WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SLC แถลงเอาผิดผู้บริหารเนชั่น ทั้งอาญา แพ่ง และการละเมิดจริยธรรม

    ยันซื้อหุ้นเนชั่นอย่างถูกกฎหมาย ใช้ Law Firm ระหว่างประเทศให้ความเห็น แจงที่มาของทุนมาจากการเพิ่มทุนในตลาดหลักทรัพย์กว่า 2 พันล้านบาท ยืนยันไม่คิดครอบงำสื่อ ซัดผู้บริหารเนชั่นทำผิดจริยธรรมแทบทุกข้อ เรียกร้องผู้เกี่ยวข้องตรวจสอบการอ้างเป็นสื่อคุณธรรม

    บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) (SLC)ได้ออกหนังสือแถลงการณ์ลงวันที่ 12 มกราคม 2558 ชี้แจงข้อเท็จจริง และข้อเรียกร้องของบริษัทต่อบุคคลหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง มีใจความดังต่อไปนี้

    ตามที่ปรากฎข่าวที่เกี่ยวข้องกับการซื้อหุ้นของบริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (NMG) ของบริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน) (SLC) ทั้งในหน้าหนังสือพิมพ์ (เกือบทั้งหมดเป็นหนังสือพิมพ์ในกลุ่ม NMG) ใน website หรือในสื่อสังคม (Social Media) ต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 18 ธันวาคม 2557 เป็นต้นมา โดยอาจอยู่ในรูปแบบของการรายงานข่าว หรือการวิเคราะห์ข่าวโดยคอลัมนิสต์ อันอาจมีลักษณะไปในทางชี้นำให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจผิด ทั้งต่อตัวของบริษัท SLC และบุคคลต่างๆที่ถูกอ้างถึง ทั้งที่เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้องกับบริษัท SLC

     บริษัท SLC จึงขอชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องตรงกัน ดังนี้

