WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไม่มาก-อิงอ่อนลง,ขาดปัจจัยใหม่-ปัจจัยนอกปท.เป็นลบ

     นายชัยพร น้อมพิทักษ์ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวไม่มากและมีแนวโน้มที่อ่อนตัวลง เนื่องจากตลาดฯขาดปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะเดียวกันก็มาเจอปัจจัยลบจากต่างประเทศ ทั้งเศรษฐกิจของแต่ละประเทศออกมาส่วนใหญ่จะเป็นลบ และการเจรจาหนี้ของกรีซก็ยังไม่จบทำให้ตลาดฯยังโฟกัสไปเรื่อย ๆ

    นอกจากนี้ ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ให้ติดตามประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะมีการออกมาพูดเกี่ยกวับเศรษฐกิจของสหรัฐฯอย่างไรบ้าง รวมถึงเฟดจะมีการส่งสัญญาณในเรื่องการปรับอัตราดอกเบี้ยหรือเปล่า

      ส่วนราคาน้ำมันมองว่ายังเป็นเรื่องที่ยังจับต้องไม่ได้ เนื่องจากโอเปคก็มีการเล่นเกมในการออกข่าวดีบ้าง ไม่ดีบ้าง ทำให้ราคาน้ำมันยังคงสวิงไปสวิงมา ดังนั้นจึงมองว่าราคามันจะเห็นภาพชัดเมื่อเข้าสู่ไตรมาส 2/58 ไปแล้ว เพราะในไตรมาส 1/58 ยังมีเรื่องของดินฟ้าอากาศเข้ามาเกี่ยวข้องอยู่

    ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยตลาดในแถบเอเชียเหนือจะอยู่ในแดนลบ ส่วนตลาดในอาเซียนจะอยู่ที่ในแดนบวก

   พร้อมให้แนวรับ 1,585-1,584 จุด ส่วนแนวต้าน 1,615 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

    - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(9 ก.พ.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,729.21 จุด ลดลง 95.08 จุด(-0.53%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,726.01 จุด ลดลง 18.39 จุด(-0.39%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,046.74 จุด ลดลง 8.73 จุด(-0.42%)

     - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 49.26 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 4.63 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 45.96 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 15.91 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.30 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 0.55 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.16 จุด

      - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(9 ก.พ.58) 1,601.77 จุด ลดลง 11.86 จุด(-0.73%)

       - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 329.04 ล้านบาท เมื่อวันที่ 9 ก.พ.58

       - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(9 ก.พ.58) ปิดที่ 52.86 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์

       - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(9 ก.พ.58)ที่ 9.04 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

        - เงินบาทเปิด 32.60/61 คาดแกว่งแคบขาดปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง

       - ภาคเอกชนญี่ปุ่นหลายบริษัทที่เข้าหารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมา สนใจจะลงทุนธุรกิจผลิตไฟฟ้า โครงสร้างพื้นฐานระบบราง การลงทุนด้านรถไฟฟ้าในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมทั้งเขตเศรษฐกิจชายแดนของไทย และเขตเศรษฐกิจทวาย

       - นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในวันที่ 11 ก.พ.นี้ คณะกรรมการยุทธศาสตร์ร่วมลงทุนภาครัฐและเอกชน ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จะประชุมสรุปการทำกฎหมายลูกของ พ.ร.บ.ร่วมลงทุนรัฐและเอกชน (พีพีพี) ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้โครงการพีพีพีดำเนินการได้ หลังจากที่กฎหมายมีผลบังคับเป็นเวลา 2 ปี โดยหลักการสำคัญคือ โครงการที่มีมูลค่า 1,000-5,000 ล้านบาท หากไม่ได้เป็นโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐาน หน่วยงานที่รับผิดชอบสามารถดำเนินการได้ทันทีเพื่อความรวดเร็ว แต่หากเป็นโครงการที่เป็นโครงการสร้างพื้นฐานต้องเสนอให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์พีพีพีพิจารณาก่อน

        - "แบงก์รัฐ" เตรียมส่งแผนช่วยแก้จน 13 ก.พ.นี้ ก่อนนำเข้าที่ประชุมบอร์ด 16 ก.พ. เน้นปล่อยกู้รากหญ้าในชนบทตั้งวงเงินหลายหมื่นล้าน "ออมสิน" เตรียม 4 โครงการ ปรับของเดิมให้ดอกเบี้ยถูกลง เจาะกลุ่มสาวโรงงาน พนักงานองค์กรรัฐด้าน "เอสเอ็มอีแบงก์" ปล่อยกู้โอท็อปเอสเอ็มอี วอนซูเปอร์บอร์ดเร่งผ่อนผันปล่อยกู้เกิน 15 ล้าน หลังลูกค้าเดือดร้อนหนัก

