WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

GBX ตั้งเป้ารายได้-กำไรทั้งกลุ่มปีนี้โตกว่าเท่าตัว ลุยเพิ่มยอดขายทอง-ดันมาร์เก็ตแชร์โบรกฯแตะ 3.15%

    GBX ตั้งเป้ารายได้-กำไรทั้งกลุ่มปีนี้โตกว่าเท่าตัว ลุยเพิ่มยอดขายทอง-ดันมาร์เก็ตแชร์โบรกฯแตะ 3.15% แย้มอยู่ระหว่างเจรจาลงทุนธุรกิจอื่น แย้มสนใจพลังงาน-บริการ-อาหาร คาดชัดเจนกลางปีนี้ มูลค่าลงทุนไม่เกินแห่งละ 500 ลบ. มองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 58 เคลื่อนไหวในกรอบ 1,375-1,790 จุด - เศรษฐกิจไทย จะเติบโต 3.5-4% รับโครงการลงทุนภาครัฐฯ ส่วนธุรกิจทองตั้งเป้ารายได้ปนี้แตะ  6 หมื่นลบ. หลังปรับกลยุทธ์ลุยเคาะประตูร้านทองต่างจังหวัด พร้อมคาดราคาทองปีนี้ขยับในกรอบ 1,200 - 1,300 เหรียญ หลังจีนเร่งดันเงินหยวน - รัสเซียลุยซื้อทอง

  นายโสฬส สาครวิศว กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมนเนจเม้นท์ จำกัด (มหาชน)หรือ GBX เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้และกำไรสุทธิของทั้งกลุ่มในปีนี้จะเติบโตกว่าเท่าตัว โดยจะเน้นรุกขยายกิจการหลักทั้งสองส่วน ทั้งธุรกิจซื้อขายทองคำ และธุรกิจโบรกเกอร์ โดยได้ตั้งเป้าหมายยอดขายของธุรกิจทองคำในปีนี้ 60,000 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 30,000 ล้านบาท โดยจะเน้นรุกตลาดต่างจังหวัดมากยิ่งขึ้น เนื่องจากมีศัภยภาพในการซื้อทองคำค่อนข้างมาก โดยคาดหวังว่าจะมีสัดส่วนมากกว่า 50% จากปีก่อนที่ยังไม่มีส่วนของลูกค้าต่างจังหวัดมากนัก ขณะที่ธุรกิจโบรกเกอร์ก็จะ มีการขยายงานอย่างต่อเนื่อง และเพิ่มฐานลูกค้า รวมถึงพัฒนาศักยภาพการบริการ      

   "ปี 57 รายได้รวมคงอยู่ประมาณ 30,000 กว่าล้าน และน่าจะมีกำไรอย่างแน่นอน เพราะตลาดหุ้นกลับมาดีใน ช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งในปีนี้เราตั้งเป้าเติบโตกว่าเท่าตัว ทั้งรายได้และกำไร โดยในส่วนของรายได้จะมาจากฝั่งธุรกิจทอง ซึ่ง การเจาะลูกค้าต่างจังหวัดจะเพิ่มยอดขายได้อย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ในส่วนของกำไรจะมาจากธุรกิจโบรกเกอร์ ซึ่งภาพรวม ตลาดที่กลับมาสู่ภาวะปกติน่าจะทำให้ผลประกอบการกลับมาอยู่ในระดับที่ดีอีกครั้ง ประเมินกำไร 60-70 ล้านบาทในปีนี้" นายโสฬส กล่าว             

