WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นขึ้นตามตปท.ยังเก็ง ECB ออก QE-งบ บจ.,น้ำมันรีบาวด์

    นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่จะปรับตัวขึ้นได้ในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ยกเว้นตลาดญี่ปุ่นที่ติดลบเล็กน้อย ขณะที่ตลาดสหรัฐฯ รวมถึงตลาดในยุโรปต่างก็ปรับตัวขึ้น ภายหลังจากที่มีความคาดหวังว่าทางธนาคารกลางยุโรป(ECB)จะออกมาตรการ QE โดยอาจจะมีอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบประมาณ 5 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยทาง ECB จะมีการประชุมใน 22 ม.ค.

    นอกจากนี้ อาจจะมีแรงซื้อเข้ามาจากความคาดหวังผลประกอบการในปี 57 ของบริษัทจดทะเบียน ดังนั้น ตลาดฯน่าจะปรับตัวขึ้นได้ด้วย 2 ปัจจัยดังกล่าว รวมทั้งเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบก็มีการรีบาวด์ขึ้นมาด้วย พร้อมให้แนวรับ 1,530 จุด ส่วนแนวต้าน 1,540-1,550 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(21 ม.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,554.28 จุด เพิ่มขึ้น 39.05 จุด(+0.22%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,667.42 จุด เพิ่มขึ้น 12.57 จุด(+0.27%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,032.12 จุด เพิ่มขึ้น 9.57 จุด(+0.47%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 26.16 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 127.44 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 3.71 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 17.10 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.78 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 2.26 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.35 จุด

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(21 ม.ค.58)1,537.36 จุด เพิ่มขึ้น 2.27 จุด(+0.15%)

       - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 884.55 ล้านบาท เมื่อวันที่ 21 ม.ค.58

        - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(21 ม.ค.58) ปิดที่ 47.78 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์

      - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(21 ม.ค.58)ที่ 7.94 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

      - เงินบาทเปิด 32.59/60 ทิศทางแข็งค่าตามภูมิภาค

     - แบงก์ชาติรับค่าบาทแข็งค่าเร็ว จากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินโลก เตือนประกอบการทำป้องเสี่ยงค่าเงิน ย้ำเกาะติดสถานการณ์ใกล้ชิด ดูแลให้อัตราแลกเปลี่ยนมีเสถียรภาพ ด้านสแตนชาร์ดฯ ฟันธง "อีซีบี" ทำคิวอี หลังได้ไฟเขียวไม่ผิดกฎหมายหวังพยุงเศรษฐกิจยุโรปฟื้น

     - ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กำลังจับตาการเคลื่อนย้ายเงินทุนหลังจากธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ยกเลิกกำหนดเพดานค่าเงินฟรังก์ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ในวันที่ 22 ม.ค. จะประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มปริมาณเงิน (คิวอี) หรือไม่

     - รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมมือทางด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟของประเทศไทย ระหว่างไทยกับจีนว่า ที่ประชุมได้ข้อสรุปร่วมกันในจัดทำแผนกำหนดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ขนาดมาตรฐาน 1.435 เมตร (รถไฟกึ่งความเร็วสูง) ระยะทาง 873 กม. งบลงทุนกว่า 3.92 แสนล้านบาท ว่าจะมีการแบ่งแผนก่อสร้างเป็น 4 ช่วง ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-แก่งคอย ระยะทาง 133 กม. ช่วงที่ 2 แก่งคอย-มาบตาพุด ระยะทาง 246.5 กม. ช่วงที่ 3 แก่งคอย-นครราชสีมา ระยะทาง 138.5 กม. และช่วงที่ 4 นครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 355 กม. โดยจะใช้เงินลงทุนจากประเทศจีนเป็นหลัก

     - สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ผลสำรวจความเชื่อมั่นของภาคอุตสาหกรรมไทยในเดือน ธ.ค.57 อยู่ที่ระดับ 92.7 เพิ่มขึ้นจากระดับ 89.7 ในเดือน พ.ย.สูงสุดในรอบ 14 เดือน เนื่องจากปัจจัยคำสั่งซื้อและยอดขายในประเทศที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเทศกาลปีใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมแฟชั่น อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งราคาพลังงานที่ ปรับตัวลดลงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนให้ต้นทุนการผลิตและค่าขนส่งลดลงด้วย

     - ราคาทองคำพุ่ง รออีซีบีใช้คิวอีกระตุ้นเศรษฐกิจ "เอสพีดีอาร์" ตะลุยซื้อทองคำกว่า 12 ตัน นักวิเคราะห์มอง ราคาทองคำมีทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง หลังความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกเพิ่มขึ้น

     - สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2558 ตั้งแต่เดือน ต.ค.-ธ.ค. 2557 จัดเก็บได้ 5.06 แสนล้านบาท สูงกว่าเป้า 5,131 ล้านบาท หรือ 1% และสูงกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 0.7% เนื่องจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจ 46,756 ล้านบาท สูงกว่าเป้า 14,969 ล้านบาท รวมทั้งหน่วยงานอื่นจัดเก็บรายได้รวมสูงกว่าเป้า 8,029 ล้านบาท หรือจัดเก็บได้ 54,820 ล้านบาท

*หุ้นเด่นวันนี้

      - BECL ควบ BMCL(ฟินันเซีย ไซรัส)win-win ทุกฝ่าย โดยจะตั้งบริษัทใหม่เข้ามาอยู่ในตลาดฯแทน และจะกลืนธุรกิจของ BECL และ BMCL เข้าด้วยกัน ผู้ถือหุ้นของทั้งสองบริษัทสามารถเอาหุ้นไปแลกเป็นบริษัทใหม่ ในอัตราส่วน 1 BECL : 8.65537841 บริษัทใหม่ หรือ 1 BMCL : 0.42050530 บริษัทใหม่ การกำหนดสัดส่วนที่แน่นอนทำให้ราคาหุ้นทั้ง BECL และ BMCL จะวิ่งล้อกันในที่สุด ในอัตราประมาณ 20.58 BMCL = 1 BECL หุ้นของบริษัทมีความน่าสนใจเพราะมีรายได้ทั้ง 2 ทาง ฐานะการเงินแข็งแรงเพราะ BMCL จะล้างขาดทุนสะสมก่อนควบรวม และได้ใช้เงินของ BECL ทำส่วนต่อขยาย ส่วน CK ไม่ต้องแบกภาระเพิ่มทุนให้กับ BMCL ในวันข้างหน้า

      - CK(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 33 บาท ขายหุ้นไซยะบุรีที่ถือทั้งหมด 30% ให้ CKP เป็นมูลค่ารวม 4.34 พันล้านบาท คาดว่าจะได้กำไรประมาณ 3 พันล้านบาท และบันทึกใน 2H15 หากผู้ถือหุ้นอนุมัติ (ประชุม 9 เม.ย.) ขณะเดียวกัน CK ต้องเพิ่มทุนใน CKP (เพิ่มทุน 1:034 @3 บาท) 1.68 พันล้านบาท ส่วนการควบรวมของ BMCL และ BECL จะช่วยให้ฐานะการเงินและการขยายการลงทุนทำได้ง่ายขึ้น และจะส่งต่อผลดำเนินงานที่ดีมาให้กับ CK ซึ่งเป็นบริษัทแม่

       - KTB(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 26.60 บาทแจ้งกำไรปี 57 เท่ากับ 3.4 หมื่นลบ. ลดลง 2%yoy และต่ำกว่าคาด 4% จากการตั้งสำรองหนี้สูญที่สูงกว่าคาด 5% ไม่มีเงินปันผลจากกองทุนวายุภักษ์ และกำไรจากการขายคืนกองทุนรวมวายุภักษ์ รวม 2 รายการรวม 4.9 พันลบ.ที่เกิดในปี 56 สินเชื่อเติบโต 10.9% สูงที่สุดในกลุ่มแบงก์ คุณภาพสินเชื่อดีขึ้นโดยมีอัตราส่วนหนี้ NPL ต่อสินเชื่อรวมลดลงเหลือ 1.34%

       - TRUE(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 14.60 บาท ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่ใน 4Q57 ที่คาดว่าผลประกอบการจะพลิกเป็นกำไรสุทธิได้ราว 1-1.5 พันล้านบาท เนื่องจากจะมีการบันทึกกำไรพิเศษการโอนเสาโทรคมนาคมราว 2,000 ต้นให้กับ TRUEIF และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ตั้งแต่ 4Q57 เป็นต้นไป โดยฐานะการเงินแข็งแกร่งโดย Net DE  ลดลงเหลือเพียง 0.4 เท่า จะสะท้อนผ่านผลประกอบการปี 2558 ให้พลิกเป็นกำไรปกติ 1.29 หมื่นล้านบาท และหุ้นกลุ่มสื่อสารมี Catalyst คือการประมูล 4G ที่รออยู่ในช่วงต้น 3Q57 อีกทั้งมีแผนขายสินทรัพย์เพิ่มเติมให้กับ TRUEIF

ตลาดหุ้นเอเชียเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขณะนักลงทุนจับตาผลประชุมอีซีบี

     ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนรอดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,306.64 จุด เพิ่มขึ้น 26.16 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,480.02 จุด เพิ่มขึ้น 127.44 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,336.81 จุด เพิ่มขึ้น 17.10 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,926.01 จุด เพิ่มขึ้น 4.78 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,352.20 จุด ลดลง 2.26 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,767.74 จุด ลดลง 2.35 จุด

    ทั้งนี้ มีกระแสคาดการณ์ว่าอีซีบีจะประกาศใช้มาตรการ QE ครั้งใหญ่ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ โดยหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล คาดการณ์ว่า คณะกรรมการบริหารของอีซีบีจะเสนอให้ทำการซื้อพันธบัตรจำนวน 5 หมื่นล้านยูโร (5.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อเดือน เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวจะมีมูลค่าอย่างน้อย 6 แสนล้านยูโร

   ตัวเลขคาดการณ์ของวอลล์สตรีท เจอร์นัลออกมาสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าอีซีบีจะใช้วงเงินซื้อพันธบัตรราว 5 แสนล้านยูโร หรือสูงกว่า โดยผลการสำรวจเมื่อไม่นานมานี้ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี จะประกาศใช้มาตรการ QE ด้วยการซื้อพันธบัตรในวงเงิน 5.50 แสนล้านยูโร (6.35 แสนล้านดอลลาร์) ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นวงเงินที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดเงินฝืด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 107.94 จุด คาดอีซีบีใช้ QE เพิ่มเติม

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) ขานรับคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE เพิ่มเติมในการประชุมกำหนดนโยบายในวันนี้

    ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 107.94 จุด หรือ 1.63% ปิดที่ 6,728.04 จุด

    การประชุมของอีซีบีในวันนี้นับเป็นเหตุการณ์สำคัญที่นักลงทุนต่างก็จับตาดู โดยอีซีบีมีกำหนดจะแถลงมติการประชุมในเวลา 19.45 น.วันนี้ ตามเวลาไทย

     ตลาดได้รับแรงหนุน ขณะที่หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่า คณะกรรมการบริหารของอีซีบี จะเสนอให้ทำการซื้อพันธบัตรจำนวน 5 หมื่นล้านยูโร (5.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อเดือน เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวจะมีมูลค่าอย่างน้อย 6 แสนล้านยูโร ซึ่งสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าอีซีบีจะใช้วงเงินราว 5 แสนล้านยูโร หรือสูงกว่าในการซื้อพันธบัตร

    ส่วนแหล่งข่าวในยูโรโซนคาดว่าอีซีบีจะเสนอให้ทำการซื้อพันธบัตรจำนวน 5 หมื่นล้านยูโร (5.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อเดือน โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมี.ค.

    ทั้งนี้ กระแสข่าวเกี่ยวกับระยะเวลาในการซื้อพันธบัตรยังคงมีความแตกต่างกัน โดยหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานว่าอีซีบีจะซื้อพันธบัตรเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี ขณะที่สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าการซื้อพันธบัตรจะดำเนินไปจนถึงสิ้นปีหน้า

    หากอีซีบี ซื้อพันธบัตรเป็นเวลา 1 ปี ก็จะใช้เงินราว 6 แสนล้านยูโร  แต่ถ้าหากเป็นเวลา 2 ปี ก็จะใช้เงินมากกว่า 1 ล้านล้านยูโร

    หุ้นเพียร์สัน พุ่ง 4.9% หลังผลประกอบการรายปีสูงกว่าคาดการณ์ ส่วนหุ้นเออาร์เอ็ม โฮลดิงส์ ปรับขึ้นกว่า 2% เนื่องจากโบรกเกอร์หลายรายแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นของบริษัท

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก จากคาดการณ์ ECB ใช้ QE ครั้งใหญ่

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ครั้งใหญ่ ในการประชุมวันนี้ เพื่อหนุนเศรษฐกิจและรับมือกับภาวะเงินฝืดในยูโรโซน

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.61% ปิดที่ 358.12 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,484.82 จุด เพิ่มขึ้น 38.80 จุด หรือ +0.87% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,299.23 จุด เพิ่มขึ้น 42.10 จุด หรือ +0.41% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,728.04 จุด เพิ่มขึ้น 107.94 จุด หรือ +1.63%

    ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปยังคงได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า อีซีบีจะใช้มาตรการ QE ครั้งใหญ่ด้วยการเข้าซื้อพันธบัตรมูลค่ามหาศาลในการประชุมวันนี้ โดยล่าสุดหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล ระบุว่าคณะกรรมการบริหารของอีซีบีจะเสนอให้ทำการซื้อพันธบัตรจำนวน 5 หมื่นล้านยูโร (5.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อเดือน เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวจะมีมูลค่าอย่างน้อย 6 แสนล้านยูโร

     ด้านนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า อีซีบีจะประกาศใช้มาตรการ QE ด้วยการซื้อพันธบัตรในวงเงิน 5.50 แสนล้านยูโร (6.35 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นวงเงินที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดเงินฝืด

     นอกเหนือจากการประชุมอีซีบีในวันนี้แล้ว นักลงทุนยังจับตาดูผลการเลือกตั้งของกรีซในวันอาทิตย์นี้ ขณะที่ผลการสำรวจส่วนใหญ่ระบุว่า พรรคไซรีซา ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านและต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด ยังคงมีคะแนนนำเหนือพรรคนิวเดโมเครซี (ND) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาล

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 39.05 จุด รับคาดการณ์ ECB ใช้ QE ครั้งใหญ่

     ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ครั้งใหญ่ ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,554.28 จุด เพิ่มขึ้น 39.05 จุด หรือ +0.22% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,667.42 จุด เพิ่มขึ้น 12.57 จุด หรือ +0.27% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,032.12 จุด เพิ่มขึ้น 9.57 จุด หรือ +0.47%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นขานรับกระแสคาดการณ์ที่ว่า อีซีบีจะประกาศใช้มาตรการ QE ครั้งใหญ่ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ โดยหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล คาดการณ์ว่า คณะกรรมการบริหารของอีซีบีจะเสนอให้ทำการซื้อพันธบัตรจำนวน 5 หมื่นล้านยูโร (5.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ต่อเดือน เป็นเวลาอย่างน้อย 1 ปี ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าวจะมีมูลค่าอย่างน้อย 6 แสนล้านยูโร

     ตัวเลขคาดการณ์ของวอลล์สตรีท เจอร์นัลออกมาสอดคล้องกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่าอีซีบีจะใช้วงเงินซื้อพันธบัตรราว 5 แสนล้านยูโร หรือสูงกว่า โดยผลการสำรวจเมื่อไม่นานมานี้ระบุว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี จะประกาศใช้มาตรการ QE ด้วยการซื้อพันธบัตรในวงเงิน 5.50 แสนล้านยูโร (6.35 แสนล้านดอลลาร์) ในการประชุมครั้งนี้ ซึ่งเป็นวงเงินที่สูงเป็นประวัติการณ์ โดยมีเป้าหมายที่จะสกัดเงินฝืด

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านเพิ่มขึ้น 4.4% สู่ระดับ 1.09 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. ขณะที่เดือนพ.ย.อยู่ที่ 1.04 ล้านยูนิต

    หุ้นอีเบย์พุ่งขึ้น 3% ขานรับข่าวที่ว่า อีเบย์เตรียมลดจำนวนพนักงานลง 2,400 ตำแหน่งทั่วโลกในไตรมาสแรกปีนี้ ซึ่งคิดเป็น 7% ของตัวเลขจ้างงานทั้งหมดในองค์กร โดยอีเบย์มีเป้าหมายที่จะปรับโครงสร้างธุรกิจ

    หุ้นอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ (IBM) ร่วงลง 3.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาส 4/2557 ที่น้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

      หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ร่วงลง 2.1% หลังจากมีรายงานว่าทางบริษัทจะลดจำนวนพนักงานลงกว่า 4,000 คนในปีนี้ ตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจ

      นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนม.ค., ยอดขายบ้านมือสองเดือนธ.ค. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนธ.ค.จาก Conference Board

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 21 ม.ค.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,554.28 จุด                         เพิ่มขึ้น 39.05 จุด      +0.22%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,667.42 จุด                      เพิ่มขึ้น 12.57 จุด      +0.27%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,032.12 จุด                       เพิ่มขึ้น 9.57 จุด       +0.47%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,728.04 จุด                   เพิ่มขึ้น 107.94 จุด     +1.63%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,299.23 จุด                           เพิ่มขึ้น 42.10 จุด      +0.41%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,484.82 จุด                        เพิ่มขึ้น 38.80 จุด      +0.87%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,367.40 จุด     เพิ่มขึ้น 80.60 จุด      +1.52%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,393.40 จุด           เพิ่มขึ้น 85.70 จุด      +1.61%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,319.71 จุด                           เพิ่มขึ้น 68.02 จุด      +0.74%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,280.48 จุด                     ลดลง 85.82 จุด       -0.49%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,921.23 จุด                        เพิ่มขึ้น 2.92 จุด       +0.15%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,323.61 จุด                     เพิ่มขึ้น 150.56 จุด     +4.74%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,474.10 จุด             เพิ่มขึ้น 21.29 จุด      +0.29%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,352.58 จุด                              เพิ่มขึ้น 401.42 จุด     +1.68%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,215.27 จุด     เพิ่มขึ้น 49.18 จุด      +0.95%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,770.09 จุด                      เพิ่มขึ้น 19.98 จุด      +1.14%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,354.46 จุด                      เพิ่มขึ้น 20.44 จุด      +0.61%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,888.86 จุด                        เพิ่มขึ้น 104.19 จุด     +0.36%

           

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ครั้งใหญ่ ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,554.28 จุด เพิ่มขึ้น 39.05 จุด หรือ +0.22% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,667.42 จุด เพิ่มขึ้น 12.57 จุด หรือ +0.27% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,032.12 จุด เพิ่มขึ้น 9.57 จุด หรือ +0.47%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากตลาดได้รับปัจจัยหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ครั้งใหญ่ ในการประชุมวันนี้ เพื่อหนุนเศรษฐกิจและรับมือกับภาวะเงินฝืดในยูโรโซน

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.61% ปิดที่ 358.12 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,484.82 จุด เพิ่มขึ้น 38.80 จุด หรือ +0.87% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,299.23 จุด เพิ่มขึ้น 42.10 จุด หรือ +0.41% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,728.04 จุด เพิ่มขึ้น 107.94 จุด หรือ +1.63%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นต่อเนื่องเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) ขานรับคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ QE เพิ่มเติมในการประชุมกำหนดนโยบายในวันนี้

          ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 107.94 จุด หรือ 1.63% ปิดที่ 6,728.04 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนได้เข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันร่วงลงเมื่อวานนี้ อันเนื่องมาจากข่าวกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.31 ดอลลาร์ ปิดที่ 47.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

          ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 49.03  ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาทองคำปิดบวกติดต่อกัน 7 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะรับทราบผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี)

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.ลดลง 50 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่  1,293.70  ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 23.7 เซนต์ ปิดที่ 18.193 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 10.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,276.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 สัปดาห์เมื่อเทียบยูโรเมื่อคืนนี้ (21 ม.ค.) ก่อนที่จะลดช่วงติดลบลง ขณะที่นักลงทุนรอดูการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันนี้

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1591 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1549 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5124 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5158 ดอลลาร์

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.94 เยน เทียบกับระดับ 118.81 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.8605 ฟรังก์ จาก 0.8790 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8089 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8176 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 770.00 จุด เพิ่มขึ้น 17.00 จุด, +2.26%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!