WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

RS ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 4.6 พันลบ. กำไรสุทธิทำ New High หลังเปลี่ยนโมเดลเข้าสู่ธุรกิจสื่อเต็มตัว - เล็งขายหุ้นที่ซื้อคืน 17.7 ล้านหุ้น Q1-2 ปีนี้

   RS ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 4.6 พันลบ. กำไรสุทธิทำ New High หลังเปลี่ยนโมเดลเข้าสู่ธุรกิจสื่อเต็มตัว วางงบลงทุน 300 ลบ. ยกระดับระบบออกอากาศ-ถ่ายทำรายการ ยันฐานะการเงินแกร่ง ไม่ต้องเพิ่มทุน เตรียมขายหุ้นที่ซื้อคืนจำนวน 17.7 ล้านหุ้น ในช่วงไตรมาส 1-2 ปีนี้ ขณะที่เล็งขึ้นค่าโฆษณาจากปีก่อนเฉลี่ย 3 เท่า

   นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) หรือ RS เปิดเผยว่า บริษัทฯตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้อยู่ที่ 4.6 พันล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนรายได้มาจากธุรกิจมีเดีย 80% ธุรกิจเพลง 10% และการจัดอีเวนท์ 10% และเชื่อว่าอัตราการทำกำไรสุทธิจะอยู่ที่ประมาณ 15% โดยกำไรจะเติบโตกว่าเท่าตัวถือเป็นอัตราสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ เป็นผลจากการเปลียนโมเดลธุรกิจเข้าสู่ธุรกิจสื่ออย่างเต็มตัว ประกอบกับปีนี้จะเป็นปีของการดำเนินธุรกิจทีวีดิจิทัลสมบูรณ์เป็นปีแรก และในปีนี้บริษัทฯจะดำเนินธุรกิจโดยใช้กลยุทธ์คอร์ปอเรต รีดีไซน์ ในทุกมิติทั้งในเรื่องคอนเทนท์ การบริหารลูกค้าและบุคลากร รวมถึงการสร้างแบรนด์ เพื่อตอบโจทย์การเป็น Media Revolution Nist 2015 มุ่งพัฒนาคอนเทนท์ให้มีคุณภาพ เข้าถึงได้ง่าย หลากหลาย และเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายและ Synergy

  นอกจากนี้ บริษัทฯได้วางงบลงทุน (Capex) ในปีนี้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท เพื่อยกระดับการถ่ายทำรายการและการออกอากาศให้ช่อง RS ทั้งหมดเป็นมาตรฐานเป็นทีวีระดับชาติ และยังมีโครงการลงทุนที่เหมาะสม และฐานะทางการเงินยังดีเยี่ยม ซึ่งการขยายธุรกิจในปีนี้จึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนใดๆ และคาดว่าจะได้เห็นกำไรต่อหุ้น (EPS) เติบโตแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยจากนี้ไป

 "ภาพรวมอุตสาหกรรมทีวีในเมืองไทยปีนี้ยังคงมีโอกาสเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีเม็ดเงินโฆษณาใช้จ่ายผ่านสื่อทีวีเติบโตตามไปด้วย เพราะเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงการรับส่งสัญญาณรับชมฟรีทีวีด้วยระบบดิจิทัลตลอด 1 ปีที่ผ่านมา มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และในปีนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มคุ้นเคยกับช่องทางเลือกใหม่ในการรับชมฟรีทีวีมากขึ้นทำให้คอนเทนท์มีความสำคัญมากยิ่งขึ้น และทางบริษัทฯได้วางกลยุทธ์รุกสู่การเป็น Media Revolution ซึ่งจะก้าวเข้าสู่ธุรกิจมีเดียโดยดำเนินธุรกิจทั้งดิจิทัล ทีวีและแซทเทิลไลท์ ทีวี รวมถึงวิทยุ โดยมองว่าเป็นธุรกิจที่ทำอัตรากำไรขั้นต้นได้ดี ขณะเดียวกันยังจะดำเนินธุรกิจเพลงที่บริษัทฯมีความถนัดและทำได้ดี เพียงแค่ปรับโครงสร้างการสร้างรายได้ มุ่งผลิตเพื่อต่อยอดธุรกิจมีเดีย และปัจจุบันทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯจะประกอบด้วย 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจมีเดีย ธุรกิจเพลง และธุรกิจอีเวนท์" นายสุรชัย กล่าว

