WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

LDC รุกต่างจังหวัดเพิ่ม ตั้งเป้าปี 58 ขยายสาขาเพิ่มอีก 10 สาขา ย้ำ ผลงานปี 60 รายได้แตะ 1 พันลบ. ได้สำเร็จ

     LDC รุกตลาดต่างจังหวัดเพิ่ม หวังสร้างมาตรฐานใหม่ของการทำฟัน วางเป้าเปิดศูนย์ทันตกรรมเฉพาะทางในปี 58 เพิ่ม 10 สาขา จากสิ้นปี 2557 มีสาขาอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑลแล้วทั้งสิ้น 21 สาขา “หมอหนึ่ง” ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ เอ็มดี เผย ก่อนหน้านี้เดินทางชนิดว่าไม่มีเหน็ดเหนื่อย และได้ 3 ทำเลแรกในพื้นที่ต่างจังหวัดเรียบร้อยแล้ว ปัจจุบัน อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และคาดเปิดให้บริการภายใน Q3/58 นี้  พร้อมวางเป้าผลงานในปี 2560 นี้ มีรายได้รวมแตะ 1 พันล้านบาทได้สำเร็จ   

   LDC watanaทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลดีซี เด็นทัล จำกัด (มหาชน) หรือ LDC เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานปี 2558 บริษัทฯ พร้อมเดินหน้ารุกตลาดต่างจังหวัดเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จากที่ผ่านมา LDC มีสาขาอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น โดยเมื่อสิ้นปี 2557 บริษัทฯ มีสาขาอยู่ทั้งสิ้น 21 สาขา และมีการเซ็นสัญญาซื้อที่ดินในจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมทั้งเช่าที่ดินเป็นสัญญาระยะยาว  20 ปี ในจังหวัดนครพนมและมุกดาหาร เพื่อเตรียมเปิดศูนย์ทันตกรรมเฉพาะทางในนาม LDC Dental เป็น 3 สาขาแรกนำร่องในต่างจังหวัด ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงวางแผนการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการและรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 3/2558           

  สำหรับ แผนการขยายศูนย์ทันตกรรมเฉพาะทางในปีนี้ บริษัทฯ วางไว้ทั้งสิ้น 10 สาขา ในทำเลที่เหมาะสม ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล รวมถึงตามหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด คาดว่าจะใช้งบลงทุนสาขาละประมาณ 10 ล้านบาท ไม่รวมการลงทุนที่ดิน โดยช่องทางการขยายสาขาที่เป็นไปได้มีหลายช่องทางทั้งการลงทุนเอง การร่วมทุนและการเข้าซื้อกิจการ โดยบริษัทฯ จะพิจารณาเลือกพื้นที่ตามทำเลที่ตั้งเหมาะสม ซึ่งปัจจุบัน บริษัทฯ อยู่ระหว่างพูดคุยและเจรจากับผู้ประกอบการคลินิกหลายรายอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี และสนับสนุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

  "บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายปีนี้จะขยายสาขาให้ได้อีก 10 สาขา โดยเราจะเริ่มมองหาพื้นที่ตามหัวเมืองใหญ่ ในต่างจังหวัดมากขึ้น ได้แก่ เชียงใหม่ , เชียงราย , พิษณุโลก และหาดใหญ่ เป็นต้น รวมทั้ง พื้นที่ในกรุงเทพและปริมณฑล โดยขึ้นอยู่กับช่องทางและโอกาสที่ดี สาขาที่เปิดใหม่จะเน้นเป็นสาขาขนาดใหญ่ ซึ่งมีความได้เปรียบและแตกต่างจากคลินิกท้องถิ่นซึ่งเป็นคลินิกขนาดเล็กในพื้นที่เพียง 1 - 2 คูหา เราจึงมองหาที่ดินในทำเลที่เหมาะสม เพื่อก่อสร้างศูนย์ทันตกรรมของเราเอง รวมทั้งการขยายสาขาจากการซื้อกิจการ ก็เป็นอีกช่องทางที่เรามองไว้ เพื่อให้เราเติบโตได้รวดเร็วยิ่งขึ้น" ทันตแพทย์วัฒนา กล่าว

                ทันตแพทย์วัฒนา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับกลยุทธ์ในการขยายสาขา บริษัทฯ จะสร้างมาตรฐานใหม่ ของการทำฟัน ทั้งทันตแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างดี เครื่องมือทันสมัย อยู่ในทำเลที่เหมาะสม และระบบที่มีมาตรฐานเดียวกันทุกสาขา เพื่อสร้างความได้เปรียบจากคู่แข่งซึ่งเป็นคลินิกรายย่อย และที่ผ่านมาตั้งแต่บริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ส่งผลให้บริษัทฯ เป็นที่รู้จักมากขึ้นและได้รับความเชื่อถือ

    อีกทั้ง บริษัทฯ ได้สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับทันตแพทย์เฉพาะทางในพื้นที่ต่างหวัดอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่า จะช่วยลดปัญหาเรื่องการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรองรับสาขาที่เกิดขึ้น    

    อย่างไรก็ตาม รายได้จากสาขาใหม่ของบริษัทฯ ในช่วงเริ่มต้น จะไม่มากนัก เมื่อเทียบกับสาขาที่เปิดอยู่เดิม เนื่องจากการเปิดสาขาใหม่จนสามารถเป็นที่รู้จักและได้รับความไว้ใจมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้นต้องใช้เวลา  แต่คาดว่า ภายในระยะเวลา 3- 5 ปี สาขาที่เปิดใหม่จะสามารถถึงจุดคุ้มทุนและสนับสนุนการรับรู้รายได้เข้ามามากขึ้นได้ ประกอบกับการมีสาขาจำนวนมาก จะทำให้บริษัทฯ เกิดการประหยัดต่อขนาด (economy of scale)

   สนับสนุนผลประกอบการบริษัทฯ ให้เติบโตมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีนโยบายการเพิ่มอัตราการเข้าใช้บริการของลูกค้าในสาขาเดิมให้ถี่ขึ้น และการเปิด AEC เชื่อว่า น่าจะเป็นอีกปัจจัยบวกที่สนับสนุนธุรกิจทันตกรรมในประเทศให้ได้รับประโยชน์  จึงเชื่อว่าปัจจัยดังกล่าวจะสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทฯ ให้เข็งแกร่ง มั่นใจเป้าหมายเดิมที่วางไว้ ในปี 2560 บริษัทฯ จะสามารถสร้างรายได้ให้แตะระดับ 1 พันล้านบาทได้สำเร็จ

    “หลังจากเข้าตลาดฯ บริษัทฯ ยังเดินหน้าตามแผนเดิมที่วางไว้ในการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลประกอบการที่ดีในอนาคต และยังคงมั่นใจเป้าหมายเดิมที่เคยวางไว้ คาดว่ารายได้ในปี 2560 จะเติบโตแตะ 1 พันล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันเราเริ่มขยายอาณาจักร LDC ไปยังพื้นที่ในต่างจังหวัดแล้ว ส่วนรายได้รวมใน ปี 2557 คาดว่าจะออกมาใกล้เคียงผลงานปี 2556 ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 347.61 ล้านบาท  เนื่องจากผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศปีที่ผ่านมาไม่คึกคักเท่าไหร่นัก แต่เชื่อว่า การใส่ใจในเรื่องสุขภาพทางช่องปาก และการทำทันตกรรมเพื่อตกแต่งสวยงาม ยังเป็นสิ่งจำเป็นและอยู่ในความนิยมของประชากร” ทันตแพทย์วัฒนา กล่าว

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ IR PLUS    

คุณสารภี      สายะเวส (จูน)   Tel. 02-022-6200 ต่อ 610, 081-420-0753  Email : sarapee@irplus.in.th

LDC ตั้งเป้ารายได้ปี 60 แตะ 1 พันลบ.ตามแผนขยายสาขา,ปีนี้เพิ่ม 10 แห่ง

     ทันตแพทย์วัฒนา ชัยวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.แอลดีซี เด็นทัล (LDC) ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 60 จะเพิ่มเป็นระดับ 1 พันล้านบาท หลังรายได้รวมในปีที่ผ่านมาทำได้เพียงใกล้เคียงปี 56 ที่ 347.61 ล้านบาท ขณะที่มีแผนขยายสาขาทั้งในและต่างจังหวัดเพิ่มอีก 10 แห่งในปีนี้ พร้อมเจรจาพันธมิตรพม่า มองโอกาสเปิดคลีนิกทันตกรรมในกรุงย่างกุ้ง  รองรับตลาดขนาดใหญ่ในพม่า และปรับแผนการเปิดคลีนิกในลาว เป็นการเปิดคลีนิกในจังหวัดที่มีด่านชายแดนติดต่อกับลาวแทน เนื่องจากมองว่ากำลังซื้อในลาวยังไม่มากนัก

     "หลังจากเข้าตลาดฯ บริษัทยังเดินหน้าตามแผนเดิมที่วางไว้ในการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง เพื่อผลประกอบการที่ดีในอนาคต และยังคงมั่นใจเป้าหมายเดิมที่เคยวางไว้ คาดว่ารายได้ในปี 60 จะแตะ 1 พันล้านบาท เนื่องจากปัจจุบันเราเริ่มขยายอาณาจักร LDC ไปยังพื้นที่ในต่างจังหวัดแล้ว"ทันตแพทย์วัฒนา กล่าว

