WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าปรับตัวลง-เล็งกลุ่มน้ำมัน-ปิโตรฯฉุดหลังราคาน้ำมันร่วง

    นายชัยพร น้อมพิทักษ์ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงแต่ไม่แรงคาดว่าจะอยู่ในกรอบราว 1% เนื่องจากอาจไดั้รับแรงขายจากหุ้นในกลุ่มน้ำมันหลังจากที่ได้ขึ้นไปแรงเมื่อ 3-4 วันที่ผ่านมา และเมื่อวานนี้ราคาน้ำมัน WTI ได้ปรับตัวกว่า 8% ดังนั้นคงจะมี impact ต่อหุ้นน้ำมันและหุ้นในกลุ่ม PTT พอควรไม่มากก็น้อย โดยตลาดฯวันนี้อาจจะโดนหุ้นในกลุ่มน้ำมันและปิโตรเคมีดึงลงได้

     อย่างไรก็ดี การที่จีนได้มีการลดการตั้งสำรองฯของธนาคารพาณิชย์ในจีนทำให้เป็นผลดีต่อแบงก์ในจีนที่จะมี room ในการปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบเฉลี่ย 0.5%

     พร้อมให้แนวรับ 1,580-1,585 จุด ส่วนแนวต้าน 1,610-1,615 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(4 ก.พ.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,673.02 จุด เพิ่มขึ้น 6.62 จุด(+0.04%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,716.70 จุด ลดลง 11.04 จุด(-0.23%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,041.51 จุด ลดลง 8.52 จุด(-0.42%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 89.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 368.50 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 77.08 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 2.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 1.64 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 2.66 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.77 จุด

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(4 ก.พ.58) 1,599.81 จุด ลดลง 2.73 จุด(-0.17%)

     - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,351.33 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ก.พ.58

     - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(4 ก.พ.58) ปิดที่ 48.45 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 4.60 ดอลลาร์

     - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(4 ก.พ.58)ที่ 8.18 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

     - เงินบาทเปิด 32.62/63 แนวโน้มแกว่งในกรอบ 32.55-32.65 ยังไม่มีปัจจัยใหม่

      - "ศุภวุฒิ"ชี้ไทยเสี่ยงเผชิญปัญหาเงินเฟ้อติดลบช่วงต้นปีนี้ กดดันแบงก์ชาติลดดอกเบี้ย "เครดิตสวิสกรุ๊ป"ระบุไทยเข้าข่ายเงินฝืดทางเทคนิค, "ไอเอ็มเอฟ"หั่นจีดีพีไทยเหลือ 3.5% วิตกเสถียรภาพทางการเมือง การส่งออก และการบริโภคชะลอตัว

       - จีนย้ำความสำคัญไทย-จีน เผย ปี 57 มูลค่าการค้ารวมกว่า 2 ล้านล้านบาท แม้ไทยเกิดปัญหาเศรษฐกิจ ระบุ 5 ปี มีแผนลงทุนต่างประเทศ 5 แสนล้านดอลลาร์ ด้านภาคเอกชนหวังความร่วมมือ 2 ประเทศ ดันจีดีพีพุ่ง 6% แนะดึงความพร้อมด้านเงินทุน เทคโนโลยี ชี้อนาคตจีนเน้นอุตสาหกรรมหนัก เปิดทางเอสเอ็มอีเจาะตลาด

     - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงการประชุมหน่วยงานเศรษฐกิจเพื่อติดตามนโยบายและการดำเนินงาน  เมื่อวันที่ 4 ก.พ. 2558 ว่า ได้นำตัวเลขเศรษฐกิจมาพิจารณา  ซึ่งเห็นว่าติดลบมากคือเรื่องท่องเที่ยวและการค้าขาย โดยเชื่อว่าเศรษฐกิจในปี 2558 จะดีขึ้น แต่การแก้ปัญหาต้องดูภาพรวม พยายามแก้ทุกภาคส่วน

    - "พาณิชย์" เสนอนายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ยกระดับการส่งออกเป็นวาระแห่งชาติ ยันไม่ลดเป้าส่งออกปีนี้ 4% แม้หลายหน่วยงานลดแล้ว พร้อมเดินหน้าดันการค้าชายแดนไทย-เพื่อนบ้านปีนี้ให้ได้ 1.5 ล้านล้านบาท เผย "ฉัตรชัย" เตรียมถกห้างสัปดาห์หน้า ขอความร่วมมือลดต้นทุนให้ผู้ค้าอาหารในฟูดคอร์ตหลังประชาชนร้องเรียนราคาแพงเกินจริง

    - นายวิรไท สันติประภพ หนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)เผยปัญหาอัตราเงินเฟ้อต่ำ และเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้หลายประเทศจำเป็นต้องลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง สำหรับไทย ที่ประชุม กนง.ได้หยิบยกสถานการณ์ดังกล่าวมาหารือ และเห็นตรงกันว่า ต้องติดตามทิศทางดอกเบี้ยในตลาดโลกอย่างใกล้ชิด

    - "พสุ โลหารชุน" อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เผยปีนี้ได้ตั้งเป้าหมายจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักรตามโครงการแปลงเครื่องจักรเป็นทุนของ ผู้ประกอบการอีก 8,000 เครื่อง เพิ่มขึ้น 15% คิดเป็นวงเงินจำนอง 375,000 ล้านบาท จากปี 2557 ที่มียอดจดทะเบียนกรรมสิทธิ์เครื่องจักร 14,182 เครื่อง โดยกรมจะเร่งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการโรงงานต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ให้เข้าร่วมโครงการมากขึ้น เพื่อนำกรรมสิทธิ์เครื่องจักรไปจำนองกับสถาบันการเงิน นำเงินทุนมาหมุนเวียนธุรกิจได้อีกช่องทางหนึ่ง โดยเฉพาะปีนี้ ผู้ประกอบการจะมีการลงทุนในการขยายธุรกิจมากขึ้น ตามคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่จะขยายตัว 4%

*หุ้นเด่นวันนี้

     - MINT(ดีบีเอส วิคเคอร์สฯ)"ซื้อ"เป้า 41 บาท มีการกระจายความเสี่ยงของธุรกิจที่ดีทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และทำเล คาดกำไรสุทธิปี 58 เติบโต 24% โดยมาจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรมและอาหาร ซึ่งเริ่มเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นของธุรกิจโรงแรมตั้งแต่ 4Q57 แล้ว ส่วนอาหารคาดว่าจะเติบโตดีขึ้นใน 1Q58 ส่วนที่ประกาศลงทุนซื้อธุรกิจโรงแรมเพิ่มที่บราซิลและโปรตุเกสชื่อ Tivoli ในจำนวนห้องพัก 1,685 ห้อง เงินลงทุน 6.56 พันล้านบาท เงินลงทุนมาจากการกู้ยืมที่มีต้นทุนการเงิน ต่ำเพียง 3% ในเบื้องต้นคาดว่า 2 โรงแรมนี้จะสร้างผลกำไรให้ MINT เพิ่มขึ้นราว 5-6% (หลังหักดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มขึ้นแล้ว)

     - PACE(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 4 บาท คาดว่าตั้งแต่ปี 58 เป็นต้นไปจะเริ่มกลับมามีกำไร เพราะมีการโอน 2 โครงการต่อเนื่องคือ มหานครและมหาสมุทร และปี 60 จะเริ่มโอนคอนโดใหม่ที่หลังสวน โดยชอบบริษัทในประเด็นการฟื้นตัวสูง และมีจุดขายสินค้าที่ล้ำสมัย ส่วนความเสี่ยงคือ การใช้เงินกู้สูงระหว่างที่ลงทุน

      - PTT(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 398 บาท ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว คาด 4Q57F ขาดทุน 2.5 หมื่นล้านบาท

      - CSS(ทรีนีตี้)"ซื้อ"เป้า 10.18 บาท อานิสงส์ Digital Economy เสา 3G ขยายฐานธุรกิจพลังงาน

      - ADVANC(โกลเบล็ก)ราคา Consensus สูงสุดที่ 309  บาท คาดกำไร 4Q57 เติบโตจากรายได้บริการด้าน Non-voice ที่เพิ่มขึ้นสูง รวมถึงรายได้จากการขายมือถือ iPhone6 , ได้ประโยชน์จากภาครัฐเร่งผลักดันประมูล 4G ในช่วงต้นปี 2558 (ม.ค.-ก.พ. 2558) และ Dividend yield ระดับสูงราว 5 – 6 %

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงเช้านี้ เหตุวิตกสถานการณ์กรีซ

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเงินของกรีซ ซึ่งอาจเป็นชนวนที่ทำให้เกิดความวุ่นวายในยูโรโซน

   ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.2% แตะ 141.61 จุด เมื่อเวลา 9.24 น.ตามเวลาโตเกียว

   ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,589.21 จุด ลดลง 89.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 25,048.26 จุด เพิ่มขึ้น 368.50 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,511.06 จุด ลดลง 2.86 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,961.15 จุด ลดลง 1.64 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,414.91 จุด ลดลง 2.66 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,803.79 จุด เพิ่มขึ้น 0.77 จุด

    ก่อนหน้านี้ การเจรจาประเด็นหนี้สินของกรีซมีแนวโน้มในเชิงบวก เมื่อรัฐบาลใหม่ของกรีซได้ยื่นข้อเสนอในการปรับโครงสร้างหนี้ครั้งใหม่ และจะไม่ขอลดมูลค่าหนี้

    อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ไม่ยอมรับการนำพันธบัตรกรีซเพื่อมาใช้ระดมทุนครั้งใหม่ เนื่องจากพันธบัตรของรัฐบาลกรีซอยู่ในระดับ “ขยะ" (junk) ซึ่งอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำของ ECB

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดลบ 11.78 จุด หลังหุ้นกลุ่มโภคภัณฑ์ร่วง

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ตลอดจนผลประกอบการที่น่าผิดหวังจากภาคเอกชน

    ดัชนี FTSE 100 ลดลง 11.78 จุด หรือ 1.17% ปิดที่ 6,860.02 จุด

    ในช่วงแรกหุ้นกลุ่มเหมืองพุ่งขึ้น หลังธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% ของเงินฝากธนาคาร ในความพยายามที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว แต่การปรับตัวขึ้นเป็นไปในช่วงสั้นๆ และในเวลาต่อมา หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นแองโกล อเมริกัน ต่างร่วงลงเกือบ 2%

   หุ้นฮาร์กรีฟส์ แลนส์ดาวน์ ดิ่งลง 7.56% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าผลกำไรก่อนหักภาษีลดลงในช่วงครึ่งปีแรก

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับเจรจาหนี้กรีซคืบหน้า

   ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาปัญหาหนี้ของกรีซ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และตลาดหุ้นกรีซ

   ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 372.1 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,696.30 จุด เพิ่มขึ้น 18.40 จุด หรือ +0.39% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,911.32 จุด เพิ่มขึ้น 20.37 จุด หรือ +0.19% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,860.02 จุด ลดลง 11.78 จุด หรือ -0.17%

    ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นขานรับความคืบหน้าในการเจรจาปัญหาหนี้กรีซ โดยล่าสุดนายยานิส วารูเฟกิส รมว.คลังกรีซ เปิดเผยว่า การเจรจากับนายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) และผู้นำของสหภาพยุโรป (EU) นั้น เป็นไปด้วยดี นอกจากนี้ นายวารูเฟกิสยังได้แสดงความเชื่อมั่นว่า กรีซจะสามารถทำงานร่วมกับนานาประเทศเพื่อบรรลุข้อตกลงในการปรับโครงสร้างหนี้

    ด้านนางแองเจลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน ยืนยันว่า ปัญหาหนี้ของกรีซจะไม่สร้างความแตกแยกในยูโรโซน โดยท่าทีของประเทศสมาชิกจะไม่ส่งผลต่อเอกภาพของกลุ่มประเทศดังกล่าว พร้อมกับแสดงความคาดหวังว่า การพบปะกับนายกรัฐมนตรีกรีซในการประชุมสัปดาห์หน้านั้น จะเป็นไปด้วยดี

    ทั้งนี้ ข่าวความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยหนุนดัชนี ASE ตลาดหุ้นกรีซปรับตัวขึ้น 0.9%

    หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ปรับตัวขึ้น นำโดยหุ้นโรช พุ่งขึ้น 2.6% และหุ้นโนวาร์ติส ทะยานขึ้นกว่า 2%

   หุ้นหลุยส์ วิตตอง โมเอต์ เฮนเนสซี่ (LVMH) พุ่งขึ้น 8.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์บวกเพียง 6.62 จุด ขณะตลาดวิตกราคาน้ำมันร่วง

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) เพราะได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,673.02 จุด เพิ่มขึ้น 6.62 จุด หรือ +0.04% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,716.70 จุด ลดลง 11.04 จุด หรือ -0.23% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,041.51 จุด ลดลง 8.52 จุด หรือ -0.42%

   ดัชนี ดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นปิดในแดนบวก หลังจากบริษัทบางแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่สดใส รวมถึงบริษัทโซนีที่ระบุว่า ยอดขาดทุนสุทธิในปี 2557 อาจจะอยู่ที่ 1.7 แสนล้านเยน ซึ่งน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 2.3 แสนล้านเยน ทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นโซนีพุ่งขึ้น 10.90%

