WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

STAR มั่นใจปีนี้พลิกกลับมีกำไรในรอบ 3 ปี คาดเริ่มเห็นตั้งแต่ Q1/57

       STAR มั่นใจปีนี้พลิกกลับมีกำไรในรอบ 3 ปี คาดเริ่มเห็นตั้งแต่ Q1/57 ตั้งเป้ายอดขายปีนี้โต 15-20% รับผลบวกจากบาทอ่อน-สินค้าใหม่-รัฐบังคับใช้ มอก.เครื่องสุขภัณฑ์

       ดร.สมชัย ว่องอรุณ ประธานกรรมการและกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท สตาร์ ซานิทารีแวร์ จำกัด (มหาชน) หรือ STAR เปิดเผยกับ สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย ว่า ปีนี้น่าจะกลับมาทำผลงานได้ตามปกติคือมีกำไร และจะเป็นการกลับมามีกำไรในรอบ 3 ปี ซึ่งก่อนหน้านั้นการขาดทุนเกิดจากสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่ในไทยที่กระทบเกือบทุกภาคธุรกิจ และปีถัดมาก็ต้องเผชิญกับปัญหาวิกฤตในยุโรป ซึ่งตอนนั้นบริษัทฯ ส่งออกไปยุโรปค่อนข้างมาก แต่ปีนี้ทุกอย่างกลับสู่ปกติแล้ว ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเห็นกำไรตั้งแต่ผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้  

      "น่าจะมีโอกาสพลิกมีกำไร และคาดว่าไตรมาส 1/57 ก็น่าจะมีแล้ว และคงเป็นการพลิกมีกำไรในรอบ 3 ปี ซึ่งเรามองว่าปีนี้เป็นปีทองของ STAR คือการกลับมาสู่จุดที่เราควรจะเป็น"ดร.สมชัย  กล่าว  

       อนึ่ง ปีที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้ 174.49 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 9.04 ล้านบาท

       โดยปีนี้ ตั้งเป้ายอดขายโต 15-20% จาก 3 ปัจจัยสนับสนุน คือ เงินบาทอ่อนค่า เปิดตัวสินค้าใหม่ และรัฐบังคับใช้ มอก."เครื่องสุขภัณฑ์ ทั้งนี้ เงินบาทอ่อนค่าจะทำให้บริษัทฯ มีกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเพิ่มขึ้น เพราะมีการส่งออกด้วย คาดว่าปีนี้ยอดขายประมาณ 40% จะมาจากการส่งออก อีก 60% เป็นในประเทศ เพราะมองว่าตลาดในประเทศปีนี้จะคึกคัก สะท้อนจากการสั่งสินค้าของโมเดินเทรดซึ่งสูงกว่าปกติ หลังจากสต็อกเก่าซึ่งเป็นสินค้านำเข้าจากจีนในราคาถูกหมดลง อย่างไรก็ตามในอนาคตจะปรับสัดส่วนยอดขายทั้งในและต่างประเทศให้อยู่ที่ 50:50       

     ส่วนสินค้าใหม่ คือ สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำที่สุดในโลก ซึ่งเป็นการการคิดค้นพัฒนาสุขภัณฑ์ประหยัดน้ำในการชำระล้างได้สูงสุดในโลก โดยใช้น้ำน้อยที่สุดเพียง 2.4 ลิตรเท่านั้น 

     สำหรับประเด็นทื่ภาครัฐบังคับใช้มาตรฐาน'มอก.'เครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก จะเริ่มส่งผลบวกชัดเจนตั้งแต่ Q2/57 เป็นต้นไป หลังจากที่ มอก.มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 23 ส.ค.56 เนื่องจากการบังคับใช้มาตรฐานดังกล่าวในช่วงแรกนั้น ไม่ได้ช่วยกระตุ้นยอดขายบริษัทฯ มากนัก เพราะยังมีสินค้าสต๊อกในตลาดที่ไม่ได้มาตรฐานเหลืออยู่มาก แต่ภาครัฐอนุโลมให้สามารถขายต่อไปจนกว่าสินค้าจะหมด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าจากจีน และราคาไม่สูงมาก ในขณะที่สินค้าของบริษัททุกรายการล้วนมีมาตรฐานดังกล่าวอยู่แล้ว    

     "ยอดขายจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 2 เป็นต้นไป ซึ่งตอนนี้เริ่มเห็นแล้วตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม ต่อเนื่องมาถึงเดือนเมษายน ยอดขายเพิ่มขึ้นจากปกติราว 50% สินค้าเราเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น เพราะสต๊อกเก่าราคาไม่สูงนักในตลาดน่าจะขายหมดไปแล้วตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา  " ดร.สมชัย กล่าว   

     ทั้งนี้ บริษัทฯ มองว่าจากอานิสงส์ดังกล่าว ส่งผลให้โอกาสเติบโตของตลาดเครื่องสุขภัณฑ์ในไทยปีนี้โดดเด่นกว่าต่างประเทศมากซึ่งต่อนี้ไป เชื่อว่าลูกค้าจะหันมาซื้อสินค้าจากบริษัทฯ จากเดิมที่กลุ่มผู้บริโภคซื้อสินค้าที่นำเข้าจากจีนซึ่งมีราคาถูกกว่า เนื่องจากสินค้าบางรายการไม่มีมาตรฐาน มอก. แต่ต่อไปนี้แม้ว่าผู้ประกอบการในไทยจะนำเข้าจากจีนมาขายได้เหมือนเดิม แต่จะต้องนำเข้าสินค้าที่มี มอก.ดังนั้น ก็จะมีราคาสูงขึ้น เมื่อนำมาขายในไทยก็จะเป็นราคาที่ไม่แตกต่างจากสินค้าของบริษัทฯ นัก   ดังนั้น เชื่อว่าโดยพฤติกรรมของคนไทยแล้ว น่าจะเลือกบริโภคสินค้าที่ผลิตจากไทยมากกว่าจีนหากสินค้านั้นมีระดับราคาที่เท่ากัน

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!