  1. บริษัท SLC ได้ลงทุนในหุ้นของบริษัท เนชั่นฯ (NMG) อย่างถูกต้อง ถูกกฎระเบียบและถูกกฎหมาย ผ่านการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งไม่มีข้อกฎหมาย หรือกฎระเบียบใดๆ ห้ามไม่ให้บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือบริษัทใดบริษัทหนึ่งมาลงทุนในบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
  1. บริษัท SLC เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีคณะกรรมการบริษัทที่มาจากบุคคลที่มีชื่อเสียง มีประวัติและประสบการณ์ในการทำงานที่สามารถอ้างอิงและตรวจสอบได้ นอกจากนี้ บริษัทมีกระบวนการในการพิจารณาการลงทุนต่างๆ อย่างมีหลักเกณฑ์ ถูกต้องครบถ้วน ดังนั้น การเข้าลงทุนใน NMG , Grammy, TNEWS และบริษัทอื่นๆในอนาคต บริษัท SLC ได้ตัดสินใจการลงทุนโดยศึกษาข้อมูลต่างๆอย่างละเอียดรอบคอบ และสอดคล้องกับนโยบายการเจริญเติบโตของกลุ่มบริษัท ทั้งนี้ในการดำเนินการใดๆ บริษัทมีการแต่งตั้งที่ปรึกษากฎหมายที่เป็นองค์กรกฎหมายระหว่างประเทศ และที่ปรึกษาทางการเงินที่อยู่ในรายชื่อของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) เพื่อให้ความเห็นโดยละเอียดในทุกขั้นตอน  เพื่อให้การลงทุนดังกล่าว เกิดประโยชน์สูงสุดต่อบริษัทและผู้ถือหุ้นทุกราย
  1. แหล่งที่มาของเงินลงทุน บริษัท SLC ได้รับมาจากการเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม ซึ่งได้มีการกำหนดวันจองซื้อระหว่างวันที่ 17-28 พฤศจิกายน 2557 ทั้งนี้จากการปิดสมุดทะเบียนเพื่อกำหนดสิทธิในการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2557 บริษัท SLC มีผู้ถือหุ้นรวมทั้งสิ้น 11,173 ราย และมีผู้จองซื้อหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 6,020 ราย บริษัทได้รับเงินจากการเพิ่มทุนรวมทั้งสิ้น 2,192,206,269.70 บาท ดังนั้น เงินทุนของบริษัท SLC จึงมีที่มาอย่างชัดเจน ถูกต้องตามกระบวนการของตลาดหลักทรัพย์ สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากนักลงทุนทุกคนต่างมีบัญชีซื้อขายหุ้นอย่างเปิดเผย หาใช่ทุนฉงนหรือกลุ่มทุนสีเทา ตามคำอ้างของหนังสือพิมพ์บางฉบับ หรือคอลัมนิสต์บางคนของกลุ่มเนชั่น ที่กล่าวหาถึงที่มาของทุนอย่างเลื่อนลอย ไร้คุณธรรม โดยไม่ได้ดำเนินอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง
  1. บริษัท SLC มีเจตนาอย่างชัดเจนที่จะดำรงรักษาชื่อเสียงและแนวทางในการดำเนินงานที่ดีของบริษัทที่เข้าไปลงทุน ตลอดจนความเป็นอิสระในการดำเนินงาน โดยเฉพาะความเป็นอิสระและความมีจรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ดี ตราบเท่าที่บริษัทนั้นๆ ได้ดำเนินการตามวิชาชีพอย่างมืออาชีพ และสามารถรักษาผลประกอบการที่เป็นที่น่าพอใจได้อย่างต่อเนื่อง ดังจะเห็นได้จากการที่บริษัท SLC ถือหุ้นในสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ถึงร้อยละ 99.99 แต่ไม่ปรากฎว่าบริษัทได้ใช้ความเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บังคับให้สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ทำข่าวเพื่อแก้ต่าง หรือเพื่อประโยชน์ในการสร้างภาพลักษณ์ให้กับบริษัท SLC แต่อย่างใด สถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ยังคงมีความเป็นอิสระในการทำข่าว เพื่อมุ่งเน้นประโยชน์ต่อสาธารณะ (Public Interest) มากกว่าประโยชน์ส่วนตน (Private Interest) มาโดยตลอด แต่หากบริษัทใดหรือผู้บริหารคนใด ได้ดำเนินการโดยละเว้นข้อกฎหมาย และจรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ดี หรือละเมิดสิทธิของบุคคลอื่น บริษัท SLC จักใช้สิทธิที่พึงมีของผู้ถือหุ้น ในการดำเนินการกับผู้บริหาร หรือสื่อที่ไม่มีจรรยาบรรณในวิชาชีพอย่างเด็ดขาด ดังนั้น ข้อกล่าวหาที่ว่าบริษัท SLC พยายามที่จะครอบงำสื่อ หรือแทรกแซงสื่อ ทำให้ขาดความเป็นอิสระ หรือพยายามใช้วาทะกรรมต่างๆ เพื่อใส่ร้ายป้ายสีบริษัท SLC ต่อสาธารณะว่าเป็นเครื่องมือของนักการเมือง หรือมีบุคคลอื่นที่อยู่เบื้องหลัง จึงเป็นการกล่าวหาที่ไม่เป็นธรรมและส่อเจตนาบิดเบือนข้อเท็จจริง
  1. การที่สื่อ ผู้บริหารหรือคอลัมนิสต์บางคนในกลุ่มบริษัทเนชั่น พยายามเกี่ยวโยงการลงทุนของบริษัท SLC กับการลงทุนของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น ให้สาธารณะชนเกิดความรู้สึกว่าเป็นบุคคลกลุ่มเดียวกัน และมีการพาดพิงไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพพจน์และชื่อเสียงของบุคคลเหล่านั้น ทั้งนี้ บุคคลบางท่านที่ถูกพาดพิงไม่ได้เป็นถือหุ้นของบริษัท SLC และ/หรือบริษัท NMG แต่อย่างใด บริษัท SLC ขอเรียนว่า การลงทุนของบริษัท SLC เป็นการลงทุนโดยอิสระและเปิดเผย มีการกำหนดนโยบายและทิศทางในการดำเนินงานต่างๆ ผ่านทางคณะกรรมการของบริษัท  เพื่อประโยชน์ของบริษัทต่างๆที่บริษัทได้เข้าไปลงทุน และผู้ถือหุ้นของบริษัท ทั้งนี้ บริษัท SLC ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ หรือมีการหารือเพื่อตกลงร่วมกัน หรือมีความร่วมมือไปในทิศทางเดียวกัน กับกลุ่มบุคคลหรือบริษัทที่ถูกอ้างถึง แต่อย่างใด ดังนั้น การสรุปรวมว่าทุกๆคนที่ลงทุนมีความเกี่ยวโยงกัน และกล่าวหาบุคคลดังกล่าวโดยอาศัยประโยชน์ความเป็นสื่อ กระทำเพื่อประโยชน์ส่วนตน (Private Interest) จึงเป็นการกระทำที่ขัดต่อคุณธรรมและจรรยาบรรณของสื่อมวลชนที่ดี อย่างเห็นได้ชัดเจน
  2. จากข้อเขียนของบุคคลทุกคน ซึ่งเป็นความเท็จ ใส่ร้ายป้ายสี ตลอดจนบุคคลที่นำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ นั้น บริษัท SLC จะดำเนินคดี ทั้งคดีทางอาญา และฟ้องเรียกความเสียหายทางแพ่ง เพื่อให้หลาบจำ ไม่คิดกระทำการเท็จและป้ายสีโดยไร้มูลความจริงเช่นนี้อีกกับบุคคลอื่น โดยค่าเสียหายทั้งหมดหากได้รับมานั้น บริษัท SLC ฯ ไม่หักค่าใช้จ่าย จะนำเงินดังกล่าวบริจาคให้กับองค์กรหรือกองทุนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาวงการสื่อมวลชน เพื่อให้เป็นที่พึ่งของสาธารณะชนได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ การฟ้องร้องบุคคลนั้น จะไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับองค์กรหรือสถาบันที่บุคคลนั้นสังกัดอยู่ เนื่องจากเป็นการกระทำส่วนบุคคล

