WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

 ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ทรงตัวถึงปรับลงหลังราคาน้ำมันดิ่งต่ำสุดรอบกว่า 5 ปี

    นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์ หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ดัชนีทรงตัวถึงอาจปรับลงได้ โดยวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เม็ดเงิน LTF ที่จะไหลเข้าในปีนี้ มีโอกาสถูกกดดันจากกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี หลังจากราคาน้ำมันในตลาดโลกทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบมากกว่า 5 ปี

      ปัจจัยต่างประเทศต้องจับตาไปที่การเมืองของกรีซ เพราะเมื่อคืนการเลือกประธานาธิบดีครั้งที่ 3 ล้มเหลว ทำให้ต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 25 ม.ค.58 มีส่วนสำคัญ เพราะหากพรรคที่ไม่สนับสนุนเรื่องการรัดเข็มขัดหรือการปฏิรูปฐานะการคลังได้รับคะแนนเสียงชนะการเลือกตั้ง ก็อาจจะทำให้กรีซไม่ได้รับเงินกู้และมีปัญหาด้านเศรษฐกิจต่อไป

      "โดยรวมตลาดมีแนวโน้มทรงตัวถึงปรับลง วอลุ่มคงบางเหมือนเมื่อวานที่ต่ำสุดในรอบ 8 เดือน"นายอภิชาติ กล่าว

      พร้อมให้แนวต้านวันนี้ 1,510-1,515 จุด แนวรับอยู่ที่ 1,493 จุดบวก/ลบ ถ้าหลุดก็ไปที่ 1,480 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

       - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(29 ธ.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,038.23 จุด ลดลง 15.48 จุด (-0.09%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,806.91 จุด เพิ่มขึ้น 0.05 จุด (+0.00%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,090.57 จุด เพิ่มขึ้น 1.80 จุด (+0.09%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นลดลง 27.72 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 79.95 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 12.82 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 6.65 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.08 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.61 จุด

        - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(29 ธ.ค.) 1,498.22 จุด ลดลง 12.19 จุด(-0.81%)

        - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 925.43 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 ธ.ค.57

       - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(29 ธ.ค.) ปิดที่ 53.61 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 1.12 ดอลลาร์

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(29 ธ.ค.)ที่ 6.59 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 32.97/98 ทรงตัวไร้ประเด็น มองกรอบ 32.95-33.05

       - คลังประเมินเศรษฐกิจไทยขยายตัวสูงสุด ในไตรมาส 3-4 ปีหน้า จากมาตรการกระตุ้น-ลงทุนเห็นผลชัด พร้อมหั่นเป้าปีนี้เหลือ 0.9-1.0% จากสัญญาณเบิกจ่ายภาครัฐล่าช้ากว่าคาด ส่วนปีหน้าคงเป้าที่ 4% ฝ่ายวิจัยแบงก์กรุงศรีฯชี้เศรษฐกิจไทยปีนี้ โตต่ำสุดในอาเซียน หวังลงทุน"รัฐเอกชน"ดันปีหน้าโต 4.3% แนะจับตาความเสี่ยงเศรษฐกิจโลก-วิกฤติการเมืองไทย

    - หน่วยกู้ภัยนานาชาติเร่งค้นหาเครื่องแอร์เอเชีย อิเหนาสันนิษฐานจมอยู่ก้นทะเลชวา พร้อมตรวจสอบข่าวพบคราบน้ำมันนอกชายฝั่งเกาะเบลิตุง ขณะกระแสข่าว ชี้นักบินอาจไต่เพดานในระดับความเร็ว ไม่เพียงพอ ทำเครื่องสูญเสียการควบคุม ด้านหุ้นแอร์เอเชียดิ่ง 8.5% ในตลาดมาเลเซีย

    - ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.มี ความเห็นให้ทำหนังสือถึงกระทรวงการคลังให้เรียกค่าเสียหายจำนวน 5-6 แสนล้านบาท กับผู้เกี่ยวข้องที่ทำให้โครงการรับจำนำข้าวเกิดความเสียหาย

      - ปัญหาหนี้ครัวเรือนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจ กดดันสินเชื่อบ้านในไตรมาส 4 ปีนี้ขยายตัวต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยอัตราเติบโตอยู่ระดับเดียวกับไตรมาสอื่น จากปกติจะเป็นช่วงที่สินเชื่อเติบโตสูงที่สุด ส่งผลให้สินเชื่อบ้านของธนาคารกรุงเทพจะเติบโตราว 13% ต่ำกว่าเป้าหมาย 15% เล็กน้อย แต่ดีกว่าตลาดรวมที่เติบโต 8-10%

*หุ้นเด่นวันนี้

    - NBC(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า6บาท กรณี SLC เข้าถือหุ้นบริษัทแม่ NMG ในสัดส่วน 12% รวม 405 ล้านหุ้น และ NMG-W3 จำนวน 225 ล้านหน่วย ยังไม่มีข้อสรุปจากกสทช.ว่าขัดเงื่อนไขการประมูลใบอนุญาตหรือไม่ ราคาหุ้นอ่อนตัวลงคาดเกิดจากความกังวลต่อประเด็นปัญหาข้างต้น ซึ่งประเมินว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของ NBC โดยมอง NBC เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่น่าสนใจจากโอกาสการเติบโตของธุรกิจทีวีดิจิทัลเนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานการทำช่องข่าวต่ำกว่าช่องรายการประเภทวาไรตี้และการแข่งขันมีความรุนแรงน้อยกว่า นอกจากนี้ NBC ยังเป็นผู้นำทีวีช่องข่าว 24 ชั่วโมงมาโดยตลอดตั้งแต่ก่อนจะเกิดทีวีดิจิทัล

     - MFEC(เมย์แบงก์กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้า10.90บาท คาดกำไร 4Q57 เติบโตสูง 54% QoQ และ 58% YoY และเติบโตต่อปี 2558 อีก 18% YoY ขณะที่เป็นหุ้นขนาดเล็กที่ได้อานิสงค์เชิงบวกจากนโยบาย Digital Economy ของภาครัฐใน 2-4 ปี ข้างหน้า ซึ่งยังไม่รวมในประมาณการ และคาดว่าจะสร้างการเติบโตของกำไรสูงกว่าที่เราคาดไว้ได้ พร้อมทั้งผลตอบแทนจากเงินปันผล 6-7% ต่อปี ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER 2558 ต่ำเพียง 10 เท่า

       - KTB(เคจีไอฯ)"ซื้อ"เป้า27บาท อัตราการเติบโตของยอดสินเชื่อเดือนพ.ย.เด่นสุดในกลุ่มฯ (+3% MoM และ +8% YTD ขณะที่ภาพรวมกลุ่มฯโตเพียง 1% MoM และ 3% YTD) คาดงบเบิกจ่ายภาครัฐฯจะเริ่มมากขึ้นในปี 2558 เป็นบวกต่อ KTB และValuation น่าสนใจด้วย PBV 1.2 เท่า (ค่าเฉลี่ย PBV ในอดีต 1.3 เท่า)

     - SPALI(เอเซียพลัส)"ซื้อ"เป้า31.96บาท คาดปี 58 ยังคงเป็นปีทองของ SPALI หลังได้รับเลือกเข้า SET50 โดยมีปัจจัยหนุนจากยอด Backlog 3.87 หมื่นล้านบาท สูงเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม ซึ่งรองรับรายได้ปีหน้าแล้ว 74%

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงเช้านี้ หลังตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยตลาดหุ้นญี่ปุ่นอ่อนตัวลงในการซื้อขายวันสุดท้ายของปี ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลง

     ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) ลดลง 0.1% สู่ระดับ 138.25 จุด เมื่อเวลา 9.01 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,702.12 จุด ลดลง 27.72 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,853.13 จุด เพิ่มขึ้น 79.95 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,299.10 จุด เพิ่มขึ้น 12.82 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,934.51 จุด เพิ่มขึ้น 6.65 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,370.77 จุด เพิ่มขึ้น 3.08 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,765.80 จุด ลดลง 2.61 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : หุ้นเหมืองหนุนฟุตซี่ปิดบวก 23.58 จุด ขณะจับตากรีซ

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับขึ้นต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมือง ขณะที่มีความวุ่นวายทางการเมืองในกรีซ ซึ่งทำให้มีความวิตกเกี่ยวกับอนาคตของยูโรโซน

       ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 23.58 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 6,633.51 จุด

      หุ้นกลุ่มเหมืองนำตลาดปรับตัวขึ้น โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตันและหุ้นริโอ ทินโต กรุ๊ปต่างพุ่งขึ้นกว่า 2%

    ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังคงจับตาดูสถานการณ์ทางการเมืองในกรีซ หลังจากรัฐสภากรีซไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศได้สำเร็จในการลงคะแนนเสียงแบบขานชื่อ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 และเป็นรอบสุดท้าย โดยมีการถ่ายทอดผ่านทางโทรทัศน์เมื่อวานนี้

    ภาวการณ์ดังกล่าวส่งผลให้กรีซต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งทำให้มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับแนวโน้มทางการเมืองของประเทศ รวมทั้งความเป็นเอกภาพของการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจในยูโรโซนด้วย

