WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งตัวเพื่อสร้างฐาน หวั่นแรงขายจากต่างชาติเพิ่ม

      นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนายการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งตัว เนื่องจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติเมื่อวานนี้ที่ขายสุทธิถึง 5 พันล้านบาท หลังจากที่มีการขาย IRPC ออกมาทำให้ Sentiment ช่วงสั้นกังวลว่านักลงทุนต่างชาติอาจขายสุทธิเพิ่มขึ้นหรือไม่ ซึ่งมองว่าตลาดฯคงจะอยู่ในช่วงของการแกว่งตัวเพื่อสร้างฐานในระยะสั้นหลังจากที่ดัชนีฯไม่สามารถผ่านแนว 1,620 จุด

     ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนลบ ซึ่งตลาดส่วนใหญ่คงกำลังปรับฐานกันอยู่ เพราะปัจจัยนอกประเทศเวลานี้ก็ถือว่าดี จากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ยังไม่รีบที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย

    พร้อมให้แนวรับ 1,580 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด

    ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(25 ก.พ.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,224.57 จุด เพิ่มขึ้น 15.38 จุด(+0.08%),ดัชนี

                NASDAQ ปิดที่ 4,967.14 จุด ลดลง 0.98 จุด(-0.02%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,113.86 จุด ลดลง 1.62 จุด(-0.08%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.67 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 6.69 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 60.00 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 12.06 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.80 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 1.59 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 1.98 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(25 ก.พ.58)1,589.33 จุด ลดลง 9.33 จุด(-0.58%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 5,320.30 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ก.พ.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(25 ก.พ.58) ปิดที่ 50.99 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.71 ดอลลาร์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(25 ก.พ.58)ที่ 9.57 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 32.51/53 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ 32.50-32.60

- ปลัดกระทรวงการคลัง เผยจากการหารือและได้ข้อสรุปเป็นตุ๊กตาล่าสุดเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ. การจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในอีก 2 สัปดาห์นี้ ได้ลดเพดานอัตราภาษีลงจากเดิม ดังนี้ 1.ที่ดินเพื่อการเกษตร กำหนดเพดาน จัดเก็บที่ 0.25% จากเดิมที่ 0.5% 2.ที่ดินเพื่อที่อยู่อาศัย อัตราเพดานจัดเก็บ 0.5% จากเดิม 1%  3.ที่ดินเพื่อการพาณิชย์อัตราเพดาน จัดเก็บ 2% จากเดิม 4% และ 4.ที่ดินรกร้างว่างเปล่าไม่ได้ใช้ประโยชน์ จะเริ่มเก็บในอัตรา 0.5% และ จะเก็บเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่าใน ทุก 3 ปี หากไม่ใช้ประโยชน์ แต่สูงสุดไม่เกิน 2% จากเดิมที่คาด จะเก็บ 4%

                - พาณิชย์เผยส่งออกเดือน ม.ค.ติดลบ 3.46% เหตุราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ-ราคาน้ำมันลด เรียกทูตพาณิชย์ทั่วโลกระดมสมอง 16 มี.ค. ยันเป้าเดิม 4% ด้านธปท.เผยเป็นไปตามคาด สาเหตุหลักจากสินค้าที่เกี่ยวข้องน้ำมัน ขณะนักเศรษฐศาสตร์ ประเมินยังไม่เห็นสัญญาณฟื้นตัว คาดครึ่งปีแรกยังทรุดต่อเนื่อง ทั้งปีโต 1%

                - นายกสมาคมนักวิเคราะห์มองหุ้นไทยแพงขึ้น ชี้ 70% ของบริษัทจดทะเบียนพี/อี ทะลุ 15 เท่า แนะกนง.ลดดอกเบี้ย หลังดอกเบี้ยแท้จริงพุ่งในรอบ 5 ปี อเบอร์ดีน ลงทุนหุ้นไทย 1.8 แสนล้านบาท  แม้ราคาไม่ถูกแต่ยังเติบโตสูง

                - ธปท.เผยคนสนใจยื่นขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจนาโนไฟแนนซ์ 7 ราย จำนวน 5 รายยื่นเอกสารเรียบร้อย อีก 2 รายอยู่ระหว่างตรวจสอบเอกสาร คาดรู้ผลรายชื่อผู้ที่ได้รับอนุญาตไม่เกิน 60 วัน หลังจากนั้นภายใน 1 ปีต้องประกอบธุรกิจดังกล่าว