  ขณะที่วอลท์ ดีสนีย์รายงานว่า กำไรต่อหุ้นรายไตรมาสที่สิ้นสุดวันที่ 27 ธ.ค. 2557 เพิ่มขึ้น 23% แตะที่ 1.27 ดอลลาร์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้านั้นที่ 1.03 ดอลลาร์ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นวอลท์ ดีสนีย์ พุ่งขึ้น 7.63%

   นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากข่าวที่ว่า ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 0.5% ของเงินฝากธนาคาร  โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว

   อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน เพราะตลาดได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงรุนแรงกว่า 4 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ รวมทั้งรายงานที่ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 213,000 รายในเดือนม.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 240,000 ราย

  นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนธ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ประสิทธิภาพการผลิต-ต้นทุนแรงงานต่อหน่วยเบื้องต้นในไตรมาส 4/2557 และตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,673.02 จุด เพิ่มขึ้น 6.62 จุด, +0.04%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,716.70 จุด ลดลง 11.04 จุด, -0.23%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,041.51 จุด ลดลง 8.52 จุด, -0.42%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,696.30 จุด เพิ่มขึ้น 18.40 จุด, +0.39%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,911.32 จุด เพิ่มขึ้น 20.37 จุด, +0.19%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,860.02 จุด ลดลง 11.78 จุด, -0.17%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,883.11 จุด ลดลง 117.03 จุด, -0.40%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,417.57 จุด เพิ่มขึ้น 9.55 จุด, +0.28%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,803.02 จุด เพิ่มขึ้น 21.76 จุด, +1.22%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,315.28 จุด เพิ่มขึ้น 23.56 จุด, +0.45%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,679.76 จุด เพิ่มขึ้น 124.98 จุด, +0.51%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,716.06 จุด เพิ่มขึ้น 102.91 จุด, +1.35%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดวันนี้ที่ 3,174.13 จุด ลดลง 30.78 จุด, -0.96%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,962.79 จุด เพิ่มขึ้น 10.83 จุด, +0.55%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,678.74 จุด เพิ่มขึ้น 342.89 จุด, +1.98%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,513.92 จุด เพิ่มขึ้น 65.19 จุด, +0.69%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,777.30 จุด เพิ่มขึ้น 69.90 จุด, +1.22%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) เพราะได้ปัจจัยบวกจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เพราะได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างหนัก หลังจากสหรัฐเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,673.02 จุด เพิ่มขึ้น 6.62 จุด หรือ +0.04% ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,716.70 จุด ลดลง 11.04 จุด หรือ -0.23% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,041.51 จุด ลดลง 8.52 จุด หรือ -0.42%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) ทำสถิติปิดบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เพราะได้แรงหนุนจากข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับการเจรจาปัญหาหนี้ของกรีซ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับปัจจัยบวกจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และตลาดหุ้นกรีซ

          ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.5% ปิดที่ 372.1 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,696.30 จุด เพิ่มขึ้น 18.40 จุด หรือ +0.39% ดัชนีDAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,911.32 จุด เพิ่มขึ้น 20.37 จุด หรือ +0.19% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,860.02 จุด ลดลง 11.78 จุด หรือ -0.17%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) โดยได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ ตลอดจนผลประกอบการที่น่าผิดหวังจากภาคเอกชน

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 11.78 จุด หรือ 1.17% ปิดที่ 6,860.02 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงเกินไป

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 4.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 48.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน ดิ่งลง 3.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.16 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) เพราะได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่าธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและหนุนสภาพคล่องภายในประเทศ 

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 4.2 ดอลลาร์ หรือ 0.33% ปิดที่ระดับ 1,264.50 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.4 เซนต์ ปิดที่ 17.395 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,238.90 ดอลลาร์/ออนซ์

สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนนี้ (4 ก.พ.) เนื่องจากกรีซเผชิญแรงกดดันรอบใหม่ หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ระบุว่าจะไม่ยอมรับการใช้พันธบัตรรัฐบาลกรีซมาเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันเงินกู้ของธนาคารกลาง

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1418 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1487 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5222 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5168 ดอลลาร์

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 117.36 เยน เทียบกับระดับ 117.60 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9237 ฟรังก์ จาก 0.9229 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7781 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7795 ดอลลาร์        

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 569.00 จุด ลดลง 8.00 จุด, -1.39%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!