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นสินค้าโภคภัณฑ์พุ่ง หนุนหุ้นยุโรปปิดบวก

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากตลาดได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศกรีซ หลังจากมีรายงานว่ารัฐสภากรีซยังไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศได้

   ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.1% ปิดที่ 344.27 จุด

      ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,317.93 จุด เพิ่มขึ้น 22.08 จุด, +0.51% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,927.13 จุด เพิ่มขึ้น 5.02 จุด, +0.05%ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,633.51 จุด เพิ่มขึ้น 23.58 จุด, +0.36%

    หุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น และช่วยหนุนดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดในแดนบวก โดยหุ้นริโอทินโต พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปรับขึ้น 2.8%

     ส่วนหุ้นกลุ่มธุรกิจเฮลธ์แคร์ดีดตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นโนโว นอร์ดิค พุ่งขึ้น 1.4% หลังจากคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐได้อนุมัติให้วางจำหน่ายยา Saxenda ซึ่งเป็นยาควบคุมน้ำหนัก

     อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นยุโรปได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศกรีซ หลังจากรัฐสภากรีซไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศได้สำเร็จในการลงคะแนนเสียงแบบขานชื่อ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 และเป็นรอบสุดท้ายในวันนี้

    ทั้งนี้ ความล้มเหลวดังกล่าว จะส่งผลให้กรีซต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดในช่วงปลายเดือนมกราคม หรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ตามรัฐธรรมนูญของประเทศ

    สำหรับ ข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยุโรปที่จะมีการเปิดเผยในวันอังคารนั้น รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของอิตาลีเดือนธ.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยในเวลา 16.00 น.ตามเวลาไทย และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของอิตาลีเดือนพ.ย.ซึ่งจะมีการเปิดเผยในเวลา 17.00 น.ตามเวลาไทย

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 15.48 จุด เหตุวิตกการเมืองกรีซ

   ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ธ.ค.) ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ซบเซา เนื่องจากนักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงช่วงปลายปี นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองในประเทศกรีซ

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,038.23 จุด ลดลง 15.48 จุด หรือ -0.09% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,090.57 จุด เพิ่มขึ้น 1.80 จุด หรือ +0.09% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,806.91 จุด เพิ่มขึ้น 0.05 จุด หรือ +0.00%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศกรีซ หลังจากมีรางานว่ารัฐสภากรีซไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ของประเทศได้สำเร็จในการลงคะแนนเสียงแบบขานชื่อ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 3 และเป็นรอบสุดท้ายในวันนี้ ซึ่งความล้มเหลวดังกล่าว จะส่งผลให้กรีซต้องจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนดในช่วงปลายเดือนมกราคม หรือต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ตามรัฐธรรมนูญของประเทศ

    สถานการณ์ทางการเมืองของกรีซเป็นที่จับตาของตลาดการเงิน หลังจากที่นายกรัฐมนตรี แอนโทนิส ซามาราส เดิมพันอนาคตทางการเมืองด้วยการประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ว่า รัฐสภากรีซจะลงคะแนนเสียงเลือกประธานาธิบดีคนใหม่เร็วกว่ากำหนดการเดิมสองเดือน ซึ่งหากรัฐสภาไม่สามารถเลือกประธานาธิบดีคนใหม่ได้ นายซามาราสก็จำเป็นที่จะต้องประกาศจัดการเลือกตั้งทั่วไปก่อนกำหนด ซึ่งมีแนวโน้มว่าพรรคไซรีซา ซึ่งต่อต้านการรัดเข็มขัด จะคว้าชัยชนะ อันอาจนำไปสู่การผ่อนปรนนโยบายรัดเข็มขัดและยกเลิกการปฏิรูปแผนการคลังของกรีซ และจะเพิ่มความเสี่ยงต่อสถานะการเงินของประเทศ

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนชะลอการซื้อขายก่อนที่จะถึงช่วงปลายปี หลังจากที่ตลาดปิดบวกติดต่อกันหลายวันทำการก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากถ้อยแถลงในการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ว่า เฟดสามารถ "อดทน" รอต่อไปได้อีก ในการปรับนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

     หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้น แม้ว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลงก็ตาม ส่วนหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง นำโดยหุ้นไอบีเอ็ม หุ้นอินเทล และหุ้นไมโครซอฟท์ ที่ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 0.9%

    นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันอังคาร รวมถึงราคาบ้านของสหรัฐเดือนต.ค.จากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนธ.ค.จาก Conference Board

                        อินโฟเควสท์ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!