 ด้านนายดาม นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน RS เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมขายหุ้นที่ได้ซื้อคืนมาก่อนหน้านี้จำนวน 17.7 ล้านหุ้น ในช่วงไตรมาส 1 ถึงไตรมาส 2 ปี 2558 โดยจะเป็นการทยอยขายในตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 2-3 สัปดาห์ เพื่อที่จะไม่ให้ผลกระทบต่อราคาในตลาด ส่วนราคาขาย ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในช่วงนั้นๆ  "คาดว่าจะขายหุ้นที่ซื้อคืนมาก่อนหน้านี้เป็นจำนวน 17.7 ล้านหุ้นโดยจะเป็นการทยอยขายเพื่อที่จะทำให้เสร็จก่อนเดือน..ี้ เพื่อที่จะไม่ให้โดนลดทุนจดทะเบียน" นายดาม กล่าว  

   นอกจากนี้ มีแผนจะปรับขึ้นค่าโฆษณาปีนี้อีกเฉลี่ย 3 เท่า โดยช่อง 8 มีการปรับขึ้นค่าโฆษณาเฉลี่ย 5 เท่า ซึ่งเป็นไปตามเรทติ้งที่ปรับตัวสูงขึ้น   

   ทั้งนี้ ช่อง 8 มีอัตราค่าโฆษณาอยู่ที่ 70,000-200,000 บาท/นาที ส่วนช่อง 2 มีอัตราค่าโฆษณาอยู่ที่ 35,000-45,000 บาท/นาที ส่วนวิทยุสบายดีและยูชาแนล ปรับขึ้นเฉลี่ย 20% 

  "การปรับขึ้นค่าโฆษณาจะเป็นตามเรทติ้งที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยช่อง 8 จะมีเรทติ้งสูงสุดโดยจะปรบเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 5 เท่า และช่องอื่นๆจะเฉลี่ยอยู่ที่ 3 เท่า ซึ่งรายได้ของธุรกิจดิจิทัลทีวีจะคิดเป็น 40% ของรายได้รวมทั้งหมด แม้ที่ผ่านมาช่อง 8 จะทำกำไรได้ไม่สูงนัก แต่ก็เป็นตัวเลขที่พึงพอใจและรับได้ ซึ่งในปีนี้จะต้องรอดูอีกครั้งหนึ่งซึ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก" นายดาม กล่าว  

 นายดาม กล่าวต่อว่า ในด้านของงบลงทุนในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท โดยจะแบ่งเป็นงบสำหรับการผลิตรายการต่างๆ จำนวน 1,000 ล้านบาท และสำหรับปรับปรุงอุปกรณ์ช่องต่างๆ 300 ล้านบาท ซึ่งในปีนี้บริษัทฯจะลดความสนใจในธุรกิจกีฬา แต่จะหันมาสนใจในธุรกิจฟรีทีวีมากขึ้นเพราะมีโอกาสเติบโตมาก

     สำหรับ ราคาหุ้น RS ปิดตลาดเช้าวันนี้ อยู่ที่ 17.50 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าการซื้อขาย 73.56 ล้านบาท 

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

RS คาดปีนี้กำไรทำนิวไฮ ตั้งเป้ารายได้ 4.6 พันลบ.จากมีเดีย-เพลง-อีเวนท์

    นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส (RS) คาดว่ากำไรปีนี้จะเติบโตกว่าเท่าตัว และสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับแต่ก่อตั้งบริษัทมา โดยตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้จะเติบโตขึ้นเป็น 4.6 พันล้านบาท ซึ่งจะมาจากธุรกิจมีเดีย 80% ธุรกิจเพลง 10% และธุรกิจอีเวนท์ 10% ขณะที่บริษัทตั้งงบลงทุนไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาทเน้นการยกระดับถ่ายทำและการออกอากาศรายการโทรทัศน์

     เราตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะมีรายได้รวม 4.6 พันล้านบาท และเชื่อว่าอัตรากำไรสุทธิจะอยู่ประมาณ 15% โดยกำไรน่าจะเติบโตกว่าเท่าตัวถือเป็นอัตราสูงสุดเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เนื่องด้วยบริษัทฯมีการรุกธุรกิจสื่ออย่างเต็มรูปแบบโดยเฉพาะธุรกิจทีวีดิจิตอล ขณะที่การประมูลฟุตบอล ลาลีก้า ในปีนี้ เราได้ให้ความสนใจน้อยลง ซึ่งต้องดูต้นทุนก่อนว่าคุ้มหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ธุรกิจอาร์เอสในปีนี้จะอยู่ที่ฟรีทีวี มีเดีย และวิทยุเป็นหลัก"นายสุรชัย กล่าว

   การดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะใช้กลยุทธ์"คอปอร์เรท รีดีไซน์"(Corparate Redesign)ในทุกมิติ ทั้งด้านคอนเท้นต์ การบริหารลูกค้าและบุคคลากร รวมถึงการสร้างแบรนด์ เพื่อตอบโจทย์การเป็น Media Revolutionist 2015 มุ่งพัฒนาคอนเท้นท์ให้มีคุณภาพเข้าถึงได้ง่ายหลากหลาย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและSynergy เข้าด้วยกันระหว่างกลุ่มทุกธุรกิจคอนเท้นต์และมีเดีย

    สำหรับ เงินลงทุนกว่า 300 ล้านบาทในปีนี้จะใช้ปรับปรุงอุปกรณ์  Broadcast เพื่อยกระดับระบบการถ่ายทำและการออกอากาศให้ช่อง RS ทั้งหมดเป็นมาตรฐานทีวีระดับชาติ อย่างไรก็ตาม บริษัทยังไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน เนื่องจากมีเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทเพียงพอต่อการลงทุนในอีก 3-5 ปีข้างหน้า และคาดว่าจะได้เห็นกำไรต่อหุ้น(EPS)ของบริษัทเติบโตอย่างเต็มที่

    นายสุรชัย ยังเปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทปรับขึ้นอัตราค่าโฆษณาตั้งแต่ต้นปีทั้งธุรกิจมีเดียและธุรกิจเพลง โดยเฉลี่ยคิดเป็นอัตราค่าโฆษณาที่สูงขึ้นประมาณ 3 เท่า เมื่อเทียบกับอัตราในปีก่อน แบ่งเป็น ช่อง 8 มีอัตราค่าโฆษณาใหม่ที่ 70,000-200,000 บาท/นาที, ช่อง 2 ปรับขึ้นมาอยู่ที่ 35,000-45,000 บาท/นาที, ช่อง You channel ปรับขึ้นเล็กน้อย และรายการวิทยุ ปรับขึ้น 20%

     นายสุรชัย กล่าวถึงภาพรวมอุตสาหกรรมทีวีของไทยในปีนี้ว่า จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีเม็ดเงินโฆษณาใช้จ่ายผ่านสื่อทีวีเติบโตตามไปด้วย หลังการเปลี่ยนแปลงการส่งสัญญาณรับชมฟรีทีวีด้วยระบบดิจิตอลตลอด 1 ปีที่ผ่านมาเริ่มมีความชัดเจนยิ่งขึ้น ผู้บริโภคส่วนใหญ่เริ่มคุ้นเคยกับช่องทางเลือกใหม่ ส่งผลให้คอนเท้นต์จะยิ่งทวีความสำคัญมากยิ่งขึ้น เพราะผู้ครอบครองคอนเท้นต์ดีและมีศักยภาพจะสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคและทุกกลุ่มเป้าหมายได้ดีกว่า

    ด้านนายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน RS กล่าวว่า บริษัทเตรียมขายหุ้นที่ได้มีการซื้อคืนมาก่อนหน้านี้ จำนวน 17.7 ล้านหุ้น ในช่วงไตรมาส 1/58 ถึงไตรมาส 2/58 ซึ่งจะเป็นการทยอยขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยราคาจะขึ้นอยู่กับสภาวะตลาดในช่วงนั้นๆ คาดว่าจะดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ภายใน 2-3 สัปดาห์เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นในตลาดมากนัก

    "คาดว่าจะขายหุ้นที่ซื้อคืนมาก่อนหน้านี้ เป็นจำนวน 17.7 ล้านหุ้น จะเป็นการทยอยขาย โดยจะต้องทำให้เสร็จก่อนเดือน ก.ย.นี้ เพื่อจะได้ไม่โดนลดทุนจดทะเบียน"นายดามพ์ กล่าว

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!