  นายโสฬส เปิดเผยต่อว่า ขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าลงทุนในธุรกิจอื่น โดยมีทั้งธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจบริการ และธุรกิจอาหาร คาดว่าจะมีความชัดเจนกลางปีนี้ โดยมูลค่าการลงทุนจะไม่เกินดีลละ 500 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนการเพิ่มพอร์ตลงทุนของกลุ่มบริษัท โกลเบล็ก โฮลดิ้งส์ โดยมีเป้าหมายจะกระจายสัดส่วนกำไรให้อยู่ที่เฉลี่ย 33% ใน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ การซื้อขายทองคำ โบรกเกอร์ และการลงทุนในธุรกิจอื่น จากปัจจุบันที่สัดส่วนกำไรมาจากธุรกิจโบรกเกอร์ 80% และธุรกิจซื้อขายทองคำ 20% โดยน่าจะเห็นความชัดเจนของพอร์ตการลงทุนใหม่ภายในปี 2559          

   สำหรับ เงินลงทุนบริษัทฯไม่มีความกังวลมากนัก เพราะปัจจุบันไม่มีหนี้ สามารถกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อมาลงทุนได้ รวมถึงจะมีการพิจารณาเพิ่มทุน หากการเข้าลงทุนใดๆ มีมูลค่าขนาดใหญ่ หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นๆ ในตลาดทุน

  ด้านธุรกิจทองคำ นายโสฬส เปิดเผยว่า ธุรกิจซื้อขายทองคำของบริษัทในปี 2558 ว่าตั้งเป้ายอดขายทองคำ เดือนละ 5 พันล้านบาท หรือ ปีละ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2557 ที่ทำได้ 3 หมื่นล้านบาท หลังจากในปีนี้ได้ทำการตลาดด้วยการลงพื้นที่ไปซื้อขายทองกับนร้านทองในต่างจังหวัดมากขึ้น เนื่องจากนักลงทุนทองคำในต่างจังหวัด มักนิยมซื้อทองคำจริงมากกว่าการลงทุนในตลาดล่วงหน้า ซึ่งในช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา หลังจากที่ได้ลงพื้นที่ต่างจังหวัด พบว่าได้รับการตอบรับอย่างดี ซึ่งยอดขายในต่างจังหวัดเติบโตเมื่อเทียบกับยอดขายในกรุงเทพฯ เป็นสัดส่วน 50 :50

 ส่วนแนวโน้มราคาทองคำโลกในปีนี้คาดว่า จะอยู่ในกรอบ 1,200 -1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากในปีนี้เชื่อว่าปริมาณทองคำจะอยู่ในระบบอย่างจำกัด ขณะที่ทางจีน - อินเดียมีแนวโน้มที่จะซื้อทองมากขึ้น โดยเฉพาะจีนที่กำลังเร่งนโยบายสนับสนุนค่าเงินหยวนให้เป็นเงินสกุลหลักของโลก (reserve currency) เทียบเท่ากับเงินดอลลาร์และเงินยูโร จึงทำให้จีนต้องเร่งเก็บทองคำเป็นทุนสำรองมากขึ้น ขณะที่รัสเซียเองก็มีแนวโน้มที่จะซื้อทองมากขึ้น หลังจากถูกคว่ำบาตรจากหลายประเทศ

   นอกจากนี้ ค่าเงินบาทที่ผันผวนในทิศทางอ่อนค่า ก็จะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนราคาทองคำในประเทศเช่นกัน ทั้งนี้ประเมินกรอบของค่าเงินบาทในปีนี้จะอยู่ในกรอบ 33-34 บาท/ดอลลาร์  

 ด้านนายธนพิศาล คูหาเปรมกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.โกลเบล็ก เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้ ปีนี้เติบโต 15% จากปีก่อนที่คาดว่าจะทำได้ 600-700 ล้านบาท โดยจะเน้นสร้างรายได้จากธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ และอนุพันธ์ ซึ่งได้ตั้งเป้ามาร์เก็ตแชร์ปีนี้แตะ 3.15% จากปีก่อนที่ 2.73% ด้วยการขยายลูกค้ารายใหม่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีเป้า หมายแตะ 25,000 บัญชี จากปัจจุบันที่ 22,000 บัญชี โดยมีบัญชีที่มีการเคลื่อนไหวสม่ำเสมอ 50% ของบัญชีทั้งหมด      

