WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DEMCO เร่งรับงานดัน backlog ปีนี้พุ่ง 1.2 หมื่นลบ.,คาดวินด์ฯเคลียร์ปัญหาใน 3 เดือน

   บมจ.เด็มโก้(DEMCO) เปิดเผยว่าในปีนี้จะมีการเข้าประมูลงานสร้างโรงไฟฟ้าและสถานีไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีปริมาณงานในมือ(backlog)สิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 1.2 หมื่นล้านบาท จาก 4.2 พันล้านบาทสิ้นปี 57 คาดว่าจะรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้ประมาณ 50% และราวปลายเดือนนี้หรือต้นเดือน ก.พ.58 บริษัทน่าจะเซ็นสัญญาสัมปทานสาธารณูปโภคในลาวมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาทได้ ขณะที่บริษัทตั้งเป้ารายได้ปีนี้แตะ 6 พันล้านบาท และทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์

   นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ DEMCO เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเข้าประมูลงานก่อสร้างอย่างต่อเนื่องมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาททั้งภาครัฐและเอกชน โดยคาดหวังจะได้รับงานราว 7.7 พันล้านบาท รวมถึงงานก่อสร้างเสาโครงเหล็กเครือข่ายสัญญาณ 3G ที่ยังมีความต้องการจากผู้ประกอบการ คาดว่าจะมีรายได้เข้ามาประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งงานก่อสร้างและจำหน่ายเสาโครงเหล็กมีอัตรากำไรสุทธิประมาณ 4-6%

    ขณะที่บริษัทจะมีเงินปันผลจากการลงทุนเข้ามาอีกเกือบ 200 ล้านบาทที่จะบันทึกเป็นกำไรสุทธิในปีนี้ และยังอยู่ระหว่างเตรียมก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 16 เมกะวัตต์ เป็นการถือหุ้นร่วมกับพันธมิตรต่างชาติ โดย DEMCO ถือในสัดส่วนโครงการละ 15-20% คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างโครงการแรกได้ภายในครึ่งปีแรก โครงการดังกล่าวได้รับการคิดค่าไฟจากภาครัฐในรูปแบบ FiT ที่ราคา 5.04 บาท/หน่วย ผลตอบแทนการลงทุนราว 16%

     ทั้งนี้ นอกจากเป็นผู้ร่วมผลิตแล้วบริษัทยังได้รับงานก่อสร้างงานโรงไฟฟ้าดังกล่าวมูลค่าโครงการละ 600 ล้านบาท ใช้เวลาก่อสร้าง 18 เดือนต่อโครงการ โดยหากโครงการแรกแล้วเสร็จได้เร็วกว่ากำหนดในปีนี้ก็จะเพิ่มเป็นรายได้พิเศษเข้ามาอีก

      พร้อมกันนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาสัมปทานเป็นผู้ดำเนินการระบบสาธารณูปโภคในลาวปลายเดือนนี้หรือต้นเดือนหน้า โดยโครงการดังกล่าวจะมีมูลค่าลงทุนราว 1,000 ล้านบาท ขณะนี้ได้รับอนุญาตให้สำรวจและเสนอราคาจากทางการลาวและอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการพิจารณาแล้ว

    นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวถึงการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของ WEH โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือนเพื่อเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่มีอยู่ในมือ รวมถึงแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และบริษัทมีความสนใจที่จะซื้อหุ้นของ WEH เพิ่มจากที่ถืออยู่ราว 4% แต่ต้องรอดูราคาเหมาะสม กระแสเงินสดที่มีอยู่ในมือ และผลตอบแทนจากการลงทุนว่าคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคตที่จะตัดสินใจอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามภายในเดือนนี้จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นของWEH เพื่อปรับโครงสร้างของคณะกรรมการบริหาร รวมถึงการลดสัดส่วนถือหุ้นของนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ที่มีปัญหาคดีความ ซึ่งถือในบริษัท รีนิวเอเบิล เอนเนอยี คอร์ปอเรชั่น(REC) 75% โดย REC ถือหุ้น WEH 63% ซึ่งทางธนาคารจะไม่ปล่อยเงินกู้ยืมให้กับ WEH ในการนำไปก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหากยังไม่มีการลดสัดส่วนการถือหุ้นของนายนพพรและหลังจากนั้นคาดว่าจะมีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามาซื้อหุ้นต่อจากนายนพพร โดยปัจจุบันได้รับการติดต่อจากกองทุนในประเทศสิงคโปร์และญี่ปุ่นรวมถึงกองทุนส่วนบุคคลในประเทศไทย เพื่อเข้าขอซื้อหุ้นในสัดส่วนดังกล่าวแล้ว

