Details

Category: บริษัทจดทะเบียน

Published: Wednesday, 14 May 2014 23:50

Hits: 3185

INTUCH มั่นใจกำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อน พร้อมตั้งเป้ารายได้โต 5-7% ส่วนใหญ่มาจากเอไอเอส กับ THCOM

     INTUCH มั่นใจกำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อน พร้อมตั้งเป้ารายได้โต 5-7% ส่วนใหญ่มาจากเอไอเอส กับ THCOM

     INTUCH มั่นใจกำไรปีนี้ดีกว่าปีก่อน พร้อมตั้งเป้ารายได้โต 5-7% ส่วนใหญ่มาจาก ADVANC กับ THCOM โดย ADVANC คงเป้ารายได้ให้บริการทั้งปีโต 6-8%-รุกตลาดสมาร์ทโฟนระดับล่าง  ด้าน THCOM ย้ำรายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน เผยไทยคม 7 ขึ้นสู่วงโคจรกลางปีนี้ ขณะที่ CSL คาดกำไรทั้งปีโต 3-5%

    นางสาวทมยันตี คงพูลศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (INTUCH) เปิดเผยว่าตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 5-7% พร้อมเผยกำไรปีนี้มีแนวโน้มโตกว่าปีที่แล้ว โดยการเติบโตของบริษัทฯจะมาจากเงินปันผลของ AIS จำนวนกว่า 90%และมองว่า THCOM หลังจากนี้จะสามารถทำกำไรให้กับบริษัทฯได้ โดยสะท้อนจากกำไรของ THCOM ที่สิ้นปีที่แล้วมีสัดส่วนกำไรอยู่ที่ 3.2%และในไตรมาส 1 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 4.3% ของกำไรรวม INTUCH และคาดว่าภายใน 5-7 ปีข้างหน้ามีโอกาสที่ธุรกิจอื่นๆ จะสามารถทำกำไรให้กับบริษัทฯได้เพิ่มขึ้น 20-25%       

    นางสาวทมยันตี กล่าวต่อถึง วงเงินงบประมาณสำหรับ Venture capital ภายใต้โ ครงการ InVent ที่อินทัชจะเข้าไปถือหุ้นในแต่ละกิจการประมาณ 25-30% ว่า ประมาณการเงินลงทุนปีละไม่เกิน 200 ล้านบาท  เพื่อลงทุนในกิจการต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจโทรคมนาคม สื่อ เทคโนโลยีสารสนเทศ และดิจิตอล คอนเทนต์ ซึ่งจากการที่ก่อนหน้านี้มีการสนับสนุนการลงทุนใน 3 บริษัท ทำให้ประสบผลสำเร็จค่อนข้างมากจึงคาดว่าจะเดินหน้าต่อเนื่อง   

   ทั้งนี้ มองว่าทางบริษัทฯ ยังคงเน้นการประกอบธุรกิจการลงทุนโดยการเขาถือหุ้นในบริษัทอื่น คือการเน้นเป็นโฮลดิ้งคอมปานีมากขึ้นและคาดว่าจะใช้ค่าใช้จ่ายในการบริหารในปีนี้จำนวน 400-450 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการทำวิจัยและเป็นสายหลักในการทำธุรกิจ โดยในปีที่ผ่านมามีการศึกษาระบบทีวีดิจิทัลและเรื่องดิจิทัลคอนเทนท์ โดยจะให้บริษัทลูกต่อยอดศึกษาไปเรื่อยๆ และหลังจากนี้บริษัทลูก เช่น AIS และ THCOM จะมีการลงทุนครั้งใหญ่ที่จะช่วยส่งเสริมให้กับบริษัทฯ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

   นางสาวนัฐิยา พัวพงศกร ผู้จัดการนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน)(ADVANC) เปิดเผยว่าบริษัทฯ คงเป้ารายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่าย(IC)ปีนี้เพิ่มขึ้น 6-8% จากปีก่อน โดยคาดว่าปีนี้จะมีจำนวนผู้ใช้บริการ3G2100 เป็น 75% ของผู้ใช้บริการทั้งหมด จากไตรมาส 1/57 อยู่ที่ 62% ทั้งนี้ การใช้งานอุปกรณ์ 3G ที่เพิ่มขึ้นจะเป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนรายได้         

