WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งทรงตัวในกรอบจำกัด จับตาการเมืองในปท.เป็นหลัก

       นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งทรงตัวในกรอบจำกัด เป็นได้ทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน เนื่องจากตลาดฯคงกำลังรอดูสถานการณ์ทางการเมือง จากที่วันนี้ทางรัฐบาลจะหารือกับประธานวุฒิสภา ซึ่งก็ต้องรอดูท่าทีของ"นิวัฒน์ธำรง"รองนายกรัฐมนตรี และปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ในกรณีของการเรียกคืนอำนาจ ซึ่งจะสร้างความกดดันทางการเมือง และการเมืองก็มีความเสี่ยงมากขึ้นจากที่อาจเกิดความรุนแรงขึ้นได้ภายหลังจากที่ทาง"สุเทพ"ออกมาบอกว่าจะเรียกคืนอำนาจภายใน 7 วัน และจะมีการระดมมวลชนในวันที่ 23-25 พ.ค.นี้ ดังนั้นใน 7 วันนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองได้

      นอกจากนี้ วันนี้จะมีการประกาศตัวเลข GDP ของไทยงวดไตรมาส 1/57 ซึ่งตลาดฯคาดว่าจะบวก 0.5% แต่ทางบล.ทิสโก้คาดว่าจะติดลบ 0.7% แต่ตรงนี้ไม่ห่วงเท่าไร เพราะคนจะห่วงเศรษฐกิจระยะต่อไปมากกว่า

      ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดฮ่องกง, จีน จะปรับตัวลงมาก ส่วนตลาดในกลุ่ม TIP อยู่ในแดนบวก ทั้งนี้เวลานี้ตลาดนอกประเทศต่างรอดูการเลือกตั้งประธานาธิบดีของยูเครนที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 พ.ค.นี้ อย่างไรก็ดีตลาดบ้านเราคงจะให้ความสนใจไปที่การเมืองในประเทศมากกว่า

      พร้อมให้แนวรับ 1,395-1,400 จุด ส่วนแนวต้าน 1,400-1,415 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์ควานนี้(16 พ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,491.31 จุด เพิ่มขึ้น 44.50 จุด (+0.27%), ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,877.86  จุด เพิ่มขึ้น 7.01 จุด(+0.37%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,090.59 จุด เพิ่มขึ้น 21.30 จุด(+0.52%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 33.50 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.35 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 38.33 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 3.49 จุด, ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดวันนี้ ไม่เปลี่ยนแปลง, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.45 จุด, ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 21.48 จุด, ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.82 จุด

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(16 พ.ค.) ที่ 1,405.26 จุด เพิ่มขึ้น 10.05 จุด(+0.72%)

       - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,089.83 ล้านบาท เมื่อวันที่ 16 พ.ค.57

       - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(16 พ.ค.)ที่ 102.02 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ หรือ 0.5%

       - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(16 พ.ค.)ที่ 7.18  เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

       - เงินบาทเปิดที่ 32.50/52 ทรงตัว เกาะติดสถานการณ์การเมืองสัปดาห์นี้

       - สศช.หั่นประมาณการจีดีพีปี 2557 ในการแถลงวันนี้ ผลกระทบหลักจาก"งบประมาณลงทุน"ล่าช้า นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น คาดปรับเหลือ 2.0-2.5% จากเดิม 3.0-4.0% ขณะกมธ.วุฒิฯ เผยหน่วยงานเศรษฐกิจภาครัฐประเมินส่งออกยังหนุน ส่งผลให้ปีนี้ไม่ติดลบ เลวร้ายสุดตั้งรัฐบาลไม่ได้ในปีนี้ กดจีดีพีเหลือ 0.3%

      - วุฒิสภาเตรียมเสนอตั้งนายกรัฐมนตรีใหม่อีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ โดยคณะทำงานของนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานวุฒิสภา ได้สรุปแนวทางดำเนินการไว้ 2 วิธีคือ ให้ สว. 1 ใน 4 เข้าชื่อกันขอเปิดประชุมเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีตามข้อบังคับการประชุมของวุฒิสภา หรือให้นายสุรชัยตัดสินใจนำชื่อนายกฯขึ้นทูลเกล้าฯ โดยไม่ต้องผ่านที่ประชุม สว. ซึ่งคาดว่านายสุรชัยจะเลือกใช้แนวทางอย่างหลังมากกว่า

     - นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เผยได้เซ็นคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อดูแลเศรษฐกิจเป็นการเร่งด่วน มีนายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เป็นประธาน และปลัดกระทรวงการคลังเป็นที่ปรึกษา เพื่อเร่งหามาตรการพยุงเศรษฐกิจเพราะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในขณะนี้ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนมาก

      - รายงานข่าวจากศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า การโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลไตรมาสแรกของปี 2557 มีจำนวนทั้งสิ้น 37,559 หน่วย ลดลง 6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มียอดโอน39,851 หน่วย และลดลง 29% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2556 ที่มียอดโอน 52,593 หน่วย

     - ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบี (TMB Analytics) ปรับลดประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ลง จากร้อยละ 2.9 เหลือร้อยละ 2.0 เหตุความไม่แน่นอนทางการเมืองบั่นทอนการใช้จ่าย โดยเฉพาะการลงทุนภาคเอกชน คาดอาจได้เห็นสภาพัฒน์ เผยจีดีพีไตรมาสแรกหดตัวจากไตรมาสก่อนหน้าร้อยละ 1.7

*หุ้นเด่นวันนี้

     - SIRI(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 2 บาท บริษัทรายงานกำไรสุทธิที่สูงถึง 830 ล้านบาทใน 1Q14 มาจากกำไรจากการขายอาคารสิริภิญโญและที่ดิน 1,072 ล้านบาท หากตัดรายการดังกล่าวออก จะพลิกเป็นขาดทุน 42 ล้านบาท ผิดไปจากที่ตลาดคาดมาก เพราะมีการตั้งสำรองโบนัสพนักงาน ถ้าไม่รวมค่าใช้จ่ายนี้ จะเป็นกำไรปกติ 118 ล้านบาท (-89% Q-Q และดีขึ้นจากขาดทุน 86 ล้านบาทใน 1Q13) และกำไรปกติในปีนี้ที่คาดโต 25% Y-Y เพราะแนวโน้มรายได้โอนจะดีขึ้นในช่วงที่เหลือ ราคาหุ้นสะท้อนผลประกอบการที่น่าผิดหวังไปแล้ว

       - SIM(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 5.20 บาท ราคาหุ้นในปี 2557 ปรับตัวลดลง 0.6% YTD ถือว่า Laggard มาเมื่อเทียบกับหุ้นแม่อย่าง SAMART และกลุ่มสื่อสารที่ปรับตัวขึ้น 37.8% และ 15.6% YTD ตามลำดับ ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 2Q57 ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องจากใน 1Q57 ตามยอดขายเครื่องโทรศัพท์ที่เพิ่มขึ้น และการเปิดตัว Smart phone ใหม่ 7 รุ่น ราคาเครื่องเฉลี่ย 3-8 พันบาท ขณะเดียวกัน SIM มีจุดแข็งจากการมีช่องทางจำหน่าย และตัวแทนจำหน่ายครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากนี้เราคาดว่าธุรกิจ MVNO จะเริ่มพลิกกลับมาเป็นกำไรในปีนี้

      - CK(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 22.44 บาท ประเมินราคาหุ้นในปัจจุบันสะท้อนความเสี่ยงจากความล้าช้าของโครงการภาครัฐไปแล้ว ขณะที่ในเชิงของผลการดำเนินงานบริษัทยังคงระดับรายได้เฉลี่ยได้ที่ราว 7.5-8.5 พันล้านบาทต่อไตรมาส และอัตรากำไรขั้นต้นที่ระดับ 10%  ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือรอรับรู้รายได้ราว 1 แสนล้านบาท และในปี 2557 บริษัทอยู่ระหว่างรอการเซ็นสัญญามูลค่า 2 หมื่นล้านบาท จากโครงการโรงไฟฟ้า และเขื่อนน้ำบาก ซึ่งจะช่วยสนับสนุนรายได้ในอนาคตให้มีความต่อเนื่อง แม้ว่าจะยังไม่ได้รับงานจากรัฐบาลก็ตาม