    ปัจจุบัน WEH มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 12 โครงการ ดำเนินการผลิตไปแล้ว 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 120 เมกะวัตต์ และมีอีก 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 120 เมกะวัตต์ที่รอการก่อสร้าง ซึ่งต้องให้การปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นแล้วเสร็จก่อน ขณะที่ได้รับใบอนุญาตขายไฟฟ้าแล้วอีก 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 360 เมกะวัตต์อยู่ในมือ รวมถึงมีผลกำไรจากการลงทุนเข้ามาอีกปีละกว่า 500 ล้านบาท ถือเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจสูง

อินโฟเควสท์

DEMCO คาดรายได้-กำไรปีนี้ทำ New high ส่วน WEH ปรับโครงสร้างแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน พร้อมเดินหน้าเข้าตลาดฯ

    DEMCO ตั้งเป้ารายได้ปีนี้มากกว่า 6 พันลบ. กำไรทำ New high เดินหน้าประมูลงานก่อสร้างทั้งรัฐ-เอกชน ดัน backlog แตะ 1.2 หมื่นลบ. พร้อมคาด WEH ปรับโครงสร้างแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน พร้อมเดินหน้าเข้าตลาดฯ ยันไม่กระทบบริษัทฯ แย้มข่าวดี เซ็นสัญญาสัมปทานสาธารณูปโภคในลาว มูลค่ากว่า 1 พันลบ.สิ้นเดือนนี้

 นายพงษ์ศักดิ์ ศิริคุปต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เด็มโก้ จำกัด (มหาชน) หรือ DEMCO เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปีนี้มากกว่า 6,000 ล้านบาท สูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทฯ รวมถึงคาดว่ากำไรสุทธิจะทำสถิติใหม่ จากการประมูลงานก่อสร้างอย่างต่อเนื่องกว่า 10,000 ล้านบาท จากทั้งภาครัฐและเอกชน โดยคาดว่าจะได้รับงานประมาณ 7,750 ล้านบาท และมี Backlog คงค้างจากปี 2557 อีก 4,200 ล้านบาท รวมเป็นงานในปีนี้เกือบ 12,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้ประมาณ 50%

 ขณะที่ยังมีงานเสาโครงเหล็กเครือข่ายสัญญาณ 3G ที่ยังมีดีมานด์จากผู้ประกอบการเข้ามาอย่างต่อเนื่องคาดว่าจะมีรายได้ส่วนดังกล่าวประมาณ 500 ล้านบาท ซึ่งงานก่อสร้างและงานจำหน่ายเสาโครงเหล็กมีอัตรากำไรสุทธิประมาณ 4-6% ขณะที่ บริษัทฯ จะมีเงินปันผลจากการลงทุนเข้ามาอีกเกือบ 200 ล้านบาท ที่จะบันทึกเป็นกำไรสุทธิ

 นอกจากนี้ ปัจจุบัน DEMCO อยู่ระหว่างการเตรียมเริ่มก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ 2 โครงการ กำลังการผลิต รวม 16 เมกะวัตต์ ซึ่งถือหุ้นร่วมกับพันธมิตรต่างชาติ โดย DEMCO ถือ 15-20% ต่อโครงการ คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างโครงการแรกได้ภายในครึ่งแรกของปีนี้ ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับการคิดค่าไฟจากภาครัฐด้วยระบบ FIT ที่ 5.04 บาทต่อหน่วย ประเมินว่าจะมีผลตอบแทนจากการลงทุนราว 16% ซึ่งนอกจากการเป็นผู้ร่วมผลิตบริษัทฯยังรับงานก่อสร้างงานโรงไฟฟ้าดังกล่าวมูลค่าโครงการละ 600 ล้านบาท ซึ่งจะใช้เวลาก่อสร้าง 18 เดือนต่อโครงการ โดยหากโครงการแรกแล้วเสร็จได้เร็วกว่ากำหนดในปีนี้ ก็จะเพิ่มเข้ามาเป็นรายได้พิเศษเข้ามาอีก

 ส่วนการปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นของบริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เพื่อเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่มีอยู่ในมือ รวมถึงแผนการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยบริษัทฯ ยืนยันว่ากรณีปัญหาดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อ DEMCO อย่างมีนัยสำคัญ

 ทั้งนี้ คาดว่าภายในเดือนนี้ จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นของ WEH เพื่อการปรับโครงสร้างของคณะกรรมการบริหาร รวมถึงการลดสัดส่วนถือหุ้นของนายนพพร ศุภพิพัฒน์ ที่มีปัญหาคดีความ ซึ่งถือหุ้นในบริษัท รีนิวเอเบิล เอนเนอยี คอร์ปอเรชั่น (REC) 75% โดย REC ถือหุ้น WEH 63% ซึ่งทางธนาคารจะไม่ปล่อยเงินกู้ยืมให้กับ WEH ในการนำไปก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมหากยังไม่มีการลดสัดส่วนถือหุ้นนายนพพร และหลังจากนั้นคาดว่าจะมีกลุ่มผู้ถือหุ้นใหม่เข้ามาซื้อหุ้นต่อจากนายนพพร โดยปัจจุบันได้รับการติดต่อจากกองทุนในประเทศสิงคโปร์และญี่ปุ่นรวมถึงกองทุนส่วนบุคคลในประเทศไทย เพื่อเข้าขอซื้อหุ้นในสัดส่วนดังกล่าว