       - กระทรวงคลัง ชงแผนตั้ง กอช. เข้า ครม.วันนี้ เล็งออกประกาศเพิ่ม 7 ฉบับ เดินหน้าเปิดรับสมาชิกใหม่ ตั้งเป้าปีแรก 5 แสนราย พร้อมดึง "แบงก์รัฐ" 3 แห่ง "ออมสิน-ธ.ก.ส.-กรุงไทย" เป็นช่องทางรับฝากเงิน

       - กบข.เผยผลดำเนินงานปี 57 สินทรัพย์รวมเพิ่ม 7.75 หมื่นล้าน กำไรสุทธิกว่า 3.8 หมื่นล้าน ฟันผลตอบแทนราว 6.75% ชี้พอร์ตส่วนใหญ่กว่า 60% ถือตราสารหนี้ ขณะที่หุ้นไทย 11% ส่วนตลาดหุ้นโลก 14% ประเมินการลงทุนในหุ้นยังน่าสนใจ ด้าน "เจพี มอร์แกน" คาดต่างชาติจ่อกลับหุ้นไทย หลังเศรษฐกิจส่งสัญญาณฟื้น กำไรบริษัทจดทะเบียนเพิ่ม

*หุ้นเด่นวันนี้

      - AJD-W2 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.คราวน์ เทค แอดวานซ์(AJD) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน749,999,968 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.20 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (วันที่ 20 มกราคม 2558) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 31 มี.ค. 2558 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 20 ม.ค. 2560

       - PS(ดีบีเอส วิเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 39 บาท คาดปี 57 คาดกำไรทำ Record High ที่ 6.6 พันล้านบาท, ปี 58 ตั้งเป้า Presales โต 20% และรับรู้รายได้เพิ่ม 10%  นอกจากนี้ จะเปิดขายโครงการใหม่ 70-75 แห่งในปี 58 มูลค่ารวม 55-61 พันล้านบาท

        - BTS(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อลงทุน"เป้า 11.11 บาท เป็นหุ้นจ่ายปันผลได้สูง ยังอยู่ในช่วงซื้อหุ้นคืนถึง 24 ก.พ.นี้ 4Q บันทึกกำไรพิเศษก้อนใหญ่ NPARK อีก การขยายธุรกิจร่วมกับ AEONTS ออกบัตรแรบบิท เป็นประโยชน์ระยะยาวเข้าสู่ธุรกิจการเงินทางอ้อม ส่วนกำไรสุทธิ 3Q57-58 (สิ้นสุด ธ.ค.57) สดใส เพิ่ม 124% y-o-y และ 55% q-o-q เพราะกำไรจากรายการพิเศษ หากไม่นับกำไรหลักปรับเพิ่ม 12% y-o-y แต่ลดลง 20% q-o-q ไตรมาสนี้ธุรกิจที่อ่อนลงคือ โฆษณาและอสังหาฯ แต่ธุรกิจที่ยังดีคือ กำไรตามส่วนได้เสียจาก BTSGIF และดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงจากการคืนหนี้เงินกู้

        - BGH(ฟินันเซีย ไซรัส)เข้าลงทุนในบริษัทเยเนอรัล ฮอสปิตัล โปรดัคส์ ซึ่งทำธุรกิจผลิตน้ำยาปราศจากเชื้อสำหรับฉีดเข้าหลอดโลหิตดำ เช่นน้ำเกลือ น้ำตาลกลูโคสและเวชภัณฑ์อื่นๆ ในสัดส่วน 40% มูลค่าเงินลงทุนไม่เกิน 350 ล้านบาท ปัจจุบันซื้อส่วนแรกแล้ว 20.03% ส่วนที่เหลือคาดแล้วเสร็จภายใน 2Q15 กลยุทธ์นี้ทำให้มีธุรกิจครบวงจรในด้านการแพทย์ จะส่งผลดีในระยะยาวโดยใช้ประโยชน์จาก Scale ของ BGH ที่มีเครือข่ายโรงพยาบาลในปัจจุบันถึง 39 แห่งและจะเป็น 50 แห่งในปี 2016 แต่ราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาจนเต็มมูลค่าที่ 20.50 บาท แต่เนื่องจากกำไรใน 4Q14 จะออกมาดี พร้อมแนะนำ"ซื้อเก็งกำไรผลประกอบการระยะสั้น

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงเช้านี้ เหตุวิตกปัญหากรีซลุกลาม

      ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดในแดนลบ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตการเงินของกรีซ ซึ่งอาจส่งผลต่อเสถียรภาพของกลุ่มยูโรโซน

      ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.2% แตะระดับ 141 จุด เมื่อเวลา 9.03 น.ตามเวลาโตเกียว

      ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 17,662.67 จุด ลดลง 49.26 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,090.49 จุด ลดลง 4.63 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,475.04 จุด ลดลง 45.96 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,405.59 จุด ลดลง 15.91 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,949.30 จุด เพิ่มขึ้น 2.30 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,417.47 จุด ลดลง 0.55 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,812.74 จุด เพิ่มขึ้น 1.16 จุด

      ตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงกดดันจากปัญหาหนี้กรีซ หลังจากที่นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ประกาศกร้าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ของกรีซจะยังคงจุดยืนคัดค้านการใช้มาตรการรัดเข็มขัด และจะไม่เรียกร้องให้มีการขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 28 ก.พ.

     ถ้อยแถลงของนายซิปราสได้สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูโรโซน โดยนายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เตือนว่า กรีซอย่าได้คาดหวังว่ายูโรโซนจะยอมโอนอ่อนต่อข้อเรียกร้องในการยุติมาตรการรัดเข็มขัด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 16.29 จุด กังวลสถานการณ์กรีซ

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ หลังจากนายกรัฐมนตรีกรีซเน้นย้ำท่าทีในการต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล

      ดัชนี FTSE 100 ลดลง 16.29 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 6,837.15 จุด

      สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในกรีซยังคงสร้างความวิตกแก่นักลงทุนและกดดันตลาด ขณะที่นายกรัฐมนตรีอเล็กซิส ซิปราสของกรีซได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า รัฐบาลใหม่ของกรีซจะยังคงจุดยืนในการต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด จะไม่เรียกร้องให้มีการขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือในปัจจุบัน ซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันที่ 28 ก.พ.นี้

     ด้านนายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานกรรมาธิการยุโรป (อีซี) กล่าวเตือนว่า กรีซอย่าได้คาดหวังว่ายูโรโซนจะยอมโอนอ่อนต่อข้อเรียกร้องในการยุติมาตรการรัดเข็มขัด

     นอกจากนี้ เขายังคาดการณ์ว่า การเจรจาเกี่ยวกับวิกฤติหนี้กรีซในการประชุมรัฐมนตรีคลังของสหภาพยุโรป (อียู) ในวันพุธนี้ และการเจรจาสุดยอดผู้นำอียูในวันพฤหัสบดีนี้ จะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงแต่อย่างใด

   หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคร่วงลง นำโดยหุ้นยูไนเต็ด ยูทิลิตีส์ กรุ๊ป ที่ปรับลง 3.12% ขณะที่หุ้นเนชันแนล กริด อ่อนแรงลงกว่า 2%

ภาวะตลาดหุ้นโตเกียว: นิกเกอิเปิดลบ 49.26 จุด เหตุวิตกปัญหาหนี้กรีซ

     ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดปรับตัวลดลง 49.26 จุด หรือ -0.28% แตะที่ 17,662.67 จุดในวันนี้ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างกรีซและกลุ่มเจ้าหนี้ในยูโรโซน ซึ่งความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวได้สกัดปัจจัยบวกจากราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน

     สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หุ้นกลุ่มที่ปรับตัวลงในเช้าวันนี้ รวมถึงหุ้นกลุ่มโลหะนอกกลุ่มเหล็ก กลุ่มเครื่องจักร และกลุ่มเภสัชภัณฑ์ ในขณะที่กลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวเพิ่มขึ้น

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : วิตกสถานการณ์กรีซ ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า วิกฤตเศรษฐกิจและหนี้สินของกรีซอาจจะลุกลามจนกลายเป็นปัญหาทางการเมือง หลังจากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกรีซประกาศกร้าวว่า รัฐบาลยังคงจุดยืนคัดค้านการใช้มาตรการรัดเข็มขัด และจะไม่ขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือจากเจ้าหนี้ต่างประเทศ

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.7% ปิดที่ 370.55 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,651.08 จุด ลดลง 39.95 จุด หรือ -0.85% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,663.51 จุด ลดลง 182.88 จุด หรือ -1.69% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,837.15 จุด ลดลง 16.29 จุด หรือ -0.24%

    ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นยุโรปเป็นไปอย่างซบเซา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์กรีซ หลังจากนายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ประกาศกร้าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ของกรีซจะยังคงจุดยืนคัดค้านการใช้มาตรการรัดเข็มขัด และจะไม่เรียกร้องให้มีการขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 28 ก.พ.