       - MATCH(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"ราคาเหมาะสม 3.76 บาท มีมุมมองเชิงบวกต่อการเติบโตของบริษัท เนื่องจากได้ประโยชน์ทั้งโดยตรงและทางอ้อมจากการเข้าสู่ยุคทีวีดิจิตอล ซึ่งจะส่งผลบวกต่อธุรกิจรับผลิตรายการ และธุรกิจบริการคือให้เช่าอุปกรณ์ถ่ายทำที่มีคู่แข่งขันน้อยราย และมี Sentiment เชิงบวก เนื่องจากทุกช่องราคาของทีวีดิจิตอลจะเริ่มออกอากาศอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.2557 เป็นต้นไป ผลักดันให้กำไร 3 ปีของหน้าเติบโตเฉลี่ย(CAGR) สูงถึงปีละ 16% และมีจุดเด่นที่อัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 38% พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2557 จะเติบโต +21% yoy เป็น 94 ล้านบาท ฐานะการเงินแข็งแกร่ง

ตลาดหุ้นเอเชียลดลงเช้านี้ เหตุวิตกตลาดอสังหาฯจีนชะลอตัว

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยการนำของตลาดหุ้นจีน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน หลังจากมีรายงานว่าราคาบ้านในประเทศจีนปรับตัวลดลง

      ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.3% เมื่อเวลา 10.48 น.ตามเวลาโตเกียว

      ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 14,130.09 จุด เพิ่มขึ้น 33.50 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,023.01 จุด ลดลง 3.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 22,751.24 จุด เพิ่มขึ้น 38.33 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 8,901.54 จุด เพิ่มขึ้น 13.09 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,013.79 จุด เพิ่มขึ้น 0.35 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,884.88 จุด เพิ่มขึ้น 1.54 จุด และดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,262.00 จุด ลดลง 0.59 จุด

    ทั้งนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีนเปิดเผยว่า ราคาบ้านใหม่ในเมืองต่างๆของจีน ปรับตัวลดลงเมื่อเทียบเป็นรายเดือน โดยจากสถิติของเมืองใหญ่ 70 เมืองในจีนนั้น ราคาบ้านใหม่ปรับตัวลงลงในเมือง 8 เมืองเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 2 เท่าจากสถิติในเดือนมี.ค.

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับผลประกอบการเอกชน

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (16 พ.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัทแอร์บัส กรุ๊ป ผู้ผลิตเครื่องบินรายใหญ่ของยุโรป

    ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 341.89 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,456.28 จุด เพิ่มขึ้น 11.35 จุด หรือ +0.26% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,855.81 จุด เพิ่มขึ้น 14.92 จุด หรือ +0.22% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,629.10 จุด ลดลง 26.95 จุด หรือ -0.28%

    หุ้นแอร์บัสพุ่งขึ้น 6.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการก่อนหักภาษีและดอกเบี้ยอยู่ที่ 700 ล้านยูโร ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 659 ล้านยูโร ขณะที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 5% แตะที่ 1.26 หมื่นล้านยูโร ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์เช่นกัน

    หุ้น ThyssenKrupp ซึ่งเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ของเยอรมนี ปรับตัวขึ้น 4.1% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่ากำไรในปี 2557 จะเพิ่มขึ้นจากปี 2556 เป็น 2 เท่า พร้อมกับเปิดเผยว่า บริษัทมีกำไรในไตรมาสแรกปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 269 ล้านยูโร เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วที่บริษัทขาดทุน 129 ล้านยูโร

      หุ้นแพนโดรา ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายเครื่องประดับชั้นนำของเดนมาร์ค พุ่งขึ้น 8.1% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการปี 2557 เป็น 1.05 หมื่นล้านโครเนอร์ หรือ 193 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 1 หมื่นล้านโครเนอร์

    ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงหนุนจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) ที่ระบุว่า เศรษฐกิจของเยอรมนีขยายตัว 0.8% ในไตรมาสแรกของปี 2557 ซึ่งเป็นระดับสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 0.6% - 0.7%