                - บิ๊กเอไอเอสพบหม่อมอุ๋ย ยันรัฐบาลผลักดันเปิดประมูลคลื่นความถี่ 4จี หนุนนโยบายเศรษฐกิจดิจิทัล ด้านบรรยากาศซื้อขายหุ้น 25 ก.พ. กลุ่มสื่อสารร่วงต่อเนื่อง เอไอเอสมากสุด ชี้ผลกระทบเลื่อนเปิดประมูล คาดแค่ระยะสั้น จะดำเนินการได้ในครึ่งปีหลัง เร็วสุด ส.ค.นี้

*หุ้นเด่น

                - BJCHI(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 45 บาท คาดกำไรสุทธิ 4Q57 จะเติบโต +36% yoy หรือ +35% qoq เป็น 346 ล้านบาท รับรู้โครงการ Petrobras ในบราซิลที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 58 เติบโต +18.2% เป็น 1,184 ล้านบาท มีฐานะการเงินแข็งแกร่งเป็น Net Cash และ PER 58 ต่ำเพียง 9.9 เท่า และมี Catalyst รออยู่ คือผลการประมูลงานขนาดใหญ่ที่จะทราบผลใน 1-2 เดือนข้างหน้า และเป็นงานประเภท High Potential สูงกว่า 8 พันล้านบาท รวมทั้งให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดี โดยคาดการณ์เงินปันผลปี 2557 หุ้นละ 2.40 บาท คิดเป็น Dividend Yield 6.5%

                - CK(ธนชาต)"ซื้อ"เป้า 31 บาท ได้รับผลดีโดยตรงจากโครงการลงทุนภาครัฐฯ, มีโอกาส Re-rating ของ Merged Co. ระหว่าง BECL BMCL ในอนาคต,  กระแสเงินสดจาก TTW แข็งแกร่ง และธุรกิจไฟฟ้าผ่าน CKP มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง, ราคาหุ้น CK ยังไม่ตอบรับการปรับสูงขึ้นของราคาหุ้นลูก และปิด Gap ทางเทคนิคที่ 26.75 บาท มีจังหวะฟื้นตัวเป้าหมายระยะสั้นที่ 29.0 บาท

                - BLA(ธนชาต)"ซื้อ"เป้า 57.50 บาท กำไร 4Q14 ที่ 2.35 พันล้านบาท +133% y-y ดีกว่าคาดถึง 350% จากการตั้งสำรองที่ลดลง และเบี้ยประกัน+กำไรจากเงินลงทุนที่มากกว่าคาด, ด้วย Downside Risk ของการตั้งสำรองที่ลดลงตั้งแต่ 4Q14 ทำให้คาดการณ์ผลการดำเนินงานปี 2015 มี Upside Risk จากปัจจุบันที่ 5.3 พันล้านบาท หรือ +127% y-y และ ROE & PBV ปัจจุบันยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต มอง Possible Trading Range 42-67 บาท

                - MODERN(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เพื่อรับปันผลสูง ราคาพื้นฐาน 11.10 บาท บริษัทประกาศจ่ายปันผล 2H57 เท่ากับ 0.30 บาท กำหนด XD 30 เม.ย.58 โดยกำไรสุทธิ 4Q57 เป็นไปตามคาดที่ 93 ล้านบาท (-32%YoY และ -19%QoQ) ส่วนแนวโน้มปี 58 ดีขึ้นจากส่งมอบสินค้าเพิ่มและต้นทุนโลจิสติกส์ต่ำลง

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ หลังหุ้นสาธารณูปโภคร่วง ขณะหุ้นพลังงานบวก

                ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากหุ้นกลุ่มผู้บริโภคและสาธารณูปโภคอ่อนตัวลง ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้

                ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับขึ้นไม่ถึง 0.1% แตะที่ 146.25 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.15 น.ตามเวลาโตเกียว

                ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,587.87 จุด เพิ่มขึ้น 2.67 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,718.28 จุด ลดลง 60.00 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,687.48 จุด ลดลง 12.06 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,993.27 จุด เพิ่มขึ้น 2.80 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,439.24 จุด ลดลง 1.59 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,813.88 จุด ลดลง 1.98 จุด

                หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวขึ้นหลังจากนายนายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย กล่าวเมื่อวานนี้ว่า อุปสงค์น้ำมันกำลังขยายตัว นอกจากนี้ ความผันผวนในตลาดเริ่มลดน้อยลงและตลาดมีการปรับตัวอย่างมีเสถียรภาพ โดยนายอัล-ไนมีกล่าวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : แรงขายทำกำไรฉุดฟุตซี่ปิดลบ 14.25 จุด

                ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งแตะระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 6,949.63 จุดเมื่อันก่อน โดยหุ้นบริษัทจีเคเอ็นและบริษัทเวียร์ กรุ๊ป ร่วงลงอย่างหนัก

                ดัชนี FTSE 100 ลดลง 14.25 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 6,935.38 จุด

                หุ้นเวียร์ กรุ๊ป ร่วงลง 8.9% หลังจากคาดว่า ยอดขายและกำไรจากการดำเนินการของบริษัทอาจจะปรับตัวลดลงในปีนี้

                หุ้นจีเคเอ็น ลดลง 2.1% หลังคาดว่าบริษัทแลนด์ ซิสเท็มส์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครืออาจมียอดขายที่ลดลง

                หุ้นไวท์เบรียด เพิ่มขึ้น 2.7% หลังคาดว่ารายได้ตลอดทั้งปีของบริษัทอาจจะแตะที่ระดับสูงสุดของช่วงคาดการณ์

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นธนาคารกรีซร่วง ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

                ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารของกรีซ อันป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินและการคลังภายในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มรถยนต์

                ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 386.76 จุด

                ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,882.22 จุด ลดลง 4.22 จุด หรือ -0.09% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,210.27 จุด เพิ่มขึ้น 4.53 จุด หรือ +0.04% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,935.38 จุด ลดลง 14.25 จุด หรือ -0.21%

                หุ้นกลุ่มธนาคารของกรีซร่วงลงอย่างหนัก รวมถึงหุ้นเนชันแนล แบงก์ ออฟ กรีซ และหุ้นปิเรอุส แบงก์ ที่ต่างก็ร่วงลงกว่า 11% เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการคลังของกรีซ แม้ว่าที่ประชุมยูโรโซนมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาเงินกู้ให้กรีซออกไปอีก 4 เดือนแล้วก็ตาม

                นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่า มาตรการปฏิรูปที่รัฐบาลกรีซได้ยื่นต่อที่ประชุมยูโรโซนและทำให้กรีซได้รับอนุมัติให้ขยายเวลาเงินกู้ออกไปอีก 4 เดือนนั้น ยังไม่ได้ระบุเนื้อหาที่เจาะจงมากพอ และไม่ได้สร้างความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลกรีซมีความตั้งใจที่จะดำเนินมาตรการปฏิรูปในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ

                นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มรถยนต์ โดยหุ้น Valeo SA ร่วงลง 2.3% หลังจากบริษัทปรับลดผลประกอบการในปี 2558

                ส่วนดัชนีหุ้นกลุ่มพลังงานปิดตลาดทรงตัว หลังจากนายอาลี อัล-ไนมี รัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย กล่าวเมื่อวานนี้ว่า อุปสงค์น้ำมันกำลังขยายตัว และตลาดมีการปรับตัวอย่างมีเสถียรภาพ โดยนายอัล-ไนมีกล่าวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 6 ปี

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 15.38 จุด หลังปธ.เฟดย้ำไม่รีบขึ้นดบ.

                ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) ขานรับถ้อยแถลงในวันที่ 2 ของนางนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ย้ำว่า เฟดไม่มีแนวโน้มที่จะรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนี NASDAQ และ S&P 500 ปิดในแดนลบ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของภาคเอกชนสหรัฐ

                ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,224.57 จุด เพิ่มขึ้น 15.38 จุด หรือ +0.08% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,967.14 จุด ลดลง 0.98 จุด หรือ -0.02% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,113.86 จุด ลดลง 1.62 จุด  -0.08%

                ดัชนี ดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นหลังจากนางเยลเลนแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ว่า เฟดจะพิจารณาปัจจัยที่หลากหลายทางเศรษฐกิจเพื่อประกอบการตัดสินใจเกี่ยวกับนโยบายอัตราดอกเบี้ย โดยถ้อยแถลงดังกล่าวคล้ายคลึงกับที่แถลงเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะขึ้นอยู่กับแนวโน้มการปรับตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดไม่มีแนวโน้มที่จะรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

                นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนม.ค.ของสหรัฐขยับลงเพียง 0.2% ระดับ 481,000 ยูนิต ซึ่งลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงสู่ระดับ 470,000 ยูนิต บ่งชี้ว่ายอดขายบ้านมีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นในปีนี้ หลังจากประสบภาวะซบเซาในปีที่แล้ว

                อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนี NASDAQ และ S&P 500 ปิดในแดนลบ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของภาคเอกชนสหรัฐ โดยบริษัทฮิวเลตต์-แพคการ์ด ปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2558 เนื่องจากผลกระทบจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ฮิวเลตต์-แพคการ์ดยังวางแผนที่จะแยกธุรกิจออกเป็น 2 บริษัท ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าวส่งผลให้ราคาหุ้นฮิวเลตต์-แพคการ์ด ดิ่งลง 9.9%

                หุ้นแอปเปิลร่วงลง 2.6% ขณะที่แบล็คเบอร์รี่พุ่งขึ้น 2.3% หลังจากบริษัทประกาศเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับกูเกิล

                หุ้น Chesapeake Energy ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 9.6% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2557 อยู่ที่ 11 เซนต์ ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ บริษัทยังประกาศลดจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมัน อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างหนัก

                นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนม.ค., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนม.ค., ประมาณการจีดีพีประจำไตรมาส 4/2557 ครั้งที่ 2, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนม.ค.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ก.พ.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,224.57 จุด                          เพิ่มขึ้น 15.38 จุด     +0.08%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,967.14 จุด                       ลดลง 0.98 จุด       -0.02%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,113.86 จุด                        ลดลง 1.62 จุด       -0.08%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,935.38 จุด                     ลดลง 14.25 จุด      -0.21%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,210.27 จุด                            เพิ่มขึ้น 4.53 จุด      +0.04%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,882.22 จุด                          ลดลง 4.22 จุด       -0.09%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,908.60 จุด       เพิ่มขึ้น 18.60 จุด     +0.32%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,944.90 จุด            เพิ่มขึ้น 17.90 จุด     +0.30%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,699.54 จุด                             เพิ่มขึ้น 70.17 จุด     +0.73%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 18,585.20 จุด                      ลดลง 18.28 จุด      -0.10%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,990.47 จุด                         เพิ่มขึ้น 14.35 จุด     +0.73%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,228.84 จุด                      ลดลง 18.06 จุด      -0.56%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,844.06 จุด              เพิ่มขึ้น 9.20 จุด      +0.12%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 24,778.28 จุด                               เพิ่มขึ้น 28.21 จุด     +0.11%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,445.11 จุด       เพิ่มขึ้น 27.80 จุด     +0.51%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,815.86 จุด                       ลดลง 2.82 จุด       -0.16%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,815.86 จุด                       ลดลง 2.82 จุด       -0.16%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 29,007.99 จุด                          เพิ่มขึ้น 3.33 จุด      +0.01%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มธนาคารของกรีซ อันป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินและการคลังภายในประเทศ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มรถยนต์ 

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.1% ปิดที่ 386.76 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,882.22 จุด ลดลง 4.22 จุด หรือ -0.09% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,210.27 จุด เพิ่มขึ้น 4.53 จุด หรือ +0.04% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,935.38 จุด ลดลง 14.25 จุด หรือ -0.21%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) ขานรับถ้อยแถลงในวันที่ 2 ของนางนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ย้ำว่า เฟดไม่มีแนวโน้มที่จะรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนี NASDAQ และ S&P 500 ปิดในแดนลบ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของภาคเอกชนสหรัฐ

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,224.57 จุด เพิ่มขึ้น 15.38 จุด หรือ +0.08% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,967.14 จุด ลดลง 0.98 จุด หรือ -0.02% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,113.86 จุด ลดลง 1.62 จุด  -0.08%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งแตะระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 6,949.63 จุดเมื่อันก่อน โดยหุ้นบริษัทจีเคเอ็นและบริษัทเวียร์ กรุ๊ป ร่วงลงอย่างหนัก

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 14.25 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 6,935.38 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) หลังจากรัฐมนตรีน้ำมันของซาอุดิอาระเบียกล่าวว่า อุปสงค์น้ำมันกำลังขยายตัวและความผันผวนในตลาดเริ่มลดน้อยลงในขณะนี้ ซึ่งการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นกว่า 8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 1.71 ดอลลาร์ ปิดที่ 50.99 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 2.97 ดอลลาร์ ปิดที่ 61.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) เพราะได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากนางนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณในแถลงการณ์วันที่ 2 ว่า เฟดไม่มีแนวโน้มที่จะรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 4.2 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ระดับ 1,201.50 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 24.2 เซนต์ ปิดที่ 16.43 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 6.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,168.80 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงต่อเนื่องเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (25 ก.พ.) ขณะที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เข้าแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวานนี้ โดยไม่ส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1356 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.1338 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5526 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5455 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 118.86 เยน เทียบกับระดับ 118.93 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9475 ฟรังก์ จาก 0.9501 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7889 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7826 ดอลลาร์

     ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 524.00 จุด เพิ่มขึ้น 8.00 จุด, +1.55%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!