   ทันตแพทย์วัฒนา คาดว่ารายได้รวมในปี 57 จะใกล้เคียงกับปี 56 ซึ่งมีรายได้รวมอยู่ที่ 347.61 ล้านบาท  เนื่องจากได้รับผลกระทบภาพรวมเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการใส่ใจในเรื่องสุขภาพทางช่องปาก และการทำทันตกรรมเพื่อตกแต่งสวยงาม ยังเป็นสิ่งจำเป็นและอยู่ในความนิยมของประชากร

    โดยปีนี้บริษัทจะเดินหน้ารุกตลาดต่างจังหวัดเพิ่มอย่างต่อเนื่อง จากที่ผ่านมา LDC มีสาขาอยู่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น โดยสิ้นปี 57 บริษัทมีสาขาอยู่ทั้งสิ้น 21 สาขา และมีการเซ็นสัญญาซื้อที่ดินในจ.อุบลราชธานี พร้อมทั้งเช่าที่ดินเป็นสัญญาระยะยาว  20 ปี ในจ.นครพนมและมุกดาหาร เพื่อเตรียมเปิดศูนย์ทันตกรรมเฉพาะทางในนาม LDC Dental เป็น 3 สาขาแรกนำร่องในต่างจังหวัด ซึ่งปัจจุบันอยู่ในช่วงวางแผนการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการและรับรู้รายได้ภายในไตรมาส 3/58

    สำหรับ แผนการขยายศูนย์ทันตกรรมเฉพาะทางในปีนี้ บริษัทวางไว้ทั้งสิ้น 10 สาขา ในทำเลที่เหมาะสม ทั้งในกรุงเทพ ปริมณฑล รวมถึงตามหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัด คาดว่าจะใช้งบลงทุนสาขาละประมาณ 10 ล้านบาท ไม่รวมการลงทุนที่ดิน โดยช่องทางการขยายสาขาที่เป็นไปได้มีหลายช่องทางทั้งการลงทุนเอง การร่วมทุนและการเข้าซื้อกิจการ โดยบริษัทจะพิจารณาเลือกพื้นที่ตามทำเลที่ตั้งเหมาะสม ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างพูดคุยและเจรจากับผู้ประกอบการคลินิกหลายรายอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดี และสนับสนุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ได้

   ทั้งนี้ เป้าหมายปีนี้จะขยายสาขาให้ได้อีก 10 สาขา ได้มองหาทำเลพื้นที่ตามหัวเมืองใหญ่ในต่างจังหวัดมากขึ้น ได้แก่ เชียงใหม่ , เชียงราย , พิษณุโลก และหาดใหญ่ เป็นต้น รวมทั้ง พื้นที่ในกรุงเทพและปริมณฑล โดยขึ้นอยู่กับช่องทางและโอกาสที่ดี สาขาที่เปิดใหม่จะเน้นเป็นสาขาขนาดใหญ่ ซึ่งมีความได้เปรียบและแตกต่างจากคลินิกท้องถิ่นซึ่งเป็นคลินิกขนาดเล็ก

    สำหรับ รายได้จากสาขาใหม่ของบริษัทในช่วงเริ่มต้น จะไม่มากนัก เมื่อเทียบกับสาขาที่เปิดอยู่เดิม เนื่องจากการเปิดสาขาใหม่จนสามารถเป็นที่รู้จักและได้รับความไว้ใจมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้นต้องใช้เวลา  แต่คาดว่า ภายในระยะเวลา 3- 5 ปี สาขาที่เปิดใหม่จะสามารถถึงจุดคุ้มทุนและสนับสนุนการรับรู้รายได้เข้ามามาก

    นอกจากนี้ ยังมองว่าการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC)  น่าจะเป็นอีกปัจจัยบวกที่สนับสนุนธุรกิจทันตกรรมในประเทศให้ได้รับประโยชน์  และจะสนับสนุนผลประกอบการของบริษัทให้เข็งแกร่งได้ตามเป้าหมาย

    ทันตแพทย์วัฒนา กล่าวว่า บริษัทได้เข้าไปเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นในพม่า เพื่อเปิดคลีนิกทันตกรรมในกรุงย่างกุ้ง  โดยมีความคืบหน้าพอสมควร ขณะที่พม่ามีประชากรจำนวนมากซึ่งน่าจะคุ้มค่ากับลงทุน ประกอบกับมีการเข้าไปลงทุนของชาวต่างชาติและคนไทย ในพม่าเป็นจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้กำลังซื้อมีมาก ส่วนในลาวนั้นยังมีจำนวนประชากรค่อนข้างน้อย และตลาดมีขนาดเล็กไม่คุ้มค่ากับการเปิดคลีนิก ทำให้บริษัทปรับแผนมาเปิดคลีนิกตามแนวชายแดนแทน เพื่อรองรับกำลังซื้อจากในฝั่งคนไทยเป็นหลัก ขณะที่คนลาวก็สามารถข้ามชายแดนมาใช้บริการได้ด้วยเช่นกัน

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!