  "เพื่อรับมือกับการแข่งขันธุรกิจโบรกฯ ที่รุนแรงมากขึ้น หลังเปิดเสรี บริษัทฯ ได้มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงพัฒนา ระบบเทคโนโลยีทั้งหลักทรัพย์และตราสารอนุพันธ์ เพื่อตอบสนองการให้บริการต่อลูกค้ามากยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นรองรับ การแข่งขันกับตลาดทุนในภูมิภาคเออีซี"นายธนพิศาล กล่าว         

 ทั้งนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มีค่าคอมมิชชั่นอยู่ที่เฉลี่ยใกล้เคียงกับอุตสาหกรรม และไม่มีนโยบายการแข่งขันด้านราคา ซึ่งจะเน้นการให้บริการลูกค้าเป็นหลัก สำหรับเจ้าหน้าที่ติดต่อกับผู้ลงทุน ปัจจุบันมีอยู่ประมาณ 200 คน ซึ่งบริษัทฯ มีแผนจะเพิ่มต่อเนื่องเพื่อรองรับการให้บริการ โดยนโยบายใหม่ คือ จะมุ่งสร้างเจ้าหน้าที่ติดต่อกับผู้ลงทุนรุ่นใหม่ด้วยการจัด โปรแกรมฝึกอบรมเพื่อเพิ่มบุคลากรให้กับอุตสาหกรรม       

 สำหรับ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2558 คาดว่าดัชนีฯ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,375-1,790 จุด โดยประเมินว่า เศรษฐกิจไทย ปี 2558 จะเติบโต 3.5-4% ซึ่งจะมีแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณราย จ่ายประจำปี 2558 ซึ่งการลงทุนของภาครัฐ ก็จะกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชน และสร้างการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน ให้กลับมาดีอีกครั้ง ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจโลกก็มีแนวโน้มทิศทางที่ดี ซึ่งมองว่าจะทำให้เม็ดเงินต่างชาติกลับเข้ามาลงทุนใน ภูมิภาคและตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง       

   กลยุทธ์การลงทุน ให้ใช้จังหวะช่วงที่ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวจากปัจจัยภายนอก อาทิ ความกังวลเกี่ยวกับประเทศกรีซที่จะออกจากกลุ่มยูโรโซน รวมถึงปัจจัยการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมัน ซึ่งเป็นโอกาสที่ดี ในการทยอยซื้อหุ้นพื้นฐาน เช่น รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งจะได้อานิสงส์จากการลงทุนของภาครัฐ ในการเปิดประมูลโครงการ รถไฟฟ้าสีต่างๆ กลุ่มธนาคาร ที่จะเติบโตตามสินเชื่อ ซึ่งล้อไปกับภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว กลุ่มไอซีที จะได้รับอานิสงส์จาก ธุรกิจดิจิทัล และการเปิดประมูล 4G รวมไปถึงกลุ่มท่องเที่ยวและสายการบิน ซึ่งจะได้รับประโยชน์จากราคาน้ำมันที่ลดลง ทำให้มีต้นทุนที่ดีมากขึ้น นอกจากนี้ ประเมินว่าปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยของตลาดหุ้นไทยในปี 2558 จะอยู่ที่ระดับมากกว่า 40,000 ล้าน บาทต่อวัน          

  ด้านธุรกิจวาณิชธนกิจ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการดีลกับลูกค้าเพื่อนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อยู่ 3-4 บริษัท คาดเซ็นสัญญาได้ภายในปีนี้ อย่างไรก็ตาม คงจะเป็นการเข้าจดทะเบียนในปีหน้ามากกว่า โดยรายได้จาก งานวาณิชธนกิจปีนี้ จะมาจากการร่วมจัดจำหน่ายหุ้นไอพีโอเป็นส่วนใหญ่

 สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!