Details

Category: หุ้นเด่นวันนี้

Published: Tuesday, 13 January 2015 11:03

Hits: 2325

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซต์เวย์ อิงขาลงตามตลาดตปท.-น้ำมันลงกดดัน

     นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยเช้านี้น่าจะแกว่งตัวไซต์เวย์ โดยอาจจะมีปัจจัยลบจากตลาดหุ้นต่างประเทศ อย่างสหรัฐฯที่ปรับลดลง และราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งยังมีผลกระทบต่อหุ้นกลุ่มพลังงานอยู่

     ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศ มองว่าอยู่ในช่วงของการประกาศผลประกอบการไตรมาส 4/57 และการประกาศแผนการดำเนินงานในปี 58 ซึ่งน่าจะเริ่มเห็นบริษัทจดทะเบียนไทยทยอยปรับแผนกันในช่วงนี้

    อย่างไรก็ตาม กรณีที่โกลด์แมน แซคส์ ได้ออกมากล่าวถึงการเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ว่าอาจจะเติบโตไม่เป็นไปตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์ ที่มองว่าจะอยู่ที่ราว 3% เป็นปัจจัยกดดันตลาดหุ้นในอีกประเด็นหนึ่ง

     พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,520 จุด แนวต้าน 1,540 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(12 ม.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,640.84 จุด ลดลง 96.53 จุด(-0.54%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,664.71 จุด ลดลง 39.36 จุด(-0.84%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,028.26 จุด ลดลง 16.55 จุด(-0.81%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 15.53 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ลดลง 5.92 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.78 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 10.83 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 8.54 จุด และดัชนี NIKEI ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 226.85 จุด

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(12 ม.ค.58)1,531.21 จุด เพิ่มขึ้น 1.79 จุด(+0.12%)

       - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,371.96 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 ม.ค.58

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(12 ม.ค.58) ปิดที่ 46.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.29 ดอลลาร์

       - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(12 ม.ค.58)ที่ 6.63 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

       - เงินบาทเปิด 32.85/87 คาดวันนี้แกว่งแคบตามภูมิภาค ยังไร้ปัจจัยใหม่หนุน

        - "บิ๊กตู่" จิบน้ำชา 25 องค์กรชื่นมื่น รับข้อเสนอฟื้น ศก.เพียบ แนะอย่าตั้งเป้าสูง-ปรับเปลี่ยนบ่อยกระทบเชื่อมั่น หอค้าไทยติงงบประมาณสุดอืดจี้เร่งเบิกจ่าย ชะลอขึ้นแวตไม่มีกำหนด

       - แฉเงื่อนงำ ขสมก.ลดราคากลางรถแอร์ ประมูลรถเมล์ NGV เหลือ 3.65 ล้านบาท/คัน จากเดิม 4.5 ล้านบาท ต่ำเกินจริง จับตาไม่มีเอกชนกล้ายื่นแข่งขันเหตุทำไม่ได้จริง สุดท้ายอ้างเหตุ ล้มประมูลขอใช้ราคาเดิม 4.5 ล้าน เพื่อเหลือส่วนต่างกลับเข้าระบบ หัวคิว เงินทอนตามเดิม ขบวนการดิสเครดิตองค์กรอิสระไม่ให้เข้ามาตรวจสอบทุจริตอีก

      - "พรเพชร" แนะ "ยิ่งลักษณ์" ผู้แถลงเปิดคดีควรมาตอบข้อซักถาม ปมปล่อยโกงจำนำข้าว ลั่นตามหลักการไม่มาถือ ว่าไม่ถูกต้อง เย้ยถ้าเอา"มือปืนรับจ้าง" มาตอบแทนจะเชื่อถือได้อย่างไร รับไม่สบายใจหลัง สนช.แสดงความเห็นส่วนตัวปมถอดถอน "นิคม-สมศักดิ์-ยิ่งลักษณ์" ยัน คสช.ไร้ใบสั่ง "สุวพันธุ์" ไม่กังวลคดีถอดถอน"ยิ่งลักษณ์" ระบุหากพิจารณาตามข้อกฎหมาย ทุกอย่างเดินหน้าได้

     - ปลัดพณ. รุกหนัก เดินหน้าแจ้งจับคู่สัญญา "โครงการ รับจำนำข้าว" หลังสร้างความเสียหายกว่า 6.5 หมื่นล้านบาท รับลูก "คสช." ส่งสัญญาณให้หาผู้รับผิดชอบ ทั้งแพ่ง-อาญา หลังคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวพบมีข้าวดีเพียง 12 เปอร์เซ็นต์จาก 17 ล้านตัน

        - วันแรกร่าง 25 มาตรา แก้ใหม่ 'ม.7' ให้ดาบศาลรธน.ชี้ขาด ประชุม 8 ชม.แขวน 2 ปม สปช.ลบชื่อนักการเมืองเรียกเป็นนักพัฒนาปชต. 'ทีมกม.ปู' ยื่นถามสนช.แจงขั้นตอนซักถอดถอน วงประชุม กมธ.ยกร่าง รธน.รายมาตรา เสนอเพิ่มวรรคสองในมาตรา 7 แก้ปัญหาการเมืองมักไปอ้างหาข้อยุติไม่ได้ เสนอให้ศาล รธน.ทำหน้าที่ชี้ขาด ปธ.สนช.ชี้ 'ยิ่งลักษณ์' ควรตอบข้อซักถามเอง อย่าใช้มือปืนรับจ้าง

*หุ้นเด่นวันนี้

      - RS(ธนชาต)"ซื้อ"เป้าหมาย 25 บาท แผนธุรกิจปี 58 บริษัทคงมีมุมมอง bullish ต่อการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจ ผลักดันโดยธุรกิจช่องทีวีดิจิตอล(ช่อง 8)มองว่าการปรับเพิ่มอัตราค่าโฆษณาใน 1Q15 เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับแผนทั้งปี และทำให้เรามั่นใจว่า RS จะได้รับประโยชน์จากการ re-rate จากฐานที่ต่ำ

       - TISCO(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อ"เป้าหมาย 50 บาท ผลประกอบการ 4Q57 ขยายตัว 13%QoQ และ 54%YoY เป็น 1.2 พันล้านบาท ดีกว่าที่เราคาด 26% เนื่องมาจากการตั้งสำรองที่ต่ำกว่าคาด โดยผลประกอบการทั้งปีทรงตัวจากปีที่แล้วอยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท คาดรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยสุทธิ พร้อมคุณภาพสินทรัพย์จะปรับตัวดีขึ้น พร้อมระดับการตั้งสำรองที่ลดลง

      - CPF(เคทีบี)"ซื้อ"เป้าหมาย 31.40 บาท แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวในปี 57 และจะเติบโตต่อเนื่องหลังธุรกิจสัตว์น้ำกลับมาฟื้นตัว คาดการณ์ผลประกอบการปี 58 เติบโตต่อเนื่อง กำไรปกติอยู่ที่ 11,928 ล้านบาท เติบโตกว่า 23.3% YoY รายได้จะสามารถเติบโตต่อเนื่องที่ระดับ 11.4% YoY gross margin สูงขึ้นอยู่ที่ 13.8% จากการเริ่มฟื้นตัวของธุรกิจสัตว์น้ำ ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยมีแนวโน้มลดลงตามปริมาณหนี้สินที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงเช้านี้ เหตุวิตกราคาน้ำมันร่วงลงต่อเนื่อง

      ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันเงินเยนที่แข็งค่าก็ฉุดตลาดหุ้นโตเกียวอ่อนตัวลง

    ดัชนี MSCI Asia Pacific Index (MXAP) หดตัวลง 0.4% สู่ระดับ 137.32 จุด เมื่อเวลา 9.01 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 16,970.88 จุด ลดลง 226.85 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,223.54 จุด ลดลง 5.78 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 23,908.23 จุด ลดลง 118.23 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,162.77 จุด ลดลง 15.53 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,915.03 จุด ลดลง 5.92 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,334.06 จุด ลดลง 10.83 จุด

   ส่วนดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,358.53 จุด เพิ่มขึ้น 0.17 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,726.54 จุด ลดลง 8.54 จุด

     ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อการ่วงลงของราคาน้ำมัน โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 2.29 ดอลลาร์ ปิดที่ 46.07 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ หลังจากโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ตลาด NYMEX ลงสู่ระดับ 47.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากคาดการณ์เดิมที่ 73.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในปีหน้า ลงเหลือ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวกเพียงเล็กน้อย ขณะยังวิตกราคาน้ำมัน

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเพียงเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) ขณะที่หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นได้ช่วยให้หนุนตลาด หลังจากที่ราคาน้ำมันที่ร่วงลงได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน

     ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 0.28 จุด หรือ 0.00% ปิดที่ 6,501.42 จุด

    ตลาดปรับตัวขึ้นไม่มากนัก เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ลดลงต่อเนื่อง หลังจากที่โกลด์แมน แซคส์และวาณิชธนกิจรายอื่นๆอีกหลายรายต่างประเมินว่าราคาน้ำมันมีแนวโน้มจะยังคงปรับตัวในช่วงขาลงในระยะยาว

   โกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 2558 ลง โดยได้ลดการคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ตลาด NYMEX ลงสู่ระดับ 47.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากคาดการณ์เดิมที่ 73.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

    หุ้นกลุ่มเหมืองและกลุ่มพลังงานถ่วงตลาดลง โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นริโอ ทินโต ต่างร่วงลงกว่า 1.8% ขณะที่หุ้นบีจี กรุ๊ป และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ อ่อนแรงลง 1.3%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก หลังหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ดีดขึ้น

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นวันแรกในรอบ 4 วันทำการ เพราะได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์และตลาดหุ้นกรีซ

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.6% ปิดที่ 339.87 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,228.24 จุด เพิ่มขึ้น 49.17 จุด หรือ +1.18% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,781.90 จุด เพิ่มขึ้น 133.40 จุด หรือ +1.38% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,501.42 จุด เพิ่มขึ้น 0.28 จุด หรือ +0.00%

    ตลาดหุ้นยุโรปปรับฐานขึ้น หลังจากที่ร่วงลงเป็นเวลาหลายวันก่อนหน้านี้ โดยตลาดได้รับปัจจัยบวกจากดัชนี ASE ตลาดหุ้นกรีซที่ทะยานขึ้น 3.8% ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเลือกตั้งทั่วประเทศของกรีซในวันที่ 25 ม.ค.นี้

    อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจความคิดเห็นล่าสุดของหนังสือพิมพ์วีมา ทรีบูนระบุว่า พรรคไซรีซา ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านและต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด ยังคงมีคะแนนนำเหนือพรรคนิวเดโมเครซี (ND) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล ด้านนักวิเคราะห์คาดว่าหากพรรคไซรีซาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ก็อาจส่งผลให้กรีซเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้และต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกยูโรโซน เนื่องจากพรรคไซรีซาต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด

    หุ้นกลุ่มเวชภัณฑ์ทะยานขึ้นและช่วยหนุนดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นด้วย โดยหุ้นโรช โฮลดิงส์ ปรับขึ้น 1.6% หลังจากโรชตกลงซื้อหุ้นมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ในบริษัทฟาวเดชัน เมดิซีน ขณะที่หุ้นฮิคมา ฟาร์มาซูติคอล พุ่งขึ้น 4.3%

     หุ้นสายการบินดอยช์ ลุฟฮันซา ปรับตัวขึ้น 1.7% หลังจากบริษัทคาดการณ์ว่าต้นทุนเชื้อเพลิงจะลดลงราว 900 ล้านยูโรในปีนี้ หรือลดลง 13%

    นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเงินเฟ้อของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป  (อียู) โดยยูโรสแตทจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค. 2557 ของอียูในวันศุกร์นี้ เวลา 17.00 น.ตามเวลาไทย

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: แรงขายหุ้นพลังงาน ทุบดาวโจนส์ปิดลบ 96.53 จุด

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากน้ำมันดิบร่วงลงเกือบ 3 ดอลลาร์ ภายหลังจากที่โกลด์แมน แซคส์ ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมัน

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,640.84 จุด ลดลง 96.53 จุด หรือ -0.54% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,664.71 จุด ลดลง 39.36 จุด หรือ  -0.84% ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดวันทำการล่าสุดที่ 2,028.26 จุด ลดลง 16.55 จุด หรือ -0.81%

     หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง 2.8% ซึ่งปรับตัวลงหนักสุดในบรรดาหุ้น 10 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P 500 หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กดิ่งลงเกือบ 3 ดอลลาร์ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล และหุ้นเชฟรอน ต่างก็ร่วงลงกว่า 1.9% ขณะที่หุ้นทรานส์โอเชียน ดิ่งลง 3.7% และหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ ร่วงลง 3.9%

    ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงหลังจากโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ตลาด NYMEX ลงสู่ระดับ 47.15 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากคาดการณ์เดิมที่ 73.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และยังได้ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในปีหน้า ลงเหลือ 65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

   หุ้นอัลโค อิงค์ ปรับตัวขึ้น 1.2% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2557 อยู่ที่ 33 เซนต์ ขณะที่รายได้พุ่งขึ้น 14% สู่ระดับ 6.4 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

   นักลงทุนจับตาดูผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐสัปดาห์นี้ รวมถึงเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค, เวลส์ ฟาร์โก และซิตี้กรุ๊ป

   นักวิเคราะห์คาดว่า กำไรของบริษัทในดัชนี S&P 500 จะเพิ่มขึ้นเพียง 2% ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว และจะอยู่ที่ 2.8% ในไตรมาสนี้ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวลดลงจาก 8.1%  และ 9.2% ที่มีการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ในเดือนต.ค.2014 โดยสาเหตุที่ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรครั้งนี้มาจากการร่วงลงของราคาน้ำมัน

    นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้เช่นกัน รวมถึงยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกจิเดือนพ.ย.,  รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนธ.ค.,การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนม.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน

                อินโฟเควสท์