Details

Category: บริษัทจดทะเบียน

Published: Thursday, 15 January 2015 00:34

Hits: 5048

NNCL มั่นใจปี 58 พลิกมีกำไร จากปีก่อน คาดขาดทุนกว่า 100 ลบ. พร้อมลุยลงทุนโรงไฟฟ้าเฟส 2 ที่ปทุมธานี

    ‘นวนคร’มั่นใจปี 58 พลิกมีกำไร จากปีก่อน คาดขาดทุนกว่า 100 ลบ. เหตุขายที่ดินได้มากขึ้น พร้อมชะลอแผนสร้างนิคมฯแห่งที่ 3 เหตุยังมีที่ดินเหลือพอขาย พร้อมลุยลงทุนโรงไฟฟ้าเฟส 2 ที่ปทุมธานี ตรียมเสนอบอร์ดพิจารณาแผนพัฒนาที่อยู่อาศัย-คอมมูนิตี้มอลล์ ในนิคมฯนวนครปีนี้

    นายนิพิฐ อรุณวงษ์ ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวนคร จำกัด (มหาชน)หรือ NNCL เปิดเผยกับ  "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ว่า ในปีนี้บริษัทจะพลิกกลับมามีกำไร จากปี 57 ที่คาดว่าจะมีผลขาดทุนกว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทจะมียอดขายที่ดินมากขึ้น หลังสถานการณ์ทางการเมืองกลับสู่ปกติ ทำให้นักลงทุนมั่นใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI)ได้ให้สิทธิประโยชน์สนับสนุนให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยจำนวนมาก                

   ปัจจุบันบริษัทมียอดขายที่ดินแล้วมูลค่า 500 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้รายได้ในปลายไตรมาส 1/58 หรือต้นไตรมาส 2/58 และกำลังเจรจาขายที่ดินให้กับนักลงทุนต่างชาติหลายราย ประกอบกับบริษัทได้ปรับขึ้นราคาขายที่ดิน ซึ่งจะช่วยหนุนรายได้รวมให้สูงขึ้นด้วย โดยที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี มีราคาอยู่ที่ 7 ล้านบาทต่อไร่ ขณะที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดนครราชสีมา มีราคาขายอยู่ที่ 2-2.2 ล้านบาทต่อไร่ นอกจากนี้บริษัทยังมีรายได้จากบริการสาธารณูปโภคภายในนิคมอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นอีกด้วย                 

  "ปีนี้รายได้ของบริษัทจะปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าปีก่อนมาก และพลิกกลับมามีกำไรได้ เพราะสามารถขายที่ดินได้มากขึ้น ซึ่งบริษัทที่เข้ามาลงทุนในนิคมของนวนคร ส่วนใหญ่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกน์ อาหารและยา "นายนิพิฐ กล่าว

  นายนิพิฐ กล่าวว่า บริษัทได้ชะลอแผนการสร้างนิคมอุตสาหกรรมนวนครแห่งที่ 3 เนื่องจากบริษัทยังมีที่ดินเหลือเพียงพอขาย โดยนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี  มีที่ดินอุตสาหกรรมเหลือรอขายจำนวน 300 ไร่ และที่ดินส่วนพานิชยกรรม( คอมเมอร์เชียล)จำนวน 100 ไร่ ส่วนที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดนครราชสีมา มีที่ดินรอขายจำนวน 800 ไร่             

   ดังนั้น บริษัทจึงหันมาเน้นลงทุนทางด้านโรงไฟฟ้าเฟส 2 ที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีขนาด 125 เมกะวัตต์  เพราะธุรกิจไฟฟ้าให้ผลตอบแทนที่ดี และมั่นคง  โดยจะลงทุนร่วมกับพันธมิตรรายเดิมที่สร้างโรงไฟฟ้าแห่งแรก คือ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)หรือ PTT และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) หรือ RATCH โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมขออนุญาตดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งที่ 2              

   "บริษัทชะลอแผนสร้างนิคมฯแห่งที่ 3 ออกไปก่อน เนื่องจากยังมีที่ดินเหลือพอขาย โดยจะหันมาลงทุนโรงไฟฟ้าแห่งที่ 2 ในพื้นที่เดียวกับโรงไฟฟ้าแห่งที่ 1 ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมฯนวนครปทุมธานี เพราะ สร้างผลตอบแทนที่ดีและมั่นคง โดยโรงไฟฟ้าแห่งที่ 1 จะสร้างเสร็จต้นปี 59 และคาดว่าจะจ่ายไฟฟ้าได้อีกประมาณ 3-4 เดือน หลังการทดสอบแล้วเสร็จ"นายนิพิฐ กล่าว

   นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเสนอแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัย และ คอมมูนิตี้มอลล์ ให้คณะกรรมการบริษัท(บอร์ด)พิจารณาภายในปีนี้ โดยจะสร้างในพื้นที่พานิชยกรรม( คอมเมอร์เชียล) ที่นิคมอุตสาหกรรมนวนคร เพราะปัจจุบันมีเนื้อนอยู่จำนวน 100 ไร่  โดยหากบอร์ดอนุมัติแล้วก็ต้องพิจารณาอีกครั้งว่าจะก่อสร้างเมื่อไหร่ เพราะบริษัทอยากรอให้รัฐบาลเดินหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าและโทลล์เวย์ เพื่อสร้างความน่าสนใจในการเข้าอยู่อาศัย และเพิ่มความสะดวกในการเดินทางเข้าพื้นที่ของร้านค้าต่างๆ

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย