WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ASPกองเกยรต โอภาสวงการ'ก้องเกียรติ'ชี้ตลาดหุ้นไทยปี 59 ไม่น่าลงทุน เหตุ 3 ธุรกิจหลัก พลังงาน-สื่อสาร-แบงก์ อาการไม่ดี ดัชนีทรงตัวระดับ 1,450 จุด

     'ก้องเกียรติ'ยอมรับ กำไรบจ.Q4/58 ยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัว จากQ3/58 หดตัวแรง คาดทั้งปีทรงตัวจากปี 57 ชี้ตลาดหุ้นไทยปีหน้าไม่น่าสนใจลงทุน เหตุ 3 ธุรกิจหลัก พลังงาน-สื่อสาร-แบงก์ อาการไม่ดี แนะไปลงทุนต่างประเทศ พร้อมทำนายดัชนีปี 59 ทรงตัวระดับ 1,450 จุด P/E 16 เท่า รับผลลบศก.ยังแผ่ว

   ดร.ก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือASP เปิดเผยในงานสัมมนา SET in the City ว่า ในปี 2559 ภาพรวมการลงทุนในตลาดหุ้นไทยยังไม่น่าสนใจเข้าลงทุน เนื่องจาก 3 ธุรกิจหลักซึ่งมีน้ำหนักต่อการลงทุนในตลาดหุ้นสัดส่วนสูง คือ กลุ่มพลังงาน สื่อสาร และธนาคารพาณิชย์ ผลประกอบการยังไม่ดี 

    ในกลุ่มสื่อสารจะมีค่าใช้จ่ายใบอนุญาตประมูลคลื่นความถี่ 4G ค่อนข้างสูง และจำเป็นต้องลงทุนในเรื่องของฮาร์ดแวร์อีก 2-3 หมื่นล้านบาท ขณะที่หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ประสบปัญหาหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้( NPL) สัดส่วนที่สูงขึ้น จนจำเป็นต้องตั้งสำรองเพิ่มขึ้น และในอนาคตอันใกล้อัตราดอกเบี้ยของไทยยังไม่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ขณะที่กลุ่มพลังงานยังมีความเสี่ยงในเรื่องของราคาน้ำมัน แม้ปัจจุบันราคาน้ำมันได้ปรับตัวลดลงมาใกล้จุดต่ำสุด แม้จะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้นแต่จะเป็นลักษณะค่อยๆเพิ่มมากกว่า ไม่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง 

    นอกจากนี้ ภาครัฐมีแผนจะลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แต่เม็ดเงินลงทุนจริงยังไม่เกิด และยังมีข้อกังวลในกรณีมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลนั้น จะยังคงมีการลงทุนต่อเนื่องหรือไม่ กลายเป็นปัจจัยหลักทำให้นักลงทุนต่างชาติยังไม่มั่นใจจะกลับเข้ามาลงทุนจนกว่าจะเห็นความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว

    ส่วนอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลดีจากที่ภาครัฐมีการลงทุนนั้น หุ้นดังกล่าวได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นไปมากแล้ว ดังนั้นจึงแนะนำให้กระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯจากเศรษฐกิจฟื้นตัวที่ดี ยุโรปทิศทางเศรษฐกิจค่อยๆฟื้นตัว ขณะที่ญี่ปุ่นจะมีผลดีค่าเงินเยนที่อ่อนและจะมีการจัดโอลิมปิคในปี 2563 และตลาดหุ้นจีนแต่ต้องเลือกเป็นรายบริษัทที่ราคาไม่แพงมาก

    สำหรับ ดัชนีตลาดหุ้นไทยปีหน้า คาดว่าจะอยู่ที่ 1,450 จุด ซึ่งมี P/E อยู่ที่ 16 เท่า เพราะเศรษฐกิจปีหน้ายังปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มากนัก ในกรณีรัฐบาลไม่มีมาตรการกระตุ้นคาดว่าจีดีพีปีหน้าจะเติบโต 1-2%  ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลพยายามมีมาตรการกระตุ้นเพื่อผลักดันให้จีดีพีเติบโต 3% ส่วนกำไรบจ.ปี 59 ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้เพราะยังเร็วเกินไปจะคาดการณ์ ส่วนดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปีนี้คาดว่าจะทรงตัวในระดับดังกล่าว แต่อาจปรับตัวเพิ่มขึ้นได้จากมีเม็ดเงินซื้อกองทุน LTF ในช่วงปลายปี  

    "ตลาดหุ้นไทยปีหน้ายังไม่น่าสนใจลงทุนจาก 3 ธุรกิจหลักที่มีน้ำหนักต่อตลาดหุ้นไทยผลประกอบการยังไม่ค่อยดี จึงแนะนำไปลงทุนต่างประเทศ โดยหากยังลงทุนในหุ้นไทยแนะนำลงทุนในหุ้นที่มีสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่มาจากต่างประเทศ เพราะเศรษฐกิจในประเทศยังซบเซาทำให้รายได้จากในประเทศไม่ค่อยดี ซึ่งตลาดหุ้นไทยในปีนี้ปรับตัวลดลงมา 7% ถือว่าเยอะ ขณะที่ตลาดหุ้นที่ทรุดโทรมต้องใช้ QE ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 10% ขึ้นไป โดยคาดว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยสิ้นปีนี้คงไปไหนไม่ไกลจากปัจจุบัน แต่อาจจะเพิ่มขึ้นได้จากเม็ดเงินที่เข้ามาซื้อ LTF ในเดือนสุดท้ายของปีนี้" ดร.ก้องเกียรติ กล่าว

    นายก้องเกียรติ กล่าวว่า กำไรบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 4 คาดว่าจะยังไม่ฟื้นตัวจากไตรมาส 3 ที่ปรับตัวลดลง เพราะหลายอุตสาหกรรมมียอดขายไม่ดี เช่น อสังหาริมทรัพย์ กลุ่มพลังงานแม้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงมามากแล้ว แต่ยังไม่เห็นสัญญาณที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเร็ว กลุ่มธนาคารพาณิชย์พบว่าสินเชื่อยังกระจายตัวไม่มาก ขณะที่ NPL เพิ่มสูงขึ้น ส่วนหุ้นกลุ่มสื่อสารมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการลงทุน 4 G ที่คาดว่าจะมีการลงทุนด้านฮาร์ดแวร์ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมใบอนุญาตประกอบธุรกิจ 4G ขณะที่กำไร บริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 1/59 คาดว่าจะใกล้เคียงกับไตรมาส 4/58 ส่วนกำไรบจ.ปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงกับปี 57

 สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!