    ทั้งนี้ ผู้นำกรีซอ้างว่า จุดยืนยืนในการคัดค้านมาตรการรัดเข็มขัดและการไม่ขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือนั้น ถือเป็นจุดยืนของประชาชน ซึ่งรัฐบาลไม่มีสิทธิ์เรียกร้องให้มีการขยายมาตรการรัดเข็มขัดหรือรับเงินช่วยเหลือ พร้อมกับกล่าวว่า เป้าหมายหลักของรัฐบาลกรีซคือกอบกู้ศักดิ์ศรีของประชาชนชาวกรีซให้กลับคืนมา

   หุ้นกลุ่มรถยนต์ร่วงลง โดยหุ้นเรโนลท์ หุ้นเปอร์โยต์ หุ้นโฟล์สวาเก้น และหุ้น BMW ต่างก็ร่วงลงกว่า 3%

    หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นบีเอ็นพี พาริบาร์ส ร่วงลง 3.1% หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ดิ่งลง 1.6% หุ้นบังคา ซานตานเดร์ และหุ้นบังโค บิลบาว วิซคายา อาร์เจนตาเรีย ร่วงลงกว่า 2%

    อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวขึ้น หลังจากกลุ่มโอเปคได้ปรับลดคาดการณ์อุปทานน้ำมันในตลาดโลกในปีนี้ โดยหุ้นเกล็นคอร์ พุ่งขึ้น 3.8% หุ้นริโอทินโต ปรับขึ้น 2.2% หุ้นบีพีดีดตัวขึ้น 1.4% หุ้นบีจี กรุ๊ป พุ่งขึ้น 3% และหุ้นสแตทออยล์ เอเอสเอ ทะยานขึ้น 4.4%

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 95.08 จุด หวั่นปัญหาหนี้กรีซลุกลาม

    ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าการเจรจาเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซอาจจะล้มเหลว หลังจากผู้นำกรีซยืนกรานว่าจะไม่ยอมรับมาตรการรัดเข็มขัด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากจีนเปิดเผยว่ายอดส่งออกหดตัวลงในเดือนม.ค.

    ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,729.21 จุด ลดลง 95.08 จุด หรือ -0.53% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,726.01 จุด ลดลง 18.39 จุด หรือ -0.39% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,046.74 จุด ลดลง 8.73 จุด หรือ -0.42%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงตั้งแต่ตลาดเปิดทำการ เนื่องจากภาวะการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากปัญหาหนี้กรีซ หลังจากที่นายอเล็กซิส ซิปราส นายกรัฐมนตรีกรีซ ประกาศกร้าวว่า รัฐบาลชุดใหม่ของกรีซจะยังคงจุดยืนคัดค้านการใช้มาตรการรัดเข็มขัด และจะไม่เรียกร้องให้มีการขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือซึ่งจะหมดอายุในวันที่ 28 ก.พ.

     ถ้อยแถลงของนายซิปราสได้สร้างความไม่พอใจให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของยุโรโซน โดยนายฌอง-คล้อด ยุงเกอร์ ประธานกรรมาธิการยุโรป (อีซี) เตือนว่า กรีซอย่าได้คาดหวังว่ายูโรโซนจะยอมโอนอ่อนต่อข้อเรียกร้องในการยุติมาตรการรัดเข็มขัด

   นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้รับแรงกดดันหลังจากจีนเปิดเผยว่า ยอดส่งออกลดลง 3.2% แตะที่ 1.23 ล้านล้านหยวน ขณะที่ยอดนำเข้าร่วงลง 19.7% แตะที่ 8.60 แสนล้านหยวน ส่งผลให้ยอดเกินดุลการค้าพุ่งขึ้น 87.5% แตะที่ 3.669 แสนล้านหยวน

    หุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ร่วงลง โดยหุ้นแมคเคนเซน และหุ้นเอ็ดเวิร์ดส์ ไลฟ์ซายส์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 2%

    อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก โดยหุ้นทรานส์โอเชียน และหุ้นโนเบิล ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 5.9%

    นักลงทุนจับตาดูการประชุมวาระพิเศษของรัฐมนตรีคลังกลุ่มยูโรโซนในวันที่ 11 ก.พ. โดยที่ประชุมจะหารือเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงินต่อกรีซ ขณะที่เตรียมการสำหรับผู้นำของอียูที่จะเจรจาในเรื่องดังกล่าวในวันที่ 12 ก.พ.

     นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงสต็อกสินค้าและยอดค้าส่งเดือนธ.ค., ดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนม.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ยอดค้าปลีกเดือนม.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค.,ราคานำเข้าและส่งออกเดือนม.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 ก.พ. 2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,729.21 จุด ลดลง 95.08 จุด, -0.53%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,726.01 จุด ลดลง 18.39 จุด, -0.39%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,046.74 จุด ลดลง 8.73 จุด, -0.42%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,651.08 จุด ลดลง 39.95 จุด, -0.85%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,663.51 จุด ลดลง 182.88 จุด, -1.69%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,837.15 จุด ลดลง 16.29 จุด, -0.24%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 28,227.39 จุด ลดลง 490.52 จุด, -1.71%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,418.02 จุด ลดลง 13.34 จุด, -0.39%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,811.58 จุด ลดลง 1.67 จุด, -0.09%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,348.47 จุด เพิ่มขึ้น 5.95 จุด, +0.11%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,521.00 จุด ลดลง 158.39 จุด, -0.64%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,782.57 จุด เพิ่มขึ้น 54.39 จุด, +0.70%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,095.12 จุด เพิ่มขึ้น 19.22 จุด, +0.62%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,947.00 จุด ลดลง 8.52 จุด, -0.44%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,711.93 จุด เพิ่มขึ้น 63.43 จุด, +0.36%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,421.50 จุด ลดลง 34.68 จุด, -0.37%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,814.90 จุด ลดลง 5.30 จุด, -0.09%          

       ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าการเจรจาเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซอาจจะล้มเหลว หลังจากผู้นำกรีซยืนกรานว่าจะไม่ยอมรับมาตรการรัดเข็มขัด นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากจีนเปิดเผยว่ายอดส่งออกหดตัวลงในเดือนม.ค.

        ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,729.21 จุด ลดลง 95.08 จุด หรือ -0.53% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,726.01 จุด ลดลง 18.39 จุด หรือ -0.39% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,046.74 จุด ลดลง 8.73 จุด หรือ -0.42%

       ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า วิกฤตเศรษฐกิจและหนี้สินของกรีซอาจจะลุกลามจนกลายเป็นปัญหาทางการเมือง หลังจากนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของกรีซประกาศกร้าวว่า รัฐบาลยังคงจุดยืนคัดค้านการใช้มาตรการรัดเข็มขัด และจะไม่ขยายโครงการรับเงินช่วยเหลือจากเจ้าหนี้ต่างประเทศ

       ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.7% ปิดที่ 370.55 จุด

      ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,651.08 จุด ลดลง 39.95 จุด หรือ -0.85% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,663.51 จุด ลดลง 182.88 จุด หรือ -1.69% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,837.15 จุด ลดลง 16.29 จุด หรือ -0.24%

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ หลังจากนายกรัฐมนตรีกรีซเน้นย้ำท่าทีในการต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล

      ดัชนี FTSE 100 ลดลง 16.29 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 6,837.15 จุด

      สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ปรับลดคาดการณ์การผลิตน้ำมันดิบของประเทศนอกกลุ่มโอเปกในปีนี้

       สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 52.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

       สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ ปิดที่ 58.34 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กและสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 6.9 ดอลลาร์ หรือ 0.56% ปิดที่ระดับ 1,241.50 ดอลลาร์/ออนซ์

        สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 37.6 เซนต์ ปิดที่ 17.07 ดอลลาร์/ออนซ์

        สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 1.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,220.40 ดอลลาร์/ออนซ์

       ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบยูโรและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (9 ก.พ.) แม้ว่ามีความตึงเครียดมากขึ้นเกี่ยวกับการเจรจาหนี้สินของกรีซ

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1336 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1318 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5230 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5232 ดอลลาร์

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.41 เยน เทียบกับระดับ 119.14 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9211 ฟรังก์ จาก 0.9269 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7814 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7792 ดอลลาร์

      ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 554.00 จุด ลดลง 5.00 จุด, -0.89%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!