WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

TRIS7 16ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร ‘บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่ ‘BBB’ แนวโน้ม ‘Stable’

     ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ‘BBB’ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ ทั้งนี้ อันดับเครดิตดังกล่าวได้รับการปรับเพิ่มขึ้น 3 ขั้นจากอันดับเครดิตเฉพาะ (Stand-alone Credit Profile – SACP) ของบริษัทซึ่งอยู่ที่ระดับ ‘bb’

      โดยสะท้อนถึงมุมมองของทริสเรทติ้งที่มีต่อสถานะของบริษัทว่าเป็นบริษัทย่อยที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของกลุ่มการเงินภายใต้การนำของ บริษัท แอล เอช ไฟแนนเชียล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (LHFG)

     อันดับเครดิตเฉพาะสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดของบริษัทในธุรกิจหลักทรัพย์ที่อยู่ในระดับปานกลาง ตลอดจนการพึ่งพารายได้จากเงินลงทุน ฐานทุนและความสามารถในการทำกำไรที่อยู่ในระดับปานกลาง สถานะความเสี่ยงที่อยู่ในระดับเหมาะสม ตลอดจนแหล่งเงินทุนและสภาพคล่องที่อยู่ในระดับเพียงพอ

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

เป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของบริษัท แอล เอช ไฟแนนเชียล กรุ๊ป

    ทริสเรทติ้ง มองว่าสถานะของ บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ที่มีต่อกลุ่มนั้นมีปัจจัยสนับสนุนมาจากการที่บริษัท แอล เอช ไฟแนนเชียล กรุ๊ปเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัททั้งหมด โดยนโยบายในการดำเนินธุรกิจ ตลอดจนนโยบายการลงทุนและการบริหารความเสี่ยงของบริษัทก็การควบคุมดูแลอย่างใกล้ชิดจากบริษัทแม่

       นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของกลุ่มในการดำเนินธุรกิจหลักทรัพย์เพื่อให้บริการด้านตลาดทุนแก่ฐานลูกค้าของกลุ่มและมีความร่วมมือกับบริษัทลูกหลักของกลุ่มซึ่งได้แก่ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LHBANK) และ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (LH Fund) ในการส่งเสริมการจำหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการระหว่างกันให้แก่ลูกค้าของกลุ่มอีกด้วย

          การเพิ่มทุนในปี 2563 และวงเงินสินเชื่อจากธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แสดงให้เห็นถึงพันธสัญญาระยะยาวของกลุ่มในการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่บริษัท อีกทั้งชื่อเสียงของบริษัทยังมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับชื่อเสียงของกลุ่มจากการใช้ชื่อทางการค้าเดียวกันอีกด้วย

       ทั้งนี้ ในมุมมองของทริสเรทติ้งเห็นว่าการที่บริษัทจะได้รับการพิจารณาสถานะที่มีต่อกลุ่มให้เข้มแข็งยิ่งขึ้นนั้น  บริษัทจำเป็นจะต้องเสริมความแข็งแกร่งให้แก่บทบาทในการเป็นส่วนหนึ่งของแผนของกลุ่มโดยเป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่ครบวงจร ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวอาจดูได้จากสถานะทางธุรกิจของบริษัทในธุรกิจหลักทรัพย์ที่มีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นด้วยการมีส่วนแบ่งรายได้ให้แก่กลุ่มที่มากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและมีระดับของความร่วมมือกับกลุ่มที่แข็งแรงมากขึ้น

สถานะทางการตลาดในธุรกิจหลักทรัพย์ยังอยู่ในระดับปานกลาง

       สถานะทางธุรกิจของบริษัทยังคงอยู่ในระดับปานกลางแม้ว่ารายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์จะเพิ่มขึ้น 25% ในปี 2564 ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมแล้ว บริษัทมีส่วนแบ่งรายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อยู่ที่ระดับ 0.7% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 หรือจัดอยู่ในอันดับที่ 32 จากบริษัทนายหน้าจำนวน 38 แห่งในอุตสาหกรรม

       ในขณะเดียวกัน บริษัทยังคงมีส่วนแบ่งรายได้จากค่านายหน้าซื้อขายตราสารอนุพันธ์อยู่ที่ระดับ 0.4% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 หรือจัดอยู่ในอันดับที่ 32 อีกด้วย ทั้งนี้ ความสามารถในการให้บริการที่อ่อนตัวกว่าคู่แข่งในอุตสาหกรรมยังคงเป็นข้อจำกัดต่อสถานะในการแข่งขันและความสามารถในการดึงดูดลูกค้ารายใหม่ให้เข้ามาสู่บริการของบริษัท

      อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าสถานะทางธุรกิจของบริษัทในธุรกิจหลักทรัพย์จะปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจากการคาดการณ์ว่าบริษัทจะมีพัฒนาการในด้านความร่วมมือภายในกลุ่มอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่างเช่น บริษัทมีรายได้จากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ที่ดีขึ้นในปี 2564 โดยรายได้เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 5 ล้านบาทจาก 0.8 ล้านบาทในปี 2563 ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการแนะนำลูกค้าของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์

