WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

 

 

MTI 720x100

 

12644 KTAM Prop InfraQ3 2566

กองทุน KTAM ใจดี ควักกระเป๋าจ่ายปันผลและลดทุนกองทุนรวมอสังหาฯ-โครงสร้างฯ Q3 ปี 66 กว่า 1.7 พันล้าน

          นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTAM) เปิดเผยว่า GDP ไตรมาส 3 ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เปิดเผยตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด แต่ภาคการบริโภค การลงทุน การส่งออกกลับฟื้นตัวสูงกว่าก่อนเกิดสถานการณ์โควิด-19 แล้ว ถึงแม้ว่าภาคการผลิตและภาคการท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัวเท่าที่ควร แต่ ธปท. ยังคงคาดการณ์ว่าการเติบโตในปีถัดๆ ไปจะสมดุลมากขึ้น โดยคาดว่าจะขยายตัว 3.2% และ 3.1% ในปี 2024 และ 2025 ตามลำดับ โดยภาพรวมเศรษฐกิจทั้งในส่วนของการลงทุนและการบริโภคที่ปรับตัวดีขึ้นนั้น ส่งผลให้กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานและกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ KTAM สามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นที่น่าพอใจ บริษัทฯ จึงได้ประกาศจ่ายปันผลและจ่ายลดทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ประกอบด้วย

          กลุ่มกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งนับว่าเป็นกองทุนที่น่าสนใจ ได้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้ากลุ่มน้ำตาล ครบุรี (KBSPIF) ลงทุนในสัญญาโอนสิทธิในรายได้จากการประกอบกิจการไฟฟ้า ของบริษัทผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด (หรือ KPP ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของกลุ่มน้ำตาล ครบุรี) โดยโรงไฟฟ้านี้เป็นโรงไฟฟ้าแบบชีวมวล มีกากอ้อยเป็นเชื้อเพลิงหลัก ซึ่งหาซื้อได้ในประเทศ กองทุน KBSPIF นี้ จะทำการเข้าลงทุนในกระแสรายได้ของ KPP ซึ่งมีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าระยะยาวให้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกลุ่มน้ำตาลครบุรี โดยสัญญาเข้าลงทุนมีระยะเวลาถึงปี 2582 หรืออีกประมาณ 16 ปี ที่ผ่านมา ทั้งนี้ กองทุนได้รับรายได้จากการผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอโดยไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ Covid นับแต่จัดตั้งกองทุน เมื่อ ส.ค. 63 ที่ผ่านมา จึงเหมาะกับนักลงทุนที่มีมุมมองการลงทุนระยะยาว มองหากระแสรายได้จากทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานที่มีความจำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่นกระแสไฟฟ้า เป็นต้น

          โดยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมีการจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ ซึ่งในปี 2563 มีการจ่ายปันผลที่อัตรา 0.4990 บาทต่อหน่วย ปี 2564 จ่ายปันผลที่อัตรา 1.0270 บาทต่อหน่วย และปี 2565 จ่ายปันผลที่อัตรา 0.8790 บาทต่อหน่วย และใน 9 เดือนแรกของปีนี้ จ่ายปันผลที่อัตรา 0.7030 บาทต่อหน่วย ใกล้เคียงกันกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่อัตรา 0.7050 บาทต่อหน่วย สำหรับไตรมาส 3 รอบบัญชีวันที่ 1 ก.ค. 66 – 30 ก.ย. 66 และจากกำไรสะสม ได้จ่ายปันผลในวันที่ 19 ธ.ค.66 ในอัตรา 0.2440 บาทต่อหน่วย และหากพิจารณาในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ได้จ่ายปันผลไปแล้วรวม 0.8770 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็น 9.85% จากราคาปิด ณ วันที่ 13 ธ.ค. 66 ที่ 8.90 บาทต่อหน่วย

          และอีกกองทุนที่น่าสนใจ ได้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) ที่ลงทุนในสิทธิในรายได้ 45% ของรายได้ค่าผ่านทางสุทธิ ที่จัดเก็บได้จากโครงการทางพิเศษฉลองรัช และทางพิเศษบูรพาวิถี ซึ่งบริหารจัดการโดย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) โดยสัญญามีระยะเวลาคงเหลือ ประมาณ 25 ปี (สิ้นสุดปี 2591) ทำให้กองทุนนี้เป็นกองทุนแบบที่ลงทุนในสัญญาแบ่งรายได้ที่มีอายุคงเหลือมากสุดในตลาด ณ ขณะนี้ (ที่มา: SETTRADE ข้อมูล ณ 18 ธค 66) และยังได้รับอานิสงส์จากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวขึ้น หลังจากการเปิดเมืองในปีที่ผ่านมาและการส่งเสริมการท่องเที่ยวในปีนี้ อีกทั้งยังได้รับผลดีจากการปรับขึ้นค่าผ่านทางทั้ง 2 เส้นทาง ซึ่งเป็นไปตามวิธีการปรับค่าผ่านทางที่กำหนดไว้ในสัญญาที่อ้างอิงกับอัตราเงินเฟ้อ โดยคาดว่าอัตราค่าผ่านทางใหม่จะได้เรียกเก็บในช่วง มี.ค. 67 นี้ กองทุนนี้จึงเหมาะกับนักลงทุนที่มีมุมมองการลงทุนระยะยาว มองหาทรัพย์สินโครงสร้างพื้นฐานที่มีรายได้เติบโตตามภาวะเงินเฟ้อ และการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการทางพิเศษของ กทพ. ทั้งใน 2 เส้นทางนี้