         ดังนั้น เพื่อเป็นการปกปักษ์รักษาชื่อเสียงของบริษัท SLC ตลอดจนบุคคลที่เกี่ยวข้องที่ถูกพาดพิง กล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรมนั้น บริษัท SLC จักดำเนินการดังต่อไปนี้

  1. บริษัท SLC จะร้องเรียนไปยังสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ซึ่งมีนายจักร์กฤษ เพิ่มพูล  เป็นประธาน สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ซึ่งมีนายเทพชัย หย่อง เป็นนายกสมาคม และสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ซึ่งมีนายก่อเขต จันท์เลิศลักษณ์ เป็นประธาน ถึงข่าวบางชิ้น บทความบางชิ้น และพฤติกรรมบางประการ มีการกระทำที่ขัดต่อหลักจริยธรรมจรรยาบรรณ เพื่อให้ตรวจสอบและลงโทษผู้บริหารของสื่อในเครือเนชั่นต่อไป
  2. บริษัท SLC จะร้องเรียนการกระทำผิดจริยธรรมของผู้บริหารเครือเนชั่นบางคน  ไปยังกลุ่มบริษัทเนชั่น ให้สอบสวนและลงโทษเด็ดขาด เนื่องจากกระทำผิดจริยธรรมที่ตนได้บัญญัติขึ้นมาเองแทบจะทุกข้อเพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือในสังคม และเพื่อเป็นแนวทางให้พนักงานและผู้บริหารพึงปฏิบัติอย่างเคร่งครัดอาทิ

   โดยอ้างอิงจาก บทบัญญัติถึงกระทำการที่ขัดข้อบังคับ ว่าด้วยจริยธรรมวิชาชีพแห่งหนังสือพิมพ์ หมวด 2 ได้แก่

ข้อ 4 หนังสือพิมพ์ต้องยึดถือข้อเท็จจริง ความถูกต้องแม่นยำ และความครบถ้วน

ข้อ 5 หนังสือพิมพ์ต้องนำเสนอข่าวเพื่อประโยชน์สาธารณะ โดยไม่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตน หรือหมู่คณะ

ข้อ 6 หนังสือพิมพ์ต้องแสดงความพยายาม ในการให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย

ข้อ 7 หนังสือพิมพ์ต้องไม่แต่งเติมเนื้อหาสาระข่าว จนคลาดเคลื่อนหรือเกินความจริง

ข้อ 8 หนังสือพิมพ์ต้องละเว้นการนำเสนอข่าวเพราะความลำเอียง หรือมีอคติจนให้ข่าวนั้นคลาดเคลื่อน หรือเกินจากความเป็นจริง

ข้อ 9 หนังสือพิมพ์ต้องไม่สอดแทรกความคิดเห็นลงในข่าว

เครือเนชั่นได้บัญญัติ “NATION WAY หลักจริยธรรมของคนข่าวเครือเนชั่น ... ผิดจากนี้ไม่ใช่เรา” เขียนคำนิยมบางย่อหน้า อาทิ (ตามเอกสารแนบ)