       ทริสเรทติ้ง คาดว่า การที่บริษัทมีแผนความร่วมมืออื่นๆ กับกลุ่มตลอดจนความพยายามที่ต่อเนื่องในการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตรงกับความต้องการของฐานลูกค้าของกลุ่มนั้นจะช่วยทำให้ปริมาณธุรกรรมและสถานะทางการตลาดของบริษัทในธุรกิจหลักทรัพย์ค่อยๆ ปรับตัวเข้มแข็งขึ้นในระยะปานกลาง

การพึ่งพารายได้จากเงินลงทุน

    การพึ่งพารายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลจากเงินลงทุนเพื่อเป็นแหล่งรายได้หลักของบริษัทยังคงเป็นปัจจัยที่จำกัดสำหรับอันดับเครดิตของบริษัท ทั้งนี้ การกระจุกตัวของรายได้อาจนำไปสู่รายได้ที่มีเสถียรภาพต่ำกว่าและคาดการณ์ได้น้อยกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่สภาพตลาดและภาวะเศรษฐกิจมีความอ่อนไหว

    อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดว่าผลสำเร็จของการกระจายความหลากหลายของรายได้ของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในระยะยาวจากการมีแผนขยายธุรกิจและความร่วมมือกันภายในกลุ่ม โดยในปี 2564 บริษัทมีสัดส่วนรายได้จากค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 37% ของรายได้รวมจากระดับ 33% ในปี 2563 จากผลของการมีรายได้จากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่เติบโตขึ้น

      ในขณะเดียวกัน สัดส่วนรายได้จากรายได้ดอกเบี้ยและเงินปันผลก็มีสัดส่วนลดลงเช่นกัน โดยมาอยู่ที่ระดับ 48% ในปี 2564 จากระดับ 60% ในปี 2563 ทั้งนี้ การกระจายความหลากหลายของรายได้ที่ประสบความสำเร็จและมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์จะเป็นปัจจัยบวกต่อสถานะทางธุรกิจของบริษัท

ฐานทุน ภาระหนี้ และความสามารถในการทำกำไรอยู่ในระดับปานกลาง

      ฐานทุนและภาระหนี้ของบริษัท ซึ่งวัดโดยอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงนั้นมีการปรับตัวที่ดีขึ้นโดยมาอยู่ที่ระดับ 6.8% ในปี 2564 จากระดับ 5.8% ในปี 2563 อันเนื่องมาจากการสะสมฐานทุนและการจำกัดการขยายตัวของพอร์ตเงินลงทุนของบริษัท ทริสเรทติ้งคาดว่าผลกำไรที่สะสมมาอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่รัดกุม และการจำกัดการขยายพอร์ตเงินลงทุนจะช่วยส่งเสริมให้อัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงของบริษัทค่อยๆ แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

     บริษัทมีความสามารถในการสร้างผลกำไรอยู่ในระดับปานกลางด้วยอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เสี่ยงถัวเฉลี่ยที่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 0.8% ในอีก 2-3 ปีข้างหน้า สำหรับปี 2564 นั้น บริษัทมีอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เสี่ยงถัวเฉลี่ยที่ปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 0.8% จาก 0.7% ในปี 2563 เนื่องจากรายได้ค่านายหน้าที่เพิ่มสูงขึ้น

      อีกทั้ง บริษัทยังสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายดำเนินงานได้เป็นอย่างดี โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 บริษัทมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้สุทธิอยู่ที่ระดับ 37.5% ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ระดับ 51.2% ทริสเรทติ้งคาดว่าการปรับตัวที่ดีขึ้นของรายได้จากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องและการมีความร่วมมือกับกลุ่ม ตลอดจนการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนความสามารถในการสร้างผลกำไรของบริษัทในระยะปานกลาง

สถานะด้านความเสี่ยงอยู่ในระดับที่เหมาะสม

ทริสเรทติ้ง พิจารณาว่าบริษัทมีสถานะด้านความเสี่ยงอยู่ในระดับที่เหมาะสมเนื่องจากบริษัทมีการปฏิบัติให้เป็นไปตามนโยบายการควบคุมความเสี่ยงของบริษัทแม่ซึ่งเป็นกลุ่มการเงินที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะรักษามาตรฐานการควบคุมความเสี่ยงทางด้านเครดิตและนโยบายการวางหลักประกันที่เข้มงวดซึ่งน่าจะช่วยรักษาคุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทเอาไว้ได้ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าอีกด้วย

สำหรับ ในปี 2564 นั้นบริษัทไม่ได้มีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มเติม ทริสเรทติ้งยังคาดอีกว่าบริษัทจะยังสามารถควบคุมความเสี่ยงต่อการเปลี่ยนแปลงในราคาหลักทรัพย์เอาไว้ได้อีกด้วยเนื่องจากบริษัทมีการปฏิบัติตามนโยบายของบริษัทแม่ในการจำกัดการขยายพอร์ตเงินลงทุนเพิ่มเติม โดย ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 บริษัทมีเงินลงทุนทั้งสิ้นที่ระดับ 4.3 พันล้านบาทซึ่งใกล้เคียงกับปีที่แล้ว

