- Details
- Category: บริษัทจดทะเบียน
- Published: Thursday, 15 January 2015 22:51
- Hits: 3997
NCH คาดหุ้นบวกแรง เหตุนักลงทุนมั่นใจผลงานปีนี้ดีต่อเนื่อง-มีโอนคอนโดฯบางส่วนใน Q1/58
NCH คาดหุ้นบวกแรง เหตุนักลงทุนมั่นใจผลงานปีนี้ดีต่อเนื่อง-มีโอนคอนโดฯ บางส่วนใน Q1/58 ตั้งเป้ารายได้รวมปีนี้ 2,200 ลบ.ดีกว่าปีก่อน เผยจะเน้นโครงการแนวราบ ชะลอขยายแนวสูง เหตุหวั่นโอเวอร์ซัพพลายในบางพื้นที่ ระบุมีเจรจาพันธมิตรที่สนใจลงทุนในบริษัท แต่ยังไม่มีข้อสรุป เหตุวัตถุประสงค์ไม่ตรงกัน
นายแพทย์สมเชาว์ ตันฑเทอดธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัทเอ็น.ซี.เฮ้าส์ซิ่ง จำกัด (มหาชน)หรือ NCH เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย"ถึงกรณีที่ราคาหุ้นของบริษัทฯ ปรับเพิ่มขึ้นถึง 11% ในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ว่า น่าจะเกิดจากการที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นในอนาคตของบริษัทฯ ตลอด 4-5 ปีที่ผ่านมา ที่ทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง และปีนี้ก็มีแนวโน้มดีขึ้นมากทั้งรายได้และกำไร เพราะบริษัทฯ จะเริ่มทยอยโอนโครงการคอนโดมิเนียมบางส่วนตั้งแต่ไตรมาส 1/58 เป็นต้นไป หลังเลื่อนโอนมาจากปีก่อนหน้า จากเดิมที่บริษัทฯ มีรายได้จากโครงการแนวราบเกือบทั้งหมด
"คงเป็นผลประกอบการที่ค่อยๆ ดีขึ้น คือผลงานเราบวกตลอด 4-5 ปีมานี้ และปีนี้คงบวกไปมาก เพราะมีการโอนคอนโดฯ ได้ในไตรมาสแรกปีนี้ ดังนั้น จะดีขึ้นมาก เพราะช่วงก่อสร้างมีแต่รายจ่าย กำไรเลยน้อย แต่ตอน นี้จะทยอยโอน จึงคาดว่าหุ้นน่าจะบวกเพราะเรื่องนี้หรือไม่" นายแพทย์สมเชาว์ กล่าว
สำหรับโครงการคอนโดฯ ของบริษัท มีทั้งหมด 3 ตึก จำนวน 600 ยูนิต มูลค่ารวม 900 ล้านบาท และดำเนินการก่อสร้างไปแล้ว 400 ยูนิต มูลค่ารวม 500-600 ล้านบาท และจะเริ่มทยอยโอนไตรมาสแรกนี้เป็นต้นไป แต่คงไม่ใช่ตัวเลขโอนที่สูงมากนัก เพราะขึ้นอยู่กับกระบวนการในการอนุมัติสินเชื่อ
บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายรายได้รวมปีนี้ที่ 2,200 ล้านบาท ดีกว่าปีก่อนมาก ซึ่งผลงานปีก่อนอยู่ระหว่างรอแจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ อย่างไรก็ตาม โดยรวมรายได้ปี 2557จะออกมาดีกว่าปี 2556 เพียงเล็กน้อย เพราะรายได้ที่คาดจะเกิดขึ้นจากโอนคอนโดมิเนียมในปี 2557ได้เลื่อนโอนมาเป็นปีนี้ ทำให้ผลงานปีนี้จะโดดเด่น
อนึ่ง งวด 9 เดือนแรกของปี 2557บริษัทฯ มีกำไร 43.22 ล้านบาท หรือ 0.036 บาท/หุ้น ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปี 2556 ที่มีกำไร 68.94 ล้านบาท หรือ 0.058 บาท /หุ้น
นายแพทย์สมเชาว์ กล่าวต่อว่า แม้ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ จะเริ่มหันมากระจายความเสี่ยงด้วยการทำโครงการแนวสูง จากเดิมที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากแนวราบ แต่ในปีนี้บริษัทจะยังให้ความสำคัญกับโครงการแนวราบ และยังไม่ขอเปิดเผยว่าจะทำโครงการแนวสูงอีกกี่โครงการ เนื่องจากต้องดุสถานการณ์ไปก่อน เพราะขณะนี้โครงการแนวสูงในบางพื้นที่อาจมีโอเวอร์ซัพพลาย ในขณะที่โครงการแนวราบยังมีดีมานด์สูงกว่า
"ปีนี้จะเปิดแนวสูงอีกเท่าไหร่ เราคงดูสถานการณ์ไปก่อนมากกว่า เพราะโครงการแนวสูงอาจจะมีโอเวอร์ซัพพลาย ต้องดูดีๆ ดังนั้น เราคงจะยังโฟกัสแนวราบ เพราะเป็นสิ่งที่เราเชี่ยวชาญมากกว่าแนวสูง อีกอย่างดีมานด์มีเยอะกว่า "นายแพทย์สมเชาว์ กล่าว
ส่วนความคืบหน้าในการเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจที่สนใจเข้ามาลงทุนใน NCH นายแพทย์สมเชาว์ กล่าวว่า มีการเจรจาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่ยังไม่มีข้อสรุปเพราะวัตถุประสงค์ในการเข้ามาของพันธมิตรไม่ตรงกันกับวัตถุประสงค์ของบริษัทฯ อย่างไรก็ตาม หากมีวัตถุประสงค์ที่ตรงกันเมื่อใด ก็พร้อมจะพิจารณา
"เรื่องนี้เราก็ยังแค่คุยกันเฉยๆ ยังคุยไม่จบ เพราะวัตถุประสงค์ยังไม่ตรงกัน ก็คงไม่เหมือนกันแล้วล่ะ แต่ถ้าจูนได้เมื่อไหร่ก็ค่อยมาคุย ถามว่าวัตถุประสงค์ที่เราอยากได้คืออะไร ไม่ขอพูด โดยมารยาทนะ และถามว่าจำเป็นแค่ไหนที่ต้องเกิดในปีนี้ จริงๆ เราก็เดินของเราได้ แต่ถ้ามีคนเข้ามาเสริมมันก็จะดีขึ้น"นายแพทย์สมเชาว์ กล่าว
อนึ่ง ก่อนหน้านี้ นายแพทย์สมเชาว์ เคยกล่าวไว้ว่า NCH ต้องการเงินทุนในการขยายธุรกิจเพราะหากมีเงินทุนมากขึ้น ก็จะเพิ่มความแข็งแกร่งได้สามารถซื้อที่ดินเพื่อทำโครงการใหม่ๆ ได้เร็วขึ้น และที่จะเสริมเข้ามานอกเหนือจากเงินทุน คือ เทคโนโลยี
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย