Details

Category: บริษัทจดทะเบียน

Published: Thursday, 05 February 2015 23:21

Hits: 1893

SIRI คาดรายได้ปีนี้อยู่ที่ 3.4 หมื่นลบ. ตั้งเป้าเปิด 17 โครงการใหม่-เล็งขึ้นราคาบ้านอีกไม่เกิน 5%

    SIRI คาด รายได้ปี 58 อยู่ที่ 3.4 หมื่นลบ. ยอดขาย 3 หมื่นลบ.เผยยอดพรีเซล ม.ค.อยู่ที่ 800ล้านบาท โต 30% จากช่วงเดียวกันปีก่อน เตรียมเปิดโครงการแนวราบปีนี้ 9 โครงการ มูลค่ารวม 1.55 หมื่นลบ.ตั้งเป้ารายได้จากโครงการแนวราบปีนี้ 1.3 หมื่นลบ. มองตลาดบ้านเดี่ยวปีนี้ฟื้นตัว  คาดครึ่งปีแรกมีสินค้าออกสู่ตลาดไม่น้อยกว่า 6พันยูนิต  เตรียมขึ้นราคาขายบ้านอีกไม่เกิน 5%   

  นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน)หรือ SIRI คาดรายได้รวมปีนี้อยู่ที่ 34,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากรายได้คอนโดมิเนียม21,000 ล้านบาท ที่อยู่อาศัยแนวราบ 13,000 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทฯมี Backlog มูลค่า 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 18,000 ล้านบาท บ้านเดี่ยว 2,000 ล้านบาท   

 ปีนี้จะเปิดโครงการรวม 17โครงการ มูลค่ารวม 36,291 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 8 โครงการมูลค่า 20,000 ล้านบาท ทาวน์เฮ้าส์ 1 โครงการ มูลค่าประมาณ 600 ล้านบาท บ้านเดี่ยวประมาณ 8 โครงการ14,000 ล้านบาท 

 ทั้งนี้  คาดว่าจะมียอดขายโครงการรวม 30,000 ล้านบาท  แบ่งเป็นแนวราบ 13,000  ล้านบาท  คอนโดมิเนียม17,000 ล้านบาท    

 นายเมธา  กล่าวต่อว่า ปีนี้คาดว่าจะปรับราคาขายบ้านเพิ่มขึ้นไม่เกิน 5% เพราะจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลงทำให้ค่าก่อสร้างปรับตัวลดลงเช่นกัน ส่วนยอดการปฏิเสธการกู้ในส่วนของบ้านพร้อมอยู่มีน้อยมาก แต่ในส่วนบ้านสั่งสร้างคาดว่าจะมีประมาณ 10% 

 ส่วนแนวโน้มตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลังจะเติบโตลดลงจากช่วงครึ่งปีแรก เพราะการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐจะไม่เป็นไปตามที่คาดไว้ ซึ่งบริษัทฯอาจจะปรับแผนการดำเนินธุรกิจอีกครั้ง หลังจากผ่านช่วงครึ่งปีแรกไปแล้ว ในส่วนของคอนโดมิเนียม แต่บ้านเดี่ยวไม่ปรับแผน เพียงลดสต็อกให้เพียงพอกับยอดขายเท่านั้น

  ในเดือน ม.ค.2558 บริษัทฯ มียอดพรีเซล 800 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% จาก ม.ค.2557 และสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้จะมีพรีเซล 600 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทฯ ได้เปิดโครงการใหม่ในช่วงเดือนที่ผ่านมา และได้ผลดีจากปัญหาการเมืองคลี่คลาย ภาครัฐมีการเบิกจ่ายพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ ราคาน้ำมันปรับลดลง       

 "ปกติเดือน ม.ค.จะมียอดพรีเซลที่น้อย ซึ่งยอดพรีเซลแนวราบจะดีในเดือน พ.ค.-มิ.ย. ซึ่งสาเหตุที่เดือน ม.ค.มียอดพรีเซลที่สูงกว่าปกติ เพราะบริษัทฯมีการเปิดโครงการใหม่ และรับผลดีจากภาพรวมเศรษฐกิจของไทยฟื้นตัว" นายเมธา กล่าว

  นายเมธา กล่าวว่า ในปี 2558 บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการที่อยู่อาศัยในแนวราบโครงการใหม่อีกประมาณ 9โครงการ มูลค่ารวม 15,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวประมาณ 8 โครงการ และโครงการทาวน์เฮ้าส์อีก 1 โครงการ

  โดยในไตรมาส 1/58 บริษัทฯจะเปิดตัว 3 โครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ได้แก่ บ้านเดี่ยวทำเลกรุงเทพฯ โซนตะวันตก เศรษฐสิริ จรัญฯ-ปิ่นเกล้า มูลค่าโครงการ 3,208 ล้านบาท เตรียมเปิดขายอย่างเป็นทางการ 14 ก.พ.58 ราคาเริ่มต้น 9 ล้านบาท,บ้านเดี่ยวในโครงการสราญสิริ ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ 2 มูลค่าโครงการ 1,493 ล้านบาท โดยเปิดขาย 3 ก.พ.58 ราคาเริ่มต้นที่ 4.69 ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวต่อเนื่องจากกระแสตอบรับที่ดีในโครงการแรก    

 บริษัทฯ ยังได้เตรียมเปิดตัวทาวน์เฮ้าส์โครงการในจังหวัดพิษณุโลกทาวน์ อเวนิว สองแคว มูลค่าโครงการ 800ล้านบาท เปิดขาย 14 ก.พ.58 ราคาเริ่มต้น 2.99 ล้านบาท  