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 14.92 จุด หลังสหรัฐเผยข้อมูลศก.แข็งแกร่ง

    ดัชนี FTSE 100 ที่ตลาดหุ้นลอนดอนปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นสหรัฐ ภายหลังกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสร้างบ้านใหม่ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากเกินคาด

    ดัชนี FTSE 100 ปิดปรับตัวขึ้น 14.92 จุด หรือ 0.22% ที่ 6,855.81 จุด

    กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐประจำเดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมายในระดับ 13.2% แตะที่ 1.07 ล้านยูนิต ซึ่งสูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3.1% และยอดสร้างบ้านยังแตะระดับสูงสุดในรอบห้าเดือนอีกด้วย ขณะที่การอนุญาตก่อสร้างซึ่งเป็นมาตรวัดการก่อสร้างในอนาคต ปรับตัวขึ้น 8% สู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบหกปีที่ 1.08 ล้านยูนิต

    นักวิเคราะห์จากบาร์เคลย์กล่าวว่า รายงานยอดสร้างบ้านใหม่ของสหรัฐอาจช่วยระงับความกังวลของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐที่ว่ากิจกรรมในตลาดที่อยู่อาศัยกำลังซบเซา หลังจากที่เผชิญกับอัตราสินเชื่อบ้านที่สูงขึ้นในปีที่แล้ว และสภาพอากาศที่รุนแรงในช่วงต้นปีนี้

   สำหรับความเคลื่อนไหวในภาคธุรกิจนั้น นสพ.เดลีเมล์รายงานว่า กลุ่มไพรเวทอิควิตี้กลุ่มหนึ่งอาจยื่นข้อเสนอซื้อกิจการซูเปอร์มาร์เก็ต มอร์ริสัน ส่งผลให้หุ้นมอร์ริสันพุ่งขึ้น 3.8% ด้านเจ เซนส์บิวรี บวก 2.4% ส่วนเทสโก้ บวก 2.6%

    หุ้นแอสตร้าเซนเนก้า ผู้ผลิตยาของอังกฤษ บวก 2.1% หลังมีรายงานว่า ผู้บริหารของบริษัทถูกผู้ถือหุ้นเร่งให้เริ่มการเจรจ

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก : ดอลล์แข็งค่าเทียบยูโร หลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐสดใส

   ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรเมื่อคืนนี้ (16 พ.ค.) หลังจากมีการเปิดเผยยอดสร้างบ้านใหม่ที่แข็งแกร่ง ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังปรับตัวดีขึ้น

    ค่าเงินยูโรปรับตัวลงเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.3697 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3716 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับตัวขึ้นที่ 1.6821 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6796 ดอลลาร์สหรัฐ

    ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐขยับลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 101.52 เยน จากระดับ 101.53 เยน ขณะที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.8920 ฟรังค์ จากระดับ 0.8901 ฟรังค์ และอ่อนค่าลงแตะ 1.0866 ดอลลาร์แคนาดา จาก 1.0877 ดอลลาร์แคนาดา

   ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9365 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9358 ดอลลาร์สหรัฐ

   กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐประจำเดือนเม.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือความคาดหมายในระดับ 13.2% แตะที่ 1.07 ล้านยูนิต ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. และการอนุญาตก่อสร้าง ซึ่งเป็นมาตรวัดการก่อสร้างในอนาคต ปรับตัวขึ้น 8% สู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบหกปีที่ 1.08 ล้านยูนิต

    ทั้งนี้ ข้อมูลตลาดที่อยู่อาศัยออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ

    สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของยูโรโซน ปรับตัวขึ้น 0.2% ในไตรมาสแรก ซึ่งต่ำกว่าที่คาดไว้และจุดกระแสคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจขยายมาตรการกระตุ้นทางการเงินในเดือนมิ.ย.นี้

    มาริโอ ดรากิ ประธานอีซีบีกล่าวในสัปดาห์ที่แล้วว่า เขายินดีที่จะเพิ่มมาตรการกระตุ้นในเดือนหน้า ขณะที่มีกระแสคาดการณ์ในวงกว้างว่าอีซีบีจะใช้มาตรการใหม่ๆเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

                        อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!