                “...เพื่อสะท้อนความคิดอ่านรอบด้าน, ความเห็นอันหลากหลาย, ข้อเท็จจริงแห่งเหตุการณ์ทุกแง่ทุกมุมที่เป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง, โดยปราศจากอคติ, ความแปลกแยกที่ทับซ้อนความถูกต้องเป็นธรรม และวาระซ่อนเร้นที่ขัดแย้งกับผลประโยชน์อันเป็นของส่วนรวม จึงประกาศไว้เป็นสัจธรรมกับผู้อ่าน, ผู้ฟัง, ผู้ชมและผู้ร่วมกระบวนการแห่งข้อมูลข่าวสารของเครือเนชั่นว่า “ผิดจากนี้จึงมิใช่เรา”

 

ด้วยจิตคารวะ สุทธิชัย หยุ่น บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่น”

“หมวดที่ 1 ข้อบังคับว่าด้วยจริยธรรมของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อ

1.5 การเสนอข่าวและภาพของสื่อต่างๆในเครือเนชั่น พึงตระหนักถึงความสำคัญของข่าวและภาพต่อสาธารณชน ไม่เสนอข่าวหรือภาพในทำนองชวนเชื่อในเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

1.6 ต้องใช้วิธีที่สุภาพและสุจริตในการหาข้อมูลข่าวสาร รวมถึงภาพต่างๆ

1.7 การแสดงความคิดเห็นใดๆ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของบทความ ความเห็น หรือบทวิเคราะห์ พึงกระทำโดยบริสุทธิ์ใจ และไม่มีพันธกรณีอื่นใด นอกจากมุ่งปฏิบัติหน้าที่เพื่อสาธารณชน โดยไม่ยอมให้อิทธิพลหรือผลประโยชน์อื่นใดมาครอบงำความคิดเห็น

1.8 ละเว้นการล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล เว้นแต่กรณีที่พิสูจน์ว่ากระทำไปเพื่อประโยชน์สาธารณะ

 1.11 ภาษาที่ใช้ในข่าว บทความ ความเห็น หรือบทวิเคราะห์ พึงหลีกเลี่ยงคำที่ไม่สุภาพ มีความหมายเหยียดหยาม สร้างความรู้สึกเกลียดชังหรือความรู้สึกแตกแยกในสังคม

 หมวด 2 จริยธรรมของสื่อในเครือเนชั่น ในการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนทุกสื่อในเครือเนชั่น ต้องยึดข้อบังคับต่อไปนี้อย่างเคร่งครัด

2.1 การรายงานข่าว ต้องเสนอเฉพาะข้อเท็จจริงให้ครบถ้วน รอบด้าน และต้องตรวจสอบความถูกต้องก่อนตีพิมพ์ ผู้สื่อข่าวตลอดจนบรรณาธิการข่าวที่เกี่ยวข้องต้องแสดงความพยายามในการให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

2.2 การพาดหัวข่าว และโปรย ต้องไม่ใช้คำพูดจนเกินจากข้อเท็จจริงในข่าว

2.3 ข่าวทุกเรื่องต้องนำเสนอเพื่อประโยชน์ของสาธารณะเป็นสำคัญ ห้ามใช้เป็นเครื่องมือเพื่อแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนหรือหมู่คณะ

2.4 ต้องไม่แต่งเติมเนื้อหาสาระของข่าวจนคลาดเคลื่อนหรือเกินเลยจากความเป็นจริง และภาพทุกภาพที่จะนำลงตีพิมพ์หรืออกอากาศ ต้องเป็นภาพที่ได้จากสถานที่หรือเหตุการณ์จริงเท่านั้น ภาพหรือข่าวจะเป็นภาพที่มีการตัดต่อ ต่อเติม หรือตกแต่งไม่ว่าจะเป็นการทำด้วยมือ หรือกระบวนการคอมพิวเตอร์กราฟฟิกใดๆ ไม่ได้โดยเด็ดขาด

