WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

'กลุ่มสามารถ' โชว์รายได้ Q1/57 แจ่มยกก๊วน รายได้รวมโต 20% กำไรโต 15% มั่นใจรายได้ Q2/57 โต 10-20% เหตุยอดขายมือถือพุ่ง-รายได้จาก SAMTEL เพิ่มขึ้น

     'กลุ่มสามารถ'โชว์รายได้ Q1/57 แจ่มยกก๊วน รายได้รวมโต 20%กำไรโต 15% มั่นใจรายได้ Q2/57 โต 10-20% เหตุยอดขายมือถือโตต่อเนื่อง รายได้จาก SAMTEL เพิ่มขึ้น SAMTEL เผยปีนี้เข้าร่วมประมูลอีก 1.7 หมื่นลบ. มั่นใจ ช่วงQ2/57 ได้งาน 7 พันลบ. พร้อมโชว์ Backlog ถึง 6.6 พันลบ. มั่นใจรับรู้ในปีนี้ 3 พันลบ. ขณะที่ SIM คาด 1-2 ปี ยอดขายสมาร์ทโฟนแตะ 10 ล้านเครื่อง หลังเตรียมเจาะตลาด ตปท.มากขึ้น

      นายวัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.สามารถคอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกของปี บริษัทฯ มีรายได้รวม 6,364 ล้านบาท กำไรสุทธิ 403 ล้านบาท เพิ่มขึ้นในสัดส่วนที่น่าพึงพอใจทั้งรายได้และกำไร คือ 20 เปอร์เซนต์ และ15 เปอร์เซนต์ ตามลำดับ โดย บมจ.สามารถไอ-โมบาย มีรายได้ 3,244 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 32 เปอร์เซนต์  กำไรสุทธิ 197 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11 เปอร์เซนต์ และบมจ.สามารถเทลคอม มีรายได้รวม 2,077 ล้านบาท ใกล้เคียงกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมีกำไรสุทธิ 210 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนเช่นกัน หากเทียบเฉพาะกำไรที่ได้จากการดำเนินงานโดยไม่นับรวมกำไรอื่นๆ เช่น การจำหน่ายหรือเปลี่ยนแปลงเงินลงทุนในหลักทรัพย์เพื่อการค้า นอกจากนี้ กลุ่มสามารถเทลคอมยังมีรายได้ประจำเพิ่มขึ้น 8 เปอร์เซนต์ คิดเป็นสัดส่วน 35 เปอร์เซนต์ของรายได้ทั้งหมด

    “แม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์ทางการเมือง แต่ก็ยังมีกระแส Smart Phone และ Digital TV เข้ามาเป็นปัจจัยบวกในการกระตุ้นตลาด ฉุดให้ยอดขายไอ-โมบาย Smart Phone พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยในไตรมาสแรก สามารถจำหน่ายมือถือ Smart Phone และ Feature Phone ไปแล้วกว่า 1 ล้านเครื่อง ทั้งราคาขายเฉลี่ยก็ขยับสูงขึ้นถึง 16 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ กลุ่มสามารถยังพุ่งเป้าไปที่ธุรกิจ Digital TV ไม่ว่าจะเป็นงานติดตั้งโครงข่ายสถานีซึ่งอยู่ระหว่างการประมูล การจำหน่ายอุปกรณ์รับสัญญาณทีวีดิจิตอล และการจำหน่ายโทรศัพท์มือถือ DTV on Mobile แบรนด์แรกของโลก ซึ่งตั้งเป้ายอดขายไว้ถึง 1.5 ล้านเครื่องในปีนี้ รวมรายได้ที่คาดว่าจะได้จากการจำหน่ายเสาอากาศ, Set-top box และโทรศัพท์มือถือดิจิตอลทีวี ในปี 57 ไม่ต่ำกว่า 8,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นธุรกิจส่งออกมือถือไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะพม่า ซึ่งมีการเร่งลงทุนด้านเครือข่ายการสื่อสาร ถือเป็นโอกาสในการขยายตลาดมือถือครั้งสำคัญ