          โดยในปี 2563 มีการจ่ายปันผลที่อัตรา 0.3829 บาทต่อหน่วย ปี 2564 จ่ายปันผลที่อัตรา 0.3086 บาทต่อหน่วย และปี 2565 จ่ายปันผลที่อัตรา 0.3825 บาทต่อหน่วย และใน 9 เดือนแรกของปีนี้ จ่ายปันผลที่อัตรา 0.3098 บาทต่อหน่วย มากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าที่อัตรา 0.2793 บาทต่อหน่วย สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่ชัดเจน สำหรับไตรมาส 3 รอบบัญชีวันที่ 1 ก.ค. 66 – 30 ก.ย. 66 ได้จ่ายปันผลในวันที่ 28 ธ.ค.66 ในอัตรา 0.1057 บาทต่อหน่วย และหากพิจารณาในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา จ่ายปันผลไปแล้วรวม 0.4130 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็น 6.56% จากราคาปิด ณ วันที่ 13 ธ.ค. 66 ที่ 6.30 บาทต่อหน่วย

          นอกจากนี้ ยังมีกองทุนที่จ่ายปันผลในวันที่ 19 ธ.ค. 66 สำหรับรอบบัญชีวันที่ 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 2566 และจากกำไรสะสม ได้แก่ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าพระนครเหนือชุดที่ 1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGATIF) เป็นกองทุนที่ลงทุนในรายได้ค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 ของ กฟผ. กำหนดจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 31 ในอัตรา 0.0839 บาทต่อหน่วย และจ่ายลดทุนครั้งที่ 11 ในอัตรา 0.1200 บาทต่อหน่วย รวมเป็นจ่ายปันผลและลดทุน จำนวน 0.2039 บาทต่อหน่วย ซึ่งในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ได้จ่ายปันผลไปแล้วรวม 0.3538 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็น 6.26% จากราคาปิดที่ 5.65 บาทต่อหน่วย (ณ วันที่ 13 ธ.ค. 66) และจ่ายลดทุนไปแล้วรวม 0.4600 บาทต่อหน่วย 

          สำหรับปันผลกลุ่มกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ตามรอบบัญชีวันที่ 1 ก.ค. 66 – 30 ก.ย. 66 และจากกำไรสะสม ได้แก่ กองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ ซีพี ทาวเวอร์ โกรท (CPTGF) เป็นอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีกที่ตั้งอยู่ในย่านธุรกิจใจกลางเมืองที่โดดเด่น 3 แห่งด้วยกัน ได้แก่ CP Tower 1 (สีลม) CP Tower 2 (รัชดาภิเษก) และ CP Tower 3 (พญาไท) โดยในไตรมาสนี้ได้กำหนดจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 38 ในอัตรา 0.1836 บาทต่อหน่วย ซึ่งในรอบ 9 เดือนของปี 2566 ได้จ่ายปันผลแล้วรวม 0.3020 บาทต่อหน่วย และลดทุนเป็นเงิน 0.2300 บาทต่อหน่วย รวมกันเป็นเงิน 0.5330 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้ จากราคาตลาด ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 4.96 บาท (13 ธ.ค. 66) ซึ่งหากพิจารณาการจ่ายเงินปันผล 4 ไตรมาสล่าสุด จะคิดเป็นอัตราเงินปันผลที่ 9.35%

          และกองทุนรวมสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ตลาดไท (TTLPF) ลงทุนในโครงการตลาดไท ได้กำหนดจ่ายเงินปันผลนับเป็นครั้งที่ 52 ในอัตรา 0.4440 บาทต่อหน่วย ซึ่งในรอบ 9 เดือนของปี 2566 ได้จ่ายปันผลแล้วรวม 1.3040 บาทต่อหน่วย โดยราคาตลาด ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 19.20 บาท (13 ธ.ค. 66) ซึ่งหากเทียบจากการจ่ายเงินปันผลย้อนหลัง 4 ไตรมาสล่าสุด จะคิดเป็นอัตราเงินปันผลอยู่ที่ประมาณ 8.99%

          รวมถึงกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าโลตัสส์ รีเทล โกรท (LPF) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 1 มิ.ย. 2566 – 30 ส.ค. 2566 โดยจ่ายให้ผู้ถือหน่วยแล้วเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา นับเป็นครั้งที่ 46 ในอัตรา 0.2112 บาทต่อหน่วย ซึ่งในรอบ 9 เดือนของปี 2566 ได้จ่ายปันผลแล้วรวม 0.6470 บาทต่อหน่วย โดยราคาตลาด ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 12.80 บาท (13 ธ.ค. 66) หากเทียบจากการจ่ายเงินปันผลย้อนหลัง 4 ไตรมาสล่าสุด จะคิดเป็นอัตราเงินปันผลอยู่ที่ประมาณ 6.65% 

          ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้ทุกวันทำการได้ที่ บลจ.กรุงไทย โทร. 0-2686-6100 กด 9 หรือศึกษารายละเอียดได้ที่ www.ktam.co.th

 

คำเตือน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต / ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน 

 

 

12644

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kbank 720x100 66

SME 720x100 66QIC 720x100

วิริยะ 720x100AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

iconmotor

gen 720x100

TOA 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!