 "เรื่อง WEH ไม่ส่งผลกระทบใด ๆ ต่อเราเลย เพราะโครงการที่เดินหน้าไปแล้วเราก็จะได้รับส่วนแบ่งกำไรตามสัดส่วนถือหุ้น ส่วนโครงการใหม่ก็จะกระทบในแง่ของความล่าช้าที่บริษัทฯรับงานก่อสร้าง โดยหากปรับโครงสร้างแล้วเสร็จและเคลียร์ปัญหาเรื่องผู้ถือหุ้น แบงก์ก็คงจะมีการปล่อยเงินกู้และดำเนินโครงการต่อไปได้ โดยเราคาดว่าทุกอย่างจะแล้วเสร็จภายใน 3 เดือน เพราะ WEH มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจสูง ถ้าหากล่าช้าอาจจะเสียประโยชน์ทางธุรกิจได้"นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

 ปัจจุบัน WEH มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 12 โครงการ ซึ่งดำเนินการผลิตไปแล้ว 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 120 เมกะวัตต์ และมีอีก 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 120 เมกะวัตต์ ที่รอการเริ่มก่อสร้างซึ่งต้องให้การปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นแล้วเสร็จก่อน ขณะที่ได้รับใบอนุญาตขายไฟแล้วอีก 4 โครงการ กำลังการผลิตรวม 360 เมกะวัตต์อยู่ในมือ รวมถึงมีผลกำไรจากการลงทุนเข้ามาอีกปีละกว่า 500 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นบริษัทที่มีศักยภาพในการดำเนินธุรกิจสูง โดยมีแผนเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งหลังจากมีการจัดการปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างผู้ถือหุ้นคาดว่าจะเริ่มดำเนินการต่อได้

 นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า บริษัทฯ มีความสนใจที่จะซื้อหุ้นของ WEH เพิ่มจากปัจจุบันที่ถืออยู่ราว 4% แต่ต้องรอดูราคาที่จะเสนอขาย รวมถึงกระแสเงินสดที่มีอยู่ในมือ และผลตอบแทนจากการลงทุนว่าคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งเป็นเรื่องของอนาคตที่จะตัดสินใจอีกครั้ง

 "ถามว่าสนใจซื้อหุ้น WEH เพิ่มไหม ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะเป็นบริษัทที่มีศักยภาพสูง แต่ตอนที่เราซื้อมาที่ราคา 190 บาทต่อหุ้น พาร์ 10 บาท คิดเฉพาะโรงไฟฟ้า 4 โครงการที่ดำเนินไปแล้วเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ได้รับใบอนุญาตมาอีก 4 ใบ กำลังการผลิตรวม 360 เมกะวัตต์ เชื่อว่าราคาจะต้องมากกว่าเดิม ซึ่งเราก็ต้องดูก่อนว่ามีกระแสเงินสดพอไหม และผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นเท่าไร และโครงการมีการตัดสินใจอีกครั้งในอนาคต"นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว

 นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวด้วยว่า บริษัทฯจะเซ็นสัญญาสัมปทานเป็นผู้ดำเนินการระบบสาธารณูปโภคในลาว ปลายเดือนนี้ถึงต้นเดือนหน้า โดยโครงการดังกล่าวจะมีมูลค่าลงทุนราว 1,000 ล้านบาท ซึ่ง DEMCOได้รับอนุญาตให้สำรวจและเสนอราคาจากทางการประเทศลาว และอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว โดยโครงการดังกล่าวจะเป็นการขยายธุรกิจ เพื่อดำเนินการระบบสาธารณูปโภคทั้งน้ำประปาและไฟฟ้าในประเทศลาวอย่างต่อเนื่องในอนาคต   

 นอกจากนี้ จะเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีในการดำเนินธุรกิจในประเทศลาว เนื่องจากมีการสร้างโรงไฟฟ้าจำนวนมาก ซึ่งจะส่งผลดีต่อกลุ่มธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง โรงไฟฟ้า สายส่งสถานีย่อย รวมถึงโครงเหล็กได้ในอนาคต   

 สำหรับ งานในประเทศอื่น DEMCO ยังมีการสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยในพม่า มูลค่า 90 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯรับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาโครงการ นอกจากนี้ ยังมีงานสร้างสถานีย่อยโครงการใหม่ที่บริษัทฯจะร่วมกับพันธมิตรญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะเข้าเสนอราคาได้ในช่วงปลายปีนี้

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!