WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บลจ.วรรณ ส่งกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ลงทุนในโรงแรมบนเกาะพีพีเร็วๆ นี้ คาดจ่ายปันผลปีละ 2 ครั้ง รับเศรษฐกิจขาขึ้น

   นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม วรรณ จำกัด (บลจ.วรรณ) เปิดเผยว่าในเร็วๆ นี้ บริษัทฯ มีแผนการออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์อีก 1 กองทุน หลังจากที่ช่วงกลางปี บลจ.วรรณ ได้มีการเสนอขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทรัพย์ศรีไทย สมาร์ท สโตเรจ ซึ่งสูงกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยล่าสุดกองทุนฯ ที่จะเสนอขายจะเป็นกองทุนที่ลงทุนในกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ (Freehold) ในโครงการโรงแรมพีพี ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท ภายใต้ชื่อว่า 'กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทยแลนด์ โฮสพีทาลิตี้' ซึ่งบริหารจัดการโดยโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ภายในเครือของ Intercontinental กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและเป็นผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและดำเนินการบริหารโครงการโรงแรมระดับนานาชาติมาอย่างยาวนาน

   “กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทยแลนด์ โฮสพีทาลิตี้ ปัจจุบันได้รับการอนุมัติจัดตั้งจากทางสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้วในช่วงกลางเดือน ต.ค. 57 ที่ผ่านมา และมีแผนที่จะเสนอขายครั้งแรก (IPO) ให้แก่นักลงทุนในเร็วๆ นี้ เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยและต่างประเทศเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ประชาชนต่างเริ่มทยอยจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นประกอบกับเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) ซึ่งจะสนับสนุนให้การท่องเที่ยวเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี โดยจะเห็นได้จากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในไทยเริ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้คาดว่าภาวะซบเซาของภาคการท่องเที่ยวน่าจะผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว ประกอบกับท่าทีของทางการไทยที่น่าจะมีการยกเลิกกฎอัยการศึกในเร็วๆ นี้ ก็น่าจะสนับสนุนให้การท่องเที่ยวกลับมาดีขึ้นได้ โดยเฉพาะภาคใต้ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทยและเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาโดยตลอด ทำให้เราเตรียมที่จะออกกองทุนฯ นี้มาเพื่อตอบรับเศรษฐกิจและ Demand ดังกล่าว เพื่อเป็นทางเลือกแก่นักลงทุนทรัพย์สินดังกล่าว”

   “โดยเราประเมินแล้วว่า โครงการโรงแรมพีพี ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท ที่กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทยแลนด์ โฮสพีทาลิตี้ จะลงทุนนั้นเป็นทรัพย์สินที่ดี มีคุณภาพ โดยเป็นการลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดินพื้นที่รวมกว่า 31 ไร่ รวมถึงอาคาร สิ่งปลูกสร้างบนเกาะพีพี จังหวะกระบี่ โดยโครงการดังกล่าวมีทำเลที่ตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทยบริเวณหาดแหลมตง จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นสถานที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้งในช่วงที่ผ่านมาโครงการโรงแรมพีพี ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท ก็มีผลประกอบการที่ค่อนข้างดีทั้งในด้านอัตราการเข้าพักและอัตราค่าห้องพัก โดยอัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ยในระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมามีมากกว่า 80% และอัตราค่าห้องพักมีการปรับเพิ่มขึ้นทุกปีโดยเฉลี่ยปีละ 5% ซึ่งกองทุนฯ นี้จะระดมทุนจำนวน 1,720 ล้านบาท

    โดยกองทุนฯ มีจุดสนใจอยู่ที่สินทรัพย์ที่มีคุณภาพและผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องรวมทั้งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะ Demand จากนักท่องเที่ยวชาวจีน ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศสที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งทำเลและพื้นที่ที่จำกัดบนเกาะพีพีทำให้การได้ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท Freehold มีความน่าสนใจมากทั้งในแง่ของอัตราผลตอบแทน (Yield) และโอกาสของมูลค่าส่วนเกินทุน (Capital Appreciation) โดยกองทุนฯ นี้จะมีสัญญาเช่ากับทางบริษัท พี พี ฮอลิเดย์ จำกัด เป็นเวลา 15 ปี โดยต่อสัญญาการเช่าครั้งละ 3 ปี และคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยตลอดระยะเวลาเช่า 15 ปีให้แก่ลูกค้าได้ประมาณ 7.63% ต่อปี นอกจากนี้บริษัท พี พี ฮอลิเดย์ จำกัด ในฐานะผู้เช่าทรัพย์สินจากกองทุน ยังมอบหลักประกันการชำระค่าเช่าคงที่ให้แก่กองทุนทั้งในส่วนของเงินประกันการเช่าเป็นเงินสด จำนวน 70,000,000 บาท ตลอดระยะเวลาการเช่า 15 ปี และหนังสือค้ำประกันออกโดยธนาคารพาณิชย์เพื่อเป็นหลักประกันการชำระค่าเช่าคงที่สำหรับทรัพย์ที่เช่าเป็นรายปีตลอดระยะเวลา 6 ปีแรกของค่าเช่า ซึ่งทำให้เป็นการลดทอนความเสี่ยงของผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับอีกด้วย จึงทำให้มองว่าการลงทุนในกองทุนฯ นี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนครับ” นายวิน กล่าวปิดท้าย