    ส่วนผลการดำเนินงานของกลุ่มสามารถเทลคอม ซึ่งงานส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับงานโครงการ ก็สามารถเซ็นสัญญาโครงการใหม่ได้เพิ่มเติมในไตรมาสแรก มูลค่า 1,152 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการในมือ ณ ปัจจุบัน เกือบ 7 พันล้านบาท และยังมีโครงการของหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ  และเอกชน ซึ่งเป็นเป้าหมายในการ ประมูลของบริษัทฯ ในปีนี้อีกกว่า 17,000 ล้านบาท โดยคาดว่าในไตรมาส 2 มีโอกาสค่อนข้างสูงในการได้งานเพิ่มอีกราว 7,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการใหม่และโครงการส่วนต่อขยายขององค์กรต่างๆ อาทิ บมจ. ท่าอากาศยานไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กรมที่ดิน และกรุงเทพมหานคร เป็นต้น

     ด้านกลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคและการเดินทาง Utilities & Transportation โดยการนำของบริษัท สามารถ ยู-ทรานส์ ในไตรมาสแรก ปี 57 มีรายได้จากศูนย์ควบคุมการจราจรทางอากาศ CATS และโรงไฟฟ้ากัมปอต รวมกันกว่า 520 ล้านบาท ทั้งยังเริ่มทยอยรับรู้รายได้จากโครงการ Air traffic Management ของวิทยุการบินฯ ในไตรมาสแรก จำนวน 145 ล้านบาท จากมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,700 ล้านบาท และมีรายได้จากบริษัท เทด้า ซึ่งปัจจุบันมีงานในมือมูลค่ากว่า 1,400 ล้านบาท โดยในไตรมาสที่ผ่านมา มีรายได้ราว 230 ล้านบาท จึงถือเป็นกลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำที่แข็งแกร่งให้แก่กลุ่มสามารถ    

    สุดท้าย กลุ่มธุรกิจอื่นๆ ซึ่งแม้จะเป็นธุรกิจย่อย แต่ก็มีแนวโน้มการเติบโตที่โดดเด่นทั้ง 3 ธุรกิจ คือ ธุรกิจกล้องวงจรปิดและระบบรักษาความปลอดภัย โดย บจก. วิชั่นส์แอนด์ซิเคียวริตี้ซิสเต็ม ได้เซ็นสัญญาเพิ่มเติมกับการท่าฯ มูลค่า 120 ล้านบาทในไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนธุรกิจคอลล์เซนเตอร์ โดย  บมจ.วันทูวัน คอนแทคส์ ซึ่งจะเข้าเทรดหุ้นในตลาดเอ็มเอไอในวันที่ 15 พ.ค นี้ ก็มีทิศทางการเติบโตที่สดใส ทั้งตลาดในประเทศและใน CLMV ซึ่งกำลังมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด ปัจจุบัน วันทูวัน ครองส่วนแบ่งตลาดบริการ Outsourced Call Center ประเภทCustomer Services กว่า 20 เปอร์เซนต์ โดยมีลูกค้ารายองค์กรหลากหลายธุรกิจ อาทิ ธุรกิจสายการบิน, ประกัน, รถยนต์ เป็นต้น คาดรายได้ปี 57 กว่า 1,000 ล้านบาท และอีกหนึ่งธุรกิจซึ่งคาดว่าจะเป็นดาวรุ่งของปี 57 คือ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายชุดอุปกรณ์รับสัญญาณทีวีดิจิตอล ซึ่งนอกจากการปลุกกระแสโดยช่องรายการใหม่ๆ แล้ว ยังจะได้รับผลพวงจากการแจกคูปองในปีนี้จำนวนกว่า 11 ล้านใบโดย กสทช. จึงมั่นใจว่าบริษัทสามารถวิศวกรรมจะสร้างยอดขายเสาอากาศและกล่องรับสัญญาณได้ถึง 2 ล้านชุดในปี57 คิดเป็นรายได้ราว 2,000 ล้านบาท” 

   “การบริหารงานด้วยความรอบคอบ และการสร้างสมดุลย์ของแหล่งรายได้ เป็นสิ่งที่กลุ่มสามารถให้ความสำคัญมาโดยตลอด เราจึงมีการจัดแบ่งสายธุรกิจที่ชัดเจน มีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งลูกค้ารัฐ รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน และผู้บริโภครายย่อย ที่สำคัญ บริษัทฯ ยังมุ่งเน้นในการขยายฐานรายได้ประจำให้มีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความมั่นคงทางการเงิน และความพร้อมในการลงทุนเมื่อโอกาสมาถึงนายวัฒน์ชัยกล่าว

    นายวัฒน์ชัย เปิดเผยด้วยว่า รายได้ไตรมาส 2/2557 จะเติบโต 10-20% จากไตรมาส 1 ที่ผ่านมา เนื่องจากยอดขายโทรศัพท์มือถือจะเพิ่มขึ้นและจะสามารถขายได้มากกว่า 1 ล้านเครื่อง โดยในไตรมาสที่ 1 ขายได้แล้วจำนวน 1.7 ล้านเครื่อง และในช่วงเดือน เม.ย.มียอดขายไปแล้วกว่า 300,000 เครื่อง จึงทำให้ทั้งปีมั่นใจว่าเป้าหมายการขายโทรศัพท์มือถือจำนวน 4 ล้านเครื่องจะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ ประกอบกับบริษัทฯจะมีรายได้ส่วนหนึ่งมาจากบริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ SAMTEL ที่ในปีนี้จะมีการเข้าประมูลงานใหม่ประมาณ 17,000 ล้านบาท

     "มั่นใจว่ารายได้ในไตรมาส 2 จะเติบโตกว่าไตรมาส 1 แน่นอน โดยยอดขายโทรศัพท์และธุรกิจทีวีดิจิทัลมีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยปัญหาทางการเมืองไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจ เพราะยอดขายต่างจังหวัดยังถือว่าเติบโตได้ดีอยู่" นายวัฒน์ชัย กล่าว

    ขณะที่บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ SAMTEL ในปีนี้ เตรียมเข้าร่วมประมูลงานใหม่มูลค่า 17,000 ล้านบาท โดยคาดว่าในไตรมาส 2/2557 จะได้รับงานใหม่มูลค่า 7,000 ล้านบาท ประกอบด้วยโครงการใหม่และโครงการส่วนต่อขยายขององค์กรต่างๆ เช่น บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT), การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค, กรมที่ดิน และกรุงเทพมหานคร โดยในไตรมาสแรกบริษัทฯ สามารถเซ็นสัญญาโครงการใหม่มูลค่า 1,152 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการในมือปัจจุบันอยู่ที่เกือบ 7,000 ล้านบาท

   โดยปัจจุบัน บริษัทฯมีมูลค่างานในมือจำนวน 6,645 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้ในปีนี้จำนวน 3,000 ล้านบาท ในขณะเดียวกันบริษัทฯอยู่ระหว่างประมูลงานใหม่ในไตรมาสที่ 2 มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านบาท และเตรียมที่จะเข้าประมูลงานใหม่ในไตรมาสที่ 3 และ 4 จำนวน 10,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะทำให้ทั้งปีมีงานที่จะเข้าประมูล มูลค่า 17,000 ล้านบาท

    "ตอนนี้มีงานในมือแล้ว 6.6 พันล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปีนี้ประมาณ 3,000 กว่าล้านบาท และคาดว่าทั้งปีจะมีมูลค่าที่เข้าร่วมประมูล 17,000 ล้านบาท ซึ่งงานที่เลื่อนไปก็คาดว่าจะได้ทั้งหมด ซึ่งถ้างานไหนคิดว่าไม่ได้ก็จะไม่ยื่นไป" นายวัฒน์ชัย กล่าว

    นอกจากนี้ ภายใน 1-2 ปี บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) (SIM)จะมียอดขายโทรศัพท์มือถือประมาณ 10 ล้านเครื่อง ภายหลังจากที่บริษัทฯ จะขายตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯมียอดขายทั้งในประเทศพม่า ลาว กัมพูชา ตูนีเซีย อียิปต์ และอิรัก โดยในไตรมาส 1 ที่ผ่านมาบริษัทฯมียอดขายในต่างประเทศแล้วจำนวน 50,000 เครื่อง ซึ่งบริษัทฯได้ตั้งหน่วยงานใหม่เพื่อรองรับการส่งออกในต่างประเทศโดยเชื่อว่าจะเป็นการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และอาจจะมีผลทำให้ใน 1- 2 ปี จะมียอดขายโทรศัพท์มากกว่า 1 ล้านเครื่อง โดยแบ่งเป็นทั้งในประเทศและต่างประเทศ 

  'กลุ่มบริษัทสามารถ'มุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการด้านเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าอย่างครบวงจร ภายใต้บริษัทในเครือกว่า 20 บริษัท  และมี 4 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกอบด้วย  บริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บริษัท สามารถเทลคอม จำกัด (มหาชน)  บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) และล่าสุด บริษัท .วันทูวัน คอนแทคส์ จำกัด (มหาชน) "บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) (SIM)

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!