0% เป็น 0.6% เนื่องจากผลกระทบขึ้นภาษี คาดว่าน่าจะมีการพิจารณาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่น่าจะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทย เนื่องจากนโยบายอาจจะส่งผลในระยะสั้น เห็นได้จากนโยบายที่ผ่านมาไม่ได้กระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ

  ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังมีปัจจัยบวกเรื่องของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เรื่องโครงการ Digital Economy ที่คาดว่าจะเริ่มในวันที่ 1 มกราคม 2558 มองว่า จะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่ม ICT อาทิ ADVANC INTUCH ในระยะสั้น ขณะที่แผนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมในปี 2558 -2565 มีเงินลงทุนมูลค่า 6.8 หมื่นล้านบาท เป็นผลดีต่อตลาดหุ้นในกลุ่มผู้รับเหมาก่อสร้างในหุ้นขนาดกลางและหุ้นขนาดเล็ก

    ส่วนเรื่องของกองทุน LTF ที่คาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามาลงทุนประมาณ 10,000 - 20,000 ล้านบาท  มองว่าเป็นปัจจัยที่เข้ามาสนับสนุนให้ตลาดหุ้นไทยมีแรงเก็งกำไรในปลายปี อีกทั้งยังเป็นปัจจัยที่สามารถเอาชนะแรงขายของเงินทุนต่างชาติ ที่มีแรงขายตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว (24 ต.ค.)

  สำหรับบรรยากาศพรุ่งนี้ คาดว่า ดัชนีฯ จะแกว่งตัวในลักษณะ Sideway-Up  เนื่องจากนักลงทุนรอติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในสัปดาห์หน้า ต่อประเด็นของการพิจารณาออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากมีการออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จะส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่า ซึ่งจะเป็นผลดีต่อตลาดหุ้นทั่วโลก ขณะที่ปัจจัยในประเทศยังมีปัจจัยบวกจาก โครงการ Digital Economy - แผนโครงสร้างพื้นฐาน และเม็ดเงินจากกองทุน LTF

 กลยุทธ์การลงทุน แนะนำให้ซื้อเมื่อดัชนีฯ อ่อนตัวลงอยู่ที่ระดับ 1,550 จุด โดยประเมินแนวต้านอยู่ที่ 1,570 จุด ในหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง อาทิ CK- ITD และหุ้นกลุ่มพลังงาน อาทิ TPOLY- DEMCO- IFEC

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!