   "ดังนั้น ในปีนี้จะส่งเสริมให้ลูกค้าหันมาใช้สมาร์ทโฟนมากขึ้น คาดสิ้นปีจะมีผู้ใช้บริการสมาร์ทโฟน16 ล้านเครื่อง คิดเป็น 50%ของผู้ใช้บริการ 3G2100 จากไตรมาส 1/57 อยู่ที่ 12 ล้านเครื่อง หรือคิดเป็น 46% ของผู้ใช้บริการ 3G2100" นางสาวนัฐิยา กล่าว     

   สำหรับ ผลประกอบการไตรมาส 1/57 บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจและการเมือง แต่เชื่อว่าผลประกอบการจะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาสที่ 2เป็นต้นไป เนื่องจากจะมียอดผู้ใช้บริการดาต้ามากขึ้น โดยบริษัทฯ จะเน้นกลยุทธ์ในการขยายฐานลูกค้าสมาร์ทโฟนในกลุ่มตลาดระดับล่างที่มีราคา1,600-2,600 บาท พร้อมแพ็คเกจที่ตอบโจทย์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเพิ่มฐานลูกค้าได้   

    "แม้สถานการณ์การเมืองยังมีแนวโน้มที่ยืดเยื้อ แต่บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้จากการบริการปีนี้จะเติบโต 6-8% ตามเดิม"นางสาวนัฐิยา กล่าว  

    ส่วนด้านการขยายโครงข่ายได้มีการวางงบลงทุนไว้ 40,000 ล้านบาท ส่วนผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นน่าจะมาจากค่าการตลาดที่อาจปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตามจะไม่กระทบต่อผลประกอบการอย่างแน่นอน    

    นางสาวนัฐิยา กล่าวต่อว่า บริษัทฯ มีแผนประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่กสทช.ได้ประกาศหลักเกณฑ์การประมูลในช่วงเดือนเม.ย. ซึ่งคาดว่าในเดือน พ.ค.-มิ.ย. กสทช.จะมีการร่างหลักเกณฑ์ทำประชาพิจารณ์เพื่อเปิดรับฟังความคิดเห็นจากสาธารณะ หากได้ข้อสรุปคาดว่ากสทช.จะสามารถลงในราชกิจจานุเบกษาจากนั้นจะเปิดรับใบสมัคร คาดจะสามารถเปิดประมูลได้ในเดือน ส.ค. ซึ่งบริษัทฯ มีความพร้อมทางสถานะทางการเงิน  

            โดยบริษัทฯ มีกระแสเงินสดในขณะนี้ 16,276 ล้านบาท ส่วนราคาตั้งต้นการประมูลที่ กสทช.กำหนดอยู่ที่ 11,600 ล้านบาทต่อใบอนุญาต ดังนั้น  จึงเชื่อว่าจะไม่กระทบการจ่ายเงินปันผลของบริษัทฯ ซึ่งมีเป้าหมายจ่ายปันผล 100% ของกำไรสุทธิ  ซึ่งการประมูลคลื่น 1800 MHz บริษัทฯ คาดว่าการนำมาพัฒนาเป็นระบบ 4G จะสามารถตอบโจทย์ได้ดีที่สุด แต่ในปัจจุบันยังไม่ได้มีการรองรับมากนัก   

    "เรามองว่า 4G ยังเป็นแค่ Image ซึ่งมือถือที่จะสามารถรองรับได้มีแค่ไอโฟน 5S เท่านั้น จึงมองว่าคนที่ใช้งานจริงยังไม่เยอะแต่มองว่าในอนาคตระบบ 4G จะมีความสำคัญมาก " นางสาวนัฐิยา กล่าว     

    นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ซึ่งขณะนี้ กสทช.ยังไม่ได้มีหลักเกณฑ์ออกมา แต่เป็นการเจรจาในภาพกว้าง คาดว่าจะสามารถประมูลได้ในช่วงเดือน พ.ย.ปีนี้  หากบริษัทฯ ประมูลได้คาดว่าคลื่น 900  MHz จะสามารถนำมาพัฒนาเป็น 3G หรือ 4G ได้  

     ด้านนายเคน สตุตเกอร์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) หรือTHCOM เปิดเผยว่า บริษัทฯคงเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีก่อน เนื่องจากรับรู้รายได้ของดาวเทียมไทยคม 6 เข้ามาเต็มปี พร้อมทั้งโตตามอุตสาหกรรม และคาดภายในเดือน มิ.ย.2557จะได้ข้อสรุปรูปแบบการลงทุนของดาวเทียมไทยคม 8 ว่าจะเป็นรูปแบบเดียวกับไทยคม 6 ที่ใช้เงินกู้และเงินสดของบริษัทฯรวมกัน โดยบริษัทฯ กำหนดวงเงินที่จะเสนอขายหุ้นกู้จำนวน 7,000 ล้านบาท  และดาวเทียมไทยคม 8 จะกำหนดวงเงินลงทุน 178.5ล้านเหรียญสหรัฐ    

    ทั้งนี้ คาดว่าดาวเทียมไทยคม 8 จะพร้อมยิงขึ้นสู่วงโคจรกลางปี 2559 ซึ่งจะครอบคลุมประเทศไทย แอฟริกา อินดีย โดยดาวเทียมไทยคม 8 ได้รับการออกแบบให้มีช่องสัญญาณแบบ Ku-band รวมทั้งสิ้น 24 ช่องสัญญาณ โดยจะทำให้ไทยมีช่องสัญญาณดาวเทียมเพียงพอต่อการใช้งานรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมบรอดคาสต์ในช่วงแห่งการเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยีโทรทัศน์ความคมชัดสูง (ระบบ HD)และเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับระบบ ‘อัลตร้าเอชดี’(Ultra HD) ในอนาคต  

    ขณะที่ดาวเทียมไทยคม 7 จะยิงขึ้นสู่วงโคจรในกลางปีนี้ ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 40% ของ Capacity ที่มีทั้งหมด 14ช่องสัญญาณ  ซึ่งคาดว่าภายใน 3 ปีหลังจากที่ยิงดาวเทียมไทยคม 7 ขึ้นสู่วงโคจรจะขายได้หมด ส่วนดาวเทียมไทยคม 6 มียอดขายเพิ่มขึ้นจากสิ้นปีที่แล้วมาอยู่ที่ 68%  

     นายอนุวัฒน์ สงวนทรัพยากร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) หรือ CSL เปิดเผยว่าคาดกำไรไตรมาส 2/57 จะใกล้เคียงกับไตรมาส 1/57 ที่ทำได้ 118 ล้านบาท เนื่องจากอุตสาหกรรมยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ส่วนสถานการณ์การเมืองที่เกิดขึ้นในปัจจุบันยังไม่มีผลกระทบใดๆต่อบริษัทฯ ส่วนทั้งปีคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 3-5%   

   ส่วนความคืบหน้าการลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูลอินเทอร์เน็ตแห่งใหม่มูลค่า 350 ล้านบาท ซึ่งรองรับลูกค้าประมาณกว่า 350 ราย โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างทดสอบการใช้งานของระบบ และอยู่ระหว่างติดตั้งและทดสอบการใช้งานของระบบโครงข่ายพื้นฐานอินเทอร์เน็ต   

     ด้านยอดขายโฆษณาในสมุดหน้าเหลืองเล่มกรุงเทพฯ ฉบับปี 2557 ลดลง 28% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากผลกระทบจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว ส่วนยอดขายโฆษณาในสมุดหน้าเหลืองสำหรับคนรักบ้าน ฉบับปี 2557 เป็นไปตามเป้าที่วางไว้ และในปีนี้มีการมุ่งเน้นการทำตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อรักษาฐานลูกค้าและมีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่สำหรับสมาร์ทโฟน

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย