WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นเกิดเทคนิคเคิลรีบาวน์หลังเห็นสัญญาณไล่ซื้อกลับ

     นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวน์ขึ้นได้ เนื่องจากได้เห็นการไล่ซื้อกลับในช่วงท้ายตลาดเมื่อวานนี้ และการประมูล 4G ก็น่าจะคลายความกังวลลงได้แล้ว แต่การรีบาวน์คงจะเป็นลักษณะของการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวน์ โดยให้แนวต้านไว้ที่ 1,600-1,610 จุด ส่วนแนวรับ 1,580 จุด

    ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยระยะนี้ยังไม่ได้มีปัจจัยอะไรเป็นพิเศษ มีเพียงแต่ปัจจัยในประเทศที่จะต้องติดตามเรื่องการเมือง และงบประมาณ รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศด้วย

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(26 ก.พ.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,214.42 จุด ลดลง 10.15 จุด(-0.06%), ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,987.89 จุด เพิ่มขึ้น 20.75 จุด(+0.42%), ดัชนี S&P500 ปิดที่  2,110.74 จุด ลดลง 3.12 จุด(-0.15%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 58.49 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 1.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.55 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 0.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 5.36 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.86 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.40 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(26 ก.พ.58)1,593.55 จุด เพิ่มขึ้น 4.22 จุด(+0.27%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 2,773.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 26 ก.พ.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(26 ก.พ.58) ปิดที่ 48.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 2.82 ดอลลาร์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(26 ก.พ.58)ที่ 10.04 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 32.37/38 แนวโน้มแข็งค่า รับเม็ดเงินไหลเข้าพันธบัตร-ตลาดหุ้น

                - รัฐบาลเดินหน้าเปิดประมูล 4 จี "ปรีดิยาธร" ชี้กสทช.เดินหน้าได้ทันที คาดใช้เวลาเตรียมการ 4 เดือน เปิดประมูลไม่เกิน ก.ย.ปีนี้ ด้าน "พรชัย" เผยไม่มีสัญญาณ เลื่อนประมูล 4จี ชี้เกิดเร็วช่วยหนุน "ดิจิทัล อีโคโนมี" ขณะกสทช.รอคำสั่งคสช. ระบุยังคงกรอบเวลาเดิม หากช้าอย่างมากไม่เกินสิ้นปีนี้

                - "ประยุทธ์" สร้างความมั่นใจนักลงทุน ดันธุรกิจไทยสู่ความ "มั่งคั่ง-ยั่งยืน" ขับเคลื่อนเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง สั่งลดขั้นตอนเร่งเบิกจ่ายเร็วขึ้น เดินตามโรดแมป 5 ปี "ปรีดิยาธร" พอใจเบิกจ่ายกระเตื้อง ตั้งเป้าเดือน มี.ค. เบิกจ่ายเพิ่มเตรียมรายงาน ครม.สัปดาห์หน้า

                - ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลกำลังเร่งดำเนินนโยบายผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล โดยจะไม่รอการแก้ไขกฎหมายแล้ว ล่าสุดได้หารือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้ใช้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีตั้งคณะกรรมการเตรียมเข้าสู่ดิจิทัล ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีไปแล้ว รอประกาศในราชกิจจานุเบกษา คาดว่าไม่เกิน 2 สัปดาห์จากนี้ และจะจัดประชุมทันทีเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลด้านต่างๆ

                - "ณรงค์ชัย" เซ็นประกาศเลิกเปิดสัมปทาน รอบที่ 21 รอ สนช.แก้กฎหมายปิโตรเลียมใน 90 วัน ย้ำเปิดสำรวจมีความจำเป็น ด้านความมั่นคงพลังงาน ด้าน สนช.ตั้งทีมศึกษาแก้กฎหมาย เชิญทุกฝ่ายเข้าร่วม ขณะกรรมการร่วมภาครัฐ-ฝ่ายคัดค้านเลื่อนประชุมไปสัปดาห์หน้า

                - ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากได้ประชุมเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำให้มั่นใจว่าการเบิกจ่ายงบจะเป็นไปตามเป้าหมาย โดย ณ วันที่ 20 ก.พ. การเบิกจ่ายงบประจำทำได้ 1 ล้านบาท จาก 2.12 ล้านล้านบาท โดยในเดือน มี.ค. จะต้องเพิ่มเป็น 60%

                - "สถิตย์ ลิ่มพงษ์พันธ์" ประธานตลาดหลักทรัพย์ เผยผลตอบแทนการลงทุนหุ้นไทยเฉลี่ย 5 ปีอยู่ที่ 20% ติดอันดับต้นๆ ของเอเชียแต่สูงสุดเมื่อเทียบกับการลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ ด้านโบรกเกอร์คาดกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลปีนี้เฉลี่ย 3.5% เพิ่มขึ้นจากปี 2557 ส่วนภาพรวมกำไร บจ.ปี 2558 ทั้งตลาดแนวโน้มดี

                - "กฤษฎา จีนะวิจารณะ"ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เผยฐานะการคลังของรัฐบาลตามระบบกระแสเงินสดในช่วง 4 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2558 (ต.ค. 2557-ม.ค. 2558) ว่า รัฐบาลมีรายได้นำส่งคลังทั้งสิ้น 6.54 แสนล้านบาท ต่ำกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน 9,277 ล้านบาท หรือ 1.4% เนื่องจากฐานรายได้รัฐวิสาหกิจที่สูงในปีก่อน โดยมีการนำส่ง รายได้จากการชำระบัญชีและเงินสดคงเหลือของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงินเป็นสำคัญ

*หุ้นเด่น

                - INTUCH(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)“ทยอยสะสม"เป้า 114 บาท ประเมินว่าหุ้นหลักในกลุ่มสื่อสารจะรีบาวน์ได้ต่อเนื่องจากวานนี้ จากความกังวลที่ลดลงว่าการประมูล 4G อาจเลื่อนออกไป หลังนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีให้ความเห็นว่ารัฐบาลจะเดินหน้าประมูลคลื่น 4G ในปี 2558 และคาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในเดือน ก.ย. 2558 นอกจากนี้ INTUCH จะขึ้น XD เงินปันผล 2H57 หุ้นละ 2.23 บาท ในวันที่ 31 มี.ค. คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 2.8%

                - BEAUTY(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"ปรับเป้าขึ้นเป็น 49 บาท จาก 40 บาท กำไรสุทธิ 4Q14 สร้างจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง +29% Q-Q, +94% Y-Y มากกว่าที่คาด 23% จากรายได้ที่โตตามการขยายสาขาและการบริหารค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ทำให้กำไรทั้งปีโต 42% เป็น 301 ล้านบาทสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยปรับกำไรสุทธิปี 2015-17 ขึ้นเฉลี่ย 7% ต่อปี ทำให้กำไรปี 2015 โต 28% และปี 2016 โตอีก 24% ROE ขึ้นไปยืนเหนือ 30% และจะแตกพาร์จาก 10 บาทเป็น 0.10 บาท

                - PT(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 20 บาท กำไรสุทธิ 4Q14 สร้างจุดสูงสุดใหม่จากการบริหารต้นทุนได้ดีขึ้น โดยกำไรเพิ่มแรงถึง 79% Q-Q และ 144% Y-Y โดยคาดกำไรสุทธิปี 2015 โตต่อเนื่อง 10% และได้ประโยชน์จาก Digital Economy

                - LH(โกลเบล็ก)เป้า 13 บาท ปี 58 มีแผนเปิดโครงการใหม่อีก 17 โครงการมูลค่า 3.7 หมื่นลบ. รวมถึงโครงการจากปลายปี 57 อีก 67 โครงการมูลค่า 7 หมื่นลบ. โดยคาดปี 58 รายได้ +10% เป็น 2.9 หมื่นลบ. และกำไรปกติราว 7.7 พันล้านบาท (+7% YoY) โดยมียอด Backlog ราว 2 หมื่นลบ. โดยมี Gross margin ระดับ 35% และช่วง 1Q58 จะมีการโอนคอนโดมิเนียมต่อเนื่องจากปลายปี57 ได้แก่ เดอะรูม-วงเวียนใหญ่ วันเวลา-เขาเต่า เดอะคีย์-อุดมสