WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าปรับขึ้น เล็งแรงหนุนจากราคาน้ำมันขึ้นต่อ-คลายกังวลกรีซ

     นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวขึ้นไปต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ และมีโอกาสที่จะขึ้นทำ New High ในรอบเกือบ 2 ปีได้ด้วย หลัก ๆ มาจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวขึ้นและสามารถยืนเหนือระดับ 53 เหรียญฯ/บาร์เรลได้ ซึ่งก็จะช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงานต่อไป

   นอกจากนี้ บริษัทน้ำมันโลกได้มีการปรับลดงบการลงทุนลง ทำให้คาดว่าการผลิตน้ำมันจะลดลง ส่วนกรีซก็มีการคลายกังวลหลังจากที่รัฐมนตรีคลังไม่ต้องการที่จะขอลดหนี้ แต่ต้องการที่จะเจรจา ดังนั้นจึงเชื่อว่ากรีซจะยังอยู่ในยูโรโซนต่อไป และคาดว่าจะเจรจาหนี้ได้ ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างปรับตัวขึ้นกันทั่วหน้า

พร้อมให้แนวรับ 1,590-1,592 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

    ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(3 ก.พ.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,666.40 จุด พุ่งขึ้น 305.36 จุด(+1.76%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,727.74 จุด เพิ่มขึ้น 51.05 จุด(+1.09%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,050.03 จุด เพิ่มขึ้น 29.18 จุด(+1.44%)

  - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 213.45 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 7.91 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 195.98 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 28.79 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 11.41 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.26 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 33.46 จุด

    - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(3 ก.พ.58) 1,602.54 จุด เพิ่มขึ้น 19.84 จุด(+1.25%)

    - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,213.25 ล้านบาท เมื่อวันที่ 3 ก.พ.58

    - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(3 ก.พ.58) ปิดที่ 53.05 ดอลลาร์/บาร์เรล พุ่งขึ้น 3.48 ดอลลาร์

    - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(3 ก.พ.58)ที่ 7.50 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

    - เงินบาทเปิด 32.58/60 แนวโน้มผันผวนหลังมีปัจจัยกระทบทิศทางทั้งสองด้าน

    - กกร.เรียกร้องธปท.ดูแลค่าบาท หลังค่าเงินแข็งค่าต่อเนื่อง หวั่นกระทบส่งออก เหตุค่าเงินแข็งกว่าคู่แข่ง นัดหารือ 11 ก.พ.นี้ ขณะ"ปรีดิยาธร"ค้านลดดอกเบี้ย ยันไม่ช่วยค่าเงิน ขณะแบงก์ชาติส่งจดหมายเปิดผนึกถึง"สมหมาย"แจงเงินเฟ้อติดลบ ยันดอกเบี้ยเหมาะสมดูแลเศรษฐกิจ

   - ไทย-ญี่ปุ่น เตรียมแถลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ 9 ก.พ. ครอบคลุมพัฒนาอุตสาหกรรม ระบบราง และดึงญี่ปุ่นพัฒนาทวาย ขณะ "เคดันเรน" หารือกระทรวงอุตสาหกรรม ด้าน "จักรมณฑ์" มั่นใจปีนี้เห็นนักลงทุนญี่ปุ่นเข้าไทยเพิ่ม เผยญี่ปุ่นเสนอรัฐบาลปรับแผนบีโอไอ

   - ครม.บิ๊กตู่ ไฟเขียวเพิ่มงบก่อสร้างรถไฟสายสีแดง(บางซื่อ-รังสิต)อีกกว่า 8.1 พันล.ตามเนื้องานที่เพิ่มขึ้น"ประจิน"จี้ร.ฟ.ท.เร่งก่อสร้างหลังล่าช้าแล้ว 1 ปี ขณะที่ ร.ฟ.ท.-ปตท.ได้ข้อยุติ เช่าที่ดินสนง.ใหญ่ จ่ายเงิน 800 ล.พร้อมก่อสร้างที่พักพนักงานให้ พร้อมเห็นชอบ"พีระยุทธ"นั่งผู้ว่าฯรฟม.คนใหม่

     - อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า เดือน ม.ค.2558 ซึ่งเป็นเดือนที่ 4 ของปีงบประมาณ 2558 กรมจัดเก็บภาษีได้เกินเป้า 4,400 ล้านบาท เนื่องจากเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันเกินเป้าถึงกว่า 5,000 ล้านบาท รวมทั้งภาษีเครื่องดื่มทั้งสุรา เบียร์ และยาสูบ เก็บได้เกินเป้า ส่วนหนึ่งมาจากผู้ค้าผลิตเตรียมไว้ต้อนรับเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลตรุษจีน อย่างไรก็ตามภาษีสรรพสามิตรถยนต์ยังเก็บได้ต่ำกว่าเป้า 1,200 ล้านบาท ถือว่าการขายรถยนต์ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด

    - 'ประจิน'เผยรัฐบาลลาวพร้อมเดินหน้าก่อสร้างรถไฟทางคู่รางมาตรฐาน วอนไทย-จีนเดินหน้าโครงการคู่ขนานปลายปี'58 หวังเชื่อม 3 ประเทศภายใน 5 ปี ด้านผู้ว่าการรถไฟคนใหม่ เข้าทำงานวันแรก ประกาศเดินหน้าก่อสร้างรถไฟทางคู่ตามนโยบายรัฐบาล

*หุ้นเด่นวันนี้

     - PTT(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 380 บาท บอร์ดมีมติขายหุ้น BCP 15% ให้กองทุนวายุภักษ์ ส่วนอีก 12% เจรจาขายให้กับผู้สนใจรายอื่น คาดได้เงินกว่า 1 หมื่นล้านบาท และจะสรุปการขายหุ้นใน 1Q58 ประเมินต้นทุนอยู่ที่ 26.59 บาท/หุ้น ถ้าเทียบกับมูลค่าขาย 1 หมื่นล้านบาทก็มีกำไรน้อยมาก คาดมูลค่าขายที่ 1.2-1.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมีกำไรหลังภาษีเท่ากับ 0.57-0.85 บาท/หุ้น คิดเป็น 1.8-2.7% ของ EPS – PTT ในปี 58สำหรับผู้สนใจซื้อหุ้น BCP มีหลายกลุ่ม เช่น กลุ่ม TTA, กลุ่มอดีตผู้บริหาร &พนักงานบางจาก เป็นต้น และระยะสั้นมากมีปัจจัยกระตุ้นจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดขึ้นแรงด้วย

      - INTUCH(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 108 บาท จากกำไรปกติที่คาดว่าจะเติบโต 16% Y-Y ในปีนี้ โตสูงสุดในรอบ 3 ปี และคาดโตต่อเนื่อง 24% Y-Y ปี 2016 จากกำไรที่อยู่ในทิศทางขาขึ้นของ ADVANC และ THCOM และคาดปันผลงวด 2H14 หุ้นละ 2.33 บาท (yield 2.8%)

      - CSS(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 9.5 บาท(ไม่รวม M&A)การขยายตัวทางธุรกิจในช่วง 3 ปีน่าจับตามอง ช่วง 2 ปีนี้ธุรกิจติดตั้งเสาโทรศัพท์มือถือ 3G และ 4G(ที่จะประมูลใน 3Q15)ยังเป็นพระเอกผลักดันกำไร ขณะที่ธุรกิจโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ที่ร่วมทุนพาร์ทเนอร์ได้สัญญาแล้ว 10.2MW ในญี่ปุ่น และมีแนวโน้มเพิ่มในอนาคตทั้งในญี่ปุ่นและไทยเข้ามาเสริมกำไรตั้งแต่ 4Q15 และมีนัยสำคัญมากขึ้นในปีหน้า ยคาดกำไรปี 57 โต 112% และโตต่อเนื่อง 42% ในปีนี้ และมีโอกาสสูงกว่าคาด หากเพิ่มารติดตั้งเสาโทรคมฯทางลัดโดยการซื้อกิจการนอกตลาด

     - SPALI(โกลเบล็กซ์)"ซื้อ"เป้า 32.20 บาท คาดกำไร Q4/14 สูงสุดในรอบปีจากยอดโอนราว 6.8 พันลบ. และทั้งปีคาดกำไร 3.7-3.8 พันลบ.(+30% YoY),เป้ายอดจองปี 58 ที่ 2.3 หมื่นลบ.มีแผนเปิดโครงใหม่ 3.07 หมื่นลบ.(+ 11% YoY )เน้นกทม.มียอดขายรอโอนเกือบ 1.8 หมื่นลบ.คิดเป็น 80% และGross margin สูงสุดในกลุ่มอสังหาฯราว 40% อีกทั้งปี 58 จะเป็นปีที่ดีเป็นประวัติการณ์เป้ารายได้ 2.2 หมื่นล้านบาท มีคอนโดมิเนียม 6 โครงการที่จะทยอยโอนต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี

ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นเช้านี้ ขานรับราคาน้ำมันดิบพุ่ง

    ตลาดหุ้นเอเชียดีดตัวขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยบวกจากการเพิ่มขึ้นของหุ้นกลุ่มวัสดุและพลังงาน หลังจากที่สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 3.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.05 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อคืนนี้

   ดัชนี  MSCI Asia Pacific ทะยาน 0.8% แตะที่ 140.97 จุด เมื่อเวลา 9.01 น.ตามเวลาโตเกียว

   ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,549.30 จุด เพิ่มขึ้น 213.45 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,212.82 จุด เพิ่มขึ้น 7.91 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,750.76 จุด เพิ่มขึ้น 195.98 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,477.52 จุด เพิ่มขึ้น 28.79 จุด

   ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,963.37 จุด เพิ่มขึ้น 11.41 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,420.28 จุด เพิ่มขึ้น 12.26 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,814.72 จุด เพิ่มขึ้น 33.46 จุด

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 3.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.05 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า บริษัทพลังงานหลายแห่งได้ปรับลดการลงทุนด้านการผลิตน้ำมัน หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ข่าวเจรจาหนี้กรีซ,หุ้นพลังงานหนุนฟุตซี่ปิดบวก 89.25 จุด

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขณะหุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นต่อเนื่อง ตามการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังคลายวิตกเกี่ยวกับกรีซ หลังจากการเจรจาปัญหาหนี้สินของกรีซส่งสัญญาณในเชิงบวก

     ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 89.25 จุด หรือ 1.32% ปิดที่ 6,871.80 จุด

     ตลาดได้รับปัจจัยบวก หลังจากนายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังของกรีซกล่าวที่กรุงลอนดอนว่า รัฐบาลใหม่ของกรีซจะไม่ขอให้เจ้าหนี้ลดมูลค่าหนี้ลง แต่จะเสนอทางเลือกอื่นๆ ซึ่งรวมถึงการสว็อปพันธบัตรกับฝ่ายเจ้าหนี้ โดยจะแลกเปลี่ยนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และรัฐบาลประเทศอื่นๆถือครองอยู่นั้น ให้เป็นพันธบัตรที่มีผลตอบแทนอิงกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และพันธบัตรประเภท Perpetual bonds ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อมีผลกำไร และไม่มีการสะสมดอกเบี้ยจ่าย

     ความคิดเห็นของรัฐมนตรีคลังกรีซได้ช่วยผ่อนคลายความกังวลของตลาดเกี่ยวกับความไร้เสถียรภาพในยูโรโซน และส่งผลให้ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้น

     ส่วนหุ้นกลุ่มน้ำมันที่ปรับตัวแข็งแกร่งตามราคาน้ำมันในตลาดโลก ก็ได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นลอนดอนด้วย โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้น 5.4% ขณะที่หุ้นกลุ่มเหมืองอย่างหุ้นเกลนคอร์ และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ต่างก็ทะยานขึ้นกว่า 5%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับข่าวเจรจาหนี้กรีซคืบหน้า

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ) เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลชุดใหม่ของกรีซมีท่าทีอ่อนลงต่อการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ โดยที่กรีซจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้ ซึ่งความคืบหน้าดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า กรีซอาจจะไม่เผชิญกับปัญหาหนี้สินจนถึงกับต้องถูกบีบให้ออกจากกลุ่มยูโรโซน

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.8% ปิดที่ 370.28 จุด

      ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,677.90 จุด เพิ่มขึ้น 50.23 จุด หรือ +1.09% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,890.95 จุด เพิ่มขึ้น 62.94 จุด หรือ +0.58% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,871.80 จุด เพิ่มขึ้น 89.25 จุด หรือ +1.32%

     ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกจากการที่นักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า รัฐบาลชุดใหม่ของกรีซมีท่าทีอ่อนลงต่อการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ โดยจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้ แต่จะเปลี่ยนเป็นการยื่นข้อเสนอปรับโครงสร้างหนี้

     นายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังกรีซ กล่าวว่า กรีซจะไม่ขอให้เจ้าหนี้ลดมูลค่าหนี้ลง ขณะที่กรีซจะยื่นข้อเสนอสว็อปพันธบัตรกับฝ่ายเจ้าหนี้ โดยจะแลกเปลี่ยนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และรัฐบาลประเทศอื่นๆถือครองอยู่นั้น ให้เป็นพันธบัตรที่มีผลตอบแทนอิงกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และพันธบัตรประเภท Perpetual bonds ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อมีผลกำไร และไม่มีการสะสมดอกเบี้ยจ่าย

    หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มเหมืองแร่ทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดในบรรดาหุ้นที่คำนวณในดัชนี Stoxx 600 โดยหุ้นโททาล และหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ พุ่งขึ้นกว่า 2.7% ส่วนหุ้นบีพีปรับตัวขึ้น 2.8% ขณะที่หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นอันโตฟากัสตา พุ่งขึ้น 5%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 305.36 จุด รับข่าวเจรจาหนี้กรีซ

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาหนี้ของรัฐบาลกรีซชุดใหม่ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ

   ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,666.40 จุด พุ่งขึ้น 305.36 จุด หรือ +1.76% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,050.03 จุด เพิ่มขึ้น 29.18 จุด หรือ +1.44% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,727.74 จุด เพิ่มขึ้น 51.05 จุด หรือ +1.09%

  ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นขานรับข่าวที่ว่า รัฐบาลชุดใหม่ของกรีซมีท่าทีอ่อนลงต่อการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ โดยจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้ โดยกรีซยื่นข้อเสนอปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่

   นายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังกรีซ กล่าวว่า กรีซจะไม่ขอให้เจ้าหนี้ลดมูลค่าหนี้ลง ขณะที่กรีซจะยื่นข้อเสนอสว็อปพันธบัตรกับฝ่ายเจ้าหนี้ โดยจะแลกเปลี่ยนพันธบัตรของรัฐบาลกรีซที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และรัฐบาลประเทศอื่นๆถือครองอยู่นั้น ให้เป็นพันธบัตรที่มีผลตอบแทนอิงกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และพันธบัตรประเภท Perpetual bonds ซึ่งจะจ่ายดอกเบี้ยเมื่อมีผลกำไร และไม่มีการสะสมดอกเบี้ยจ่าย

   นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงานที่พุ่งขึ้น 2.78% โดยหุ้นเอ็กซอนโมบิล และหุ้นเชฟรอน ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 3% หลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 7% อันเนื่องมาจากรายงานที่ว่า บริษัทพลังงานหลายแห่งวานแผนที่จะปรับลดการลงทุนในปีนี้

   หุ้นเลนดิง คลับ ทะยานขึ้น 5.35% หลังจากบริษัทประกาศเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับอาลีบาบา เพื่อจัดหาเงินกู้ให้กับธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐ เพื่อให้ธุรกิจเหล่านี้สามารถซื้อสินค้าจากซัพพลายเออร์ของจีนได้อย่างคล่องตัว ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นอาลีบาบา ดีดตัวขึ้น 0.53%

  หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ปรับตัวขึ้น 2.63% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้น 18% ในเดือนม.ค. สู่ระดับ 202,786 คัน ซึ่งเป็นยอดขายที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบ 7 ปี

   หุ้นยูไนเต็ด พาร์เซล เซอร์วิส (UPS) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งบรรจุภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐ ขยับขึ้น 0.44% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2557 อยู่ที่ 1.25 ดอลลาร์ ซึ่งทรงตัวจากไตรมาส 4/2556

   ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐที่มีการเปิดเผยล่าสุดนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐลดลงเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในเดือนธ.ค. โดยลดลง 3.4% ขณะที่อุปสงค์ร่วงลงในวงกว้างในภาคอุตสาหกรรม หลังจากที่ลดลง 1.7% ในเดือนพ.ย.

   นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.จาก ADP, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการเดือนม.ค., ดัชนีภาคบริการเดือนม.ค.จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM), ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ประสิทธิภาพการผลิต-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 4/2557 และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 ก.พ.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,666.40 จุด                        เพิ่มขึ้น 305.36 จุด     +1.76%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,727.74 จุด                    เพิ่มขึ้น 51.05 จุด      +1.09%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,050.03 จุด                      เพิ่มขึ้น 29.18 จุด      +1.44%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,871.80 จุด                  เพิ่มขึ้น 89.25 จุด      +1.32%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,890.95 จุด                          เพิ่มขึ้น 62.94 จุด      +0.58%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,677.90 จุด                       เพิ่มขึ้น 50.23 จุด      +1.09%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,666.20 จุด    เพิ่มขึ้น 79.70 จุด      +1.43%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,707.40 จุด          เพิ่มขึ้น 82.10 จุด      +1.46%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,448.73 จุด                          เพิ่มขึ้น 61.74 จุด      +0.66%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,335.85 จุด                   ลดลง 222.19 จุด      -1.27%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,951.96 จุด                       ลดลง 0.72 จุด        -0.04%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,204.91 จุด                   เพิ่มขึ้น 76.61 จุด      +2.45%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,613.15 จุด          ลดลง 17.56 จุด       -0.23%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,554.78 จุด                            เพิ่มขึ้น 70.04 จุด      +0.29%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,291.72 จุด   เพิ่มขึ้น 15.48 จุด      +0.29%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,408.02 จุด                    ลดลง 15.33 จุด       -0.45%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 29,000.14 จุด                      ลดลง 122.13 จุด      -0.42%           

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาหนี้ของรัฐบาลกรีซชุดใหม่ ซึ่งข่าวดังกล่าวช่วยให้ตลาดคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบ

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,666.40 จุด พุ่งขึ้น 305.36 จุด หรือ +1.76% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,050.03 จุด เพิ่มขึ้น 29.18 จุด หรือ +1.44% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,727.74 จุด เพิ่มขึ้น 51.05 จุด หรือ +1.09%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ) เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่ารัฐบาลชุดใหม่ของกรีซมีท่าทีอ่อนลงต่อการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้ โดยที่กรีซจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้ ซึ่งความคืบหน้าดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า กรีซอาจจะไม่เผชิญกับปัญหาหนี้สินจนถึงกับต้องถูกบีบให้ออกจากกลุ่มยูโรโซน 

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.8% ปิดที่ 370.28 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,677.90 จุด เพิ่มขึ้น 50.23 จุด หรือ +1.09% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,890.95 จุด เพิ่มขึ้น 62.94 จุด หรือ +0.58% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,871.80 จุด เพิ่มขึ้น 89.25 จุด หรือ +1.32%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขณะหุ้นกลุ่มพลังงานทะยานขึ้นต่อเนื่อง ตามการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังคลายวิตกเกี่ยวกับกรีซ หลังจากการเจรจาปัญหาหนี้สินของกรีซส่งสัญญาณในเชิงบวก

          ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 89.25 จุด หรือ 1.32% ปิดที่ 6,871.80 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) หลังจากมีรายงานว่า บริษัทพลังงานหลายแห่งได้ปรับลดการลงทุนด้านการผลิตน้ำมัน หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.พุ่งขึ้น 3.48 ดอลลาร์ ปิดที่ 53.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน พุ่งขึ้น 3.16 ดอลลาร์ ปิดที่ 57.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย และหันไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ ขานรับความคืบหน้าในการเจรจาหนี้ของกรีซ

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 16.6 ดอลลาร์ หรือ 1.30% ปิดที่ระดับ 1,260.30 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7 เซนต์ ปิดที่ 17.321 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 6.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,235.20 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) ขณะที่รัฐบาลใหม่ของกรีซมีท่าทีอ่อนลงในการเจรจาประเด็นหนี้สินของประเทศ โดยได้ยื่นข้อเสนอในการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่ และจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1490 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1346 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5165 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5037 ดอลลาร์

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.56 เยน เทียบกับระดับ 117.23 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9224 ฟรังก์ จาก 0.9283 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7808 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7805 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 577.00 จุด ลดลง 13.00 จุด, -2.20%

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!