 "บริษัทฯ มีแนวทางพัฒนาอสังหาฯ แนวราบในการมุ่งขยายฐานการดำเนินธุรกิจให้เติบโตตามแผนธุรกิจ Engineer for Growth โดยจะพัฒนาที่อยู่อาศัยที่ตอบรับความต้องการและครอบคลุมทุกเซ็คเมนท์อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความยั่งยืนให้กับธุรกิจและองค์กรในระยะยาว โดยปี 58 บริษัทฯ มีกลยุทธ์รุกธุรกิจแนวราบที่สำคัญได้แก่ การเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยที่ครอบคลุมทุกระดับราคาเพื่อตอบรับดีมานการอยู่อาศัยที่แท้จริง ทั้งนี้บริษัทฯเตรียมเปิดตัวบ้านเดี่ยวครอบคลุมแบรนด์ที่อยู่อาศัยแนวราบ ทั้งเศรษฐสิริ บุราสิริ สราญสิริ คณาสิริ รวมถึงทาวน์เฮ้าส์ภายใต้แบรนด์ ทาวน์ อเวนิว" นายเมธา กล่าว

 ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้สำหรับโครงการแนวราบในปีนี้ประมาณ 13,000 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายโครงการแนวราบในปีนี้ไว้ประมาณ 13,000 ล้านบาทเช่นกัน

 สำหรับแนวโน้มสถานการณ์ตลาดบ้านเดี่ยวในปีนี้คาดว่าจะเริ่มฟื้นตัวจากปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีแรก2558 จะมีอุปทานบ้านเดี่ยวเสนอขายใหม่ไม่น้อยกว่า 6,000 ยูนิต และเริ่มขยายการลงทุนกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับราคา 3-9.99 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้น  โดยได้รับปัจจัยที่เอื้อต่อการขยายตัว เช่น การคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ และธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ2% ต่อปี ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผู้บริโภคกลุ่มหลักในตลาดกลาง-ล่าง เริ่มกลับเข้าสู่ตลาดทำให้ตลาดบ้านเดี่ยวโดยรวมเติบโตทั้งอุปสงค์และอุปทาน     

 บริษัทฯจะเน้นการเปิดตัวโครงการที่ตอบรับความต้องการและสอดคล้องกับสภาพตลาดที่มีดีมานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่สนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ให้รักษาการเป็นผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรที่มีความมั่นคงยั่งยืนมากขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

SIRI มีแผนเปิดโครงการแนวราบใหม่ปีนี้ 9 โครงการ มูลค่ารวม 1.55 หมื่นลบ.

      นายเมธา อังวัฒนพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโสสายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการแนวราบ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า ในปี 58 บริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยในแนวราบ โครงการใหม่อีกราว 9 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 15,500 ล้านบาท แบ่งเป็นการพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวประมาณ 8 โครงการ และโครงการทาวน์เฮ้าส์อีก 1 โครงการ

     ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ บริษัทจะเปิดตัว 3 โครงการที่อยู่อาศัยใหม่ ได้แก่ บ้านเดี่ยวทำเลกรุงเทพฯ โซนตะวันตก “เศรษฐสิริ จรัญฯ–ปิ่นเกล้า" มูลค่าโครงการ 3,208 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว “สราญสิริ ติวานนท์-แจ้งวัฒนะ 2" มูลค่าโครงการ 1,493 ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวต่อเนื่องจากกระแสตอบรับที่ดีในโครงการแรก

     รวมทั้งเตรียมเปิดตัวทาวน์เฮ้าส์โครงการแรกในจังหวัดพิษณุโลก“ทาวน์ อเวนิว สองแคว"มูลค่ารวมโครงการ 800 ล้านบาท ซึ่งนับเป็นการขยายสู่ทำเลภาคเหนือตอนล่างหลังจากที่บริษัทประสบความสำเร็จจากการรุกขยายการพัฒนาโครงการในตลาดต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงเพื่อตอบรับกลุ่มลูกค้าแสนสิริให้ครอบคลุมในตลาดใหม่ที่มีโอกาสเติบโตสูงอีกด้วย

   แนวโน้มสถานการณ์ตลาดบ้านเดี่ยวปี 58 บริษัทคาดว่าตลาดจะเริ่มฟื้นตัวจากปีที่ผ่านมา ในช่วงครึ่งปีแรกปี 58 จะมีอุปทานบ้านเดี่ยวเสนอขายใหม่ไม่น้อยกว่า 6,000 ยูนิต และเริ่มขยายการลงทุนในกลุ่มบ้านเดี่ยวระดับราคา 3.00-9.99 ล้านบาทเพิ่มขึ้น โดยได้รับปัจจัยเอื้อ อาทิ การคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งทางการเมือง, การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ, ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ ร้อยละ 2 ต่อปี, ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงผู้บริโภคกลุ่มหลักในตลาดกลาง-ล่างเริ่มกลับเข้าสู่ตลาด ทาให้ตลาดบ้านเดี่ยวโดยรวมเติบโตทั้งฝั่งอุปทานและอุปสงค์

   "บริษัทจะเน้นการเปิดตัวโครงการที่ตอบรับความต้องการและสอดคล้องกับสภาพตลาดที่มีดีมานต์อย่างต่อเนื่อง อันจะเป็นปัจจัยที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของแสนสิริให้รักษาการเป็นผู้นาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรที่มีความมั่นคงและยั่งยืนมากขึ้นทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด"นายเมธา กล่าว

                อินโฟเควสท์