บลจ.วรรณ เตรียมออกกองอสังหาฯลงทุนโรงแรมบนพีพี คาดปันผล 2 ครั้ง/ปี

   นายวิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า ในเร็วๆ นี้ บริษัทฯมีแผนการออกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์อีก 1 กองทุน หลังจากที่ช่วงกลางปีได้มีการเสนอขายกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทรัพย์ศรีไทย สมาร์ท สโตเรจ ซึ่งสูงกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ ซึ่งกองทุนใหม่จะลงทุนในกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ (Freehold) ในโครงการโรงแรมพีพี ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท ภายใต้ชื่อว่า“กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทยแลนด์ โฮสพีทาลิตี้" ซึ่งบริหารจัดการโดยโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ภายในเครือของ Intercontinental กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและเป็นผู้มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการพัฒนาและดำเนินการบริหารโครงการโรงแรมระดับนานาชาติมาอย่างยาวนาน

   กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ไทยแลนด์ โฮสพีทาลิตี้ ปัจจุบันได้รับการอนุมัติจัดตั้งจากทางสำนักงาน ก.ล.ต. เรียบร้อยแล้วในช่วงกลางเดือน ต.ค. 57 และมีแผนที่จะเสนอขายครั้งแรก (IPO) ให้แก่นักลงทุนในเร็วๆ นี้ เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจไทยและต่างประเทศเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ประชาชนต่างเริ่มทยอยจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นประกอบกับเริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว (High Season) ซึ่งจะสนับสนุนให้การท่องเที่ยวเริ่มกลับมาฟื้นตัวได้เป็นอย่างดี โดยจะเห็นได้จากในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในไทยเริ่มปรับตัวดีขึ้น ทำให้คาดว่าภาวะซบเซาของภาคการท่องเที่ยวน่าจะผ่านพ้นไปเรียบร้อยแล้ว

   ประกอบกับท่าทีของทางการไทยที่น่าจะมีการยกเลิกกฎอัยการศึกในเร็วๆ นี้ ก็น่าจะสนับสนุนให้การท่องเที่ยวกลับมาดีขึ้นได้ โดยเฉพาะภาคใต้ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของไทยและเป็นจุดสนใจของนักท่องเที่ยวต่างชาติมาโดยตลอด ทำให้เราเตรียมที่จะออกกองทุนฯ นี้มาเพื่อตอบรับเศรษฐกิจและ Demand ดังกล่าว เพื่อเป็นทางเลือกแก่นักลงทุนทรัพย์สินดังกล่าว

    บริษัทประเมินแล้วว่า โครงการโรงแรมพีพี ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท เป็นทรัพย์สินที่ดีมีคุณภาพ โดยเป็นการลงทุนในกรรมสิทธิ์ที่ดินพื้นที่รวมกว่า 31 ไร่  รวมถึงอาคาร สิ่งปลูกสร้างบนเกาะพีพี จังหวะกระบี่ โดยโครงการดังกล่าวมีทำเลที่ตั้งอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทยบริเวณหาดแหลมตง จังหวัดกระบี่ ซึ่งเป็นสถานที่ได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างประเทศ รวมทั้งในช่วงที่ผ่านมาโครงการโรงแรมพีพี ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท ก็มีผลประกอบการที่ค่อนข้างดีทั้งในด้านอัตราการเข้าพักและอัตราค่าห้องพัก โดยอัตราการเข้าพักโดยเฉลี่ยในระยะเวลา 5 ปีมีมากกว่า 80% และอัตราค่าห้องพักมีการปรับเพิ่มขึ้นทุกปีโดยเฉลี่ยปีละ 5% ซึ่งกองทุนฯ นี้จะระดมทุนจำนวน 1,720 ล้านบาท

   กองทุนดังกล่าวมีจุดสนใจอยู่ที่สินทรัพย์ที่มีคุณภาพและผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่องรวมทั้งมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะ Demand จากนักท่องเที่ยวชาวจีน ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกาและฝรั่งเศสที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งทำเลและพื้นที่ที่จำกัดบนเกาะพีพีทำให้การได้ลงทุนในสินทรัพย์ประเภท Freehold มีความน่าสนใจมากทั้งในแง่ของอัตราผลตอบแทน (Yield) และโอกาสของมูลค่าส่วนเกินทุน (Capital Appreciation) โดยกองทุนฯ นี้จะมีสัญญาเช่ากับทางบริษัท พี พี ฮอลิเดย์ จำกัด เป็นเวลา 15 ปี โดยต่อสัญญาการเช่าครั้งละ 3 ปี และคาดว่าจะสามารถจ่ายเงินปันผลเฉลี่ยตลอดระยะเวลาเช่า 15 ปีให้แก่ลูกค้าได้ประมาณ 7.63% ต่อปี

   นอกจากนี้ บริษัท พี พี ฮอลิเดย์ จำกัด ในฐานะผู้เช่าทรัพย์สินจากกองทุน ยังมอบหลักประกันการชำระค่าเช่าคงที่ให้แก่กองทุนทั้งในส่วนของเงินประกันการเช่าเป็นเงินสด จำนวน 70,000,000 บาท ตลอดระยะเวลาการเช่า 15 ปี และหนังสือค้ำประกันออกโดยธนาคารพาณิชย์เพื่อเป็นหลักประกันการชำระค่าเช่าคงที่สำหรับทรัพย์ที่เช่าเป็นรายปีตลอดระยะเวลา 6 ปีแรกของค่าเช่า ซึ่งทำให้เป็นการลดทอนความเสี่ยงของผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับอีกด้วย จึงทำให้มองว่าการลงทุนในกองทุนนี้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!