แหล่งเงินทุนและสภาพคล่องอยู่ในระดับที่เพียงพอ

ทริสเรทติ้ง ประเมินว่า บริษัทมีเงินทุนและสถานะสภาพคล่องที่เพียงพอเนื่องจากเชื่อว่าบริษัทน่าจะยังคงได้รับการสนับสนุนทางการเงินอย่างต่อเนื่องจากบริษัท แอล เอช ไฟแนนเชียล กรุ๊ป บริษัทยังคงได้รับวงเงินสินเชื่อจากธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ อย่างต่อเนื่องซึ่งช่วยเสริมความยืดหยุ่นทางการเงินให้แก่บริษัท

ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564 บริษัทมีวงเงินสินเชื่อรวมทั้งสิ้นจำนวน 6.8 พันล้านบาท โดย 95% เป็นวงเงินจากธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ นอกจากนี้ บริษัทยังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมได้จากการออกตั๋วแลกเงินให้แก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ของธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซึ่งเป็นผลที่เกิดจากความร่วมมือกันในกลุ่ม

ผลการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์ได้รับอานิสงส์จากมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์ที่แข็งแกร่งขึ้นตลอดทั้งปี 2564

ภาพรวมของการซื้อขายหลักทรัพย์ในประเทศไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2563 โดยมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยรายวันมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างมากในปี 2564 ส่งผลให้ผลการดำเนินงานของบริษัทหลักทรัพย์ในฐานข้อมูลของทริสเรทติ้งปรับตัวดีขึ้นโดยมีรายได้รวมกันเพิ่มขึ้นถึง 106%

ในปี 2564 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2563 ธุรกิจหลักทรัพย์ในปี 2564 ไม่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดรอบใหม่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โรคโควิด 19) โดยมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์เฉลี่ยรายวันยังคงแข็งแกร่งที่ระดับ 9.3 หมื่นล้านบาทเมื่อเทียบกับระดับ 6.8 หมื่นล้านบาทในปี 2563

อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยในช่วงปี 2563-2564 ยังคงมีความไม่แน่นอนมากยิ่งขึ้นและมีแนวโน้มที่จะส่งผลต่อเนื่องต่อไปจนถึงปี 2565 เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนและสถานการณ์ความเสี่ยงด้านการเมืองระหว่างประเทศที่เกิดจากสงครามระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครน

สมมติฐานกรณีพื้นฐาน

สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งสำหรับการดำเนินงานของบริษัทในระหว่างปี 2565-2567 มีดังนี้

  • ส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านของมูลค่าการซื้อขายหลักทรัพย์จะอยู่ที่ระดับประมาณ 0.6%
  • อัตราค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์โดยเฉลี่ยจะคงอยู่ที่ระดับประมาณ 0.1%
  • อัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้สุทธิจะทรงตัวอยู่ที่ระดับประมาณ 40%

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งว่า บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จะยังคงสถานะในการเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญเชิงกลยุทธ์ของบริษัท แอล เอช ไฟแนนเชียล กรุ๊ป และจะยังคงได้รับการสนับสนุนทั้งทางด้านการเงินและ/หรือด้านการดำเนินธุรกิจจากบริษัทแม่อย่างต่อเนื่องต่อไป

นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตยังอยู่บนพื้นฐานการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งอีกด้วยว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจหลักทรัพย์ของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในขณะที่บริษัทยังคงรักษาระดับผลการดำเนินงานทางการเงินและฐานทุนที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตเฉพาะของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทมีรายได้ประจำจากธุรกิจหลักคือธุรกิจหลักทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญและมีอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยง (RAC) อยู่ในระดับที่สูงเกินกว่า 6% เป็นระยะที่ยาวนานต่อเนื่อง ในทางกลับกัน อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากบริษัทมีผลการดำเนินงานทางการเงินที่ถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญและอัตราส่วนเงินทุนที่ปรับความเสี่ยงลดลงต่ำกว่า 3% ติดกันเป็นระยะเวลา 2 ปี

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการทบทวนใหม่หากมุมมองของทริสเรทติ้งเกี่ยวกับสถานภาพของบริษัทที่มีต่อบริษัท แอล เอช ไฟแนนเชียล กรุ๊ป นั้นเปลี่ยนแปลงไป

เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง

- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตกลุ่มธุรกิจ, 13 มกราคม 2564

- Securities Company Rating Methodology, 9 เมษายน 2563

บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) (LHS)

อันดับเครดิตองค์กร:

BBB

แนวโน้มอันดับเครดิต:

Stable

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com  

ติดต่อ santaya@trisrating.com  โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500

          © บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้

      ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html

 Click Donate Support Web

 

EXIM One 720x90 C JGC 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100

วิริยะ 720x100

hino2021

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!