2.5 ไม่เสนอข่าวหรือภาพด้วยความลำเอียง หรือมีอคติส่วนตนเป็นที่ตั้งหรือแอบแฝง

2.6 ต้องไม่สอดแทรกความคิดเห็นส่วนตัวลงในข่าว

2.7 การเสนอข่าวหรือภาพที่มีการพาดพิง อันอาจเกิดความเสียหายแก่บุคคล คณะบุคคล หรือองค์กรใดๆ ต้องพยายามให้ฝ่ายที่ถูกกล่าวหาได้มีโอกาสชี้แจงและแสดงข้อเท็จจริงด้วย

2.8 ต้องไม่เสนอข่าวอย่างเลื่อนลอยปราศจากแหล่งที่มาชัดเจน ข่าวลือหรือข่าวจากแผ่นปลิว พึงระบุชื่อบุคคลที่ให้สัมภาษณ์หรือให้ข้อมูลอย่างเปิดเผย เว้นแต่จะมีเหตุอันควรปกปิดเพื่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยของแหล่งข่าว และต้องเป็นประโยชน์ต่อสิทธิในการรับรู้ข่าวสารของสาธารณชน

2.12 ในการแสดงความคิดเห็นหรือการวิพากษ์วิจารณ์ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ฝ่ายที่ถูกพาดพิงและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเท่าเทียมกัน

 หมวดที่ 3 ความรับผิดชอบต่อผู้อ่าน ผู้ฟังและผู้ชม

“...สื่อในเครือ มีหน้าที่โดยวิชาชีพที่จะต้องนำเสนอข่าวสารข้อมูลเพื่อประโยชน์ของผู้อ่าน ผู้ฟัง และผู้ชมเป็นหลัก ต้องไม่ใช้สถานภาพของการเป็นผู้สื่อข่าวแสวงหาผลประโยชน์ให้ตัวเองหรือผู้อื่นโดยเด็ดขาด

ผู้สื่อข่าวคนใดตั้งใจเขียนหรือรายงานข่าวที่ไม่จริง ถือว่าไม่ความความรับผิดชอบต่อผู้อ่าน ผู้ฟัง ผู้ชม และต่อวิชาชีพ ถือเป็นความผิดที่จะต้องได้รับโทษทางวินัยตามข้อบังคับของบริษัท”

หมวดที่ 4 ภาระผูกพันที่มีต่อวิชาชีพสื่อมวลชนและองค์กร

ชื่อเสียงของสื่อทุกประเภทในเครือเนชั่นไม่ว่าจะเป็นหนังสือพิมพ์ ทีวี วิทยุ หรือสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ไม่ได้เป็นของใครคนใดคนหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่มีใครมีสิทธินำชื่อเสียงของเครือเนชั่นไปใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว” ฯลฯ

  1. ขอเรียกร้องไปยังกองบรรณาธิการเครือเนชั่น ให้ยื่นคำขอให้ นายสุทธิชัย หยุ่น และนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ เลือกอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างการเป็นผู้ถือหุ้น กับการทำหน้าที่ในกองบรรณาธิการเครือเนชั่น เนื่องจากบุคคลทั้งสอง ได้อ้างการเป็นอิสระจากทุนครอบงำ  แต่บุคคลทั้งสองกลับครอบงำกองบรรณาธิการเสียเอง ซึ่งต่างจากบริษัท SLC ไม่เคยส่งบุคคลใดไปครอบงำกองบรรณาธิการสื่อในเครือ ทั้งสองจึงควรเลือกที่จะอยู่ในบทบาทใดเพียงบทบาทเดียว เพื่อรักษาความเป็นกลาง ไม่มีความขัดกันด้านผลประโยชน์ และจรรยาบรรณของผู้ประกอบวิชาชีพสื่อได้อย่างแท้จริง
  1. ขอเรียกร้องให้กรรมการสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ปลดนายเทพชัย หย่อง ออกจากนายกสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย  เนื่องจากมีพฤติกรรมใช้ตำแหน่งและความไว้วางใจที่ได้รับจากสมาคมฯ นำสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทยไปร่วมจัดกิจกรรมเพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนบุคคลของผู้บริหารบางคนในเครือเนชั่น  กรณีดังกล่าวมีข้อวินิจฉัยในความเป็นกลาง อันเนื่องมาจากการขัดกันในด้านผลประโยชน์  ซึ่งมีผลประโยชน์ทับซ้อนกับเครือบริษัทเนชั่น

ด้วยจิตคารวะ

บริษัท โซลูชั่น คอนเนอร์ (1998) จำกัด (มหาชน)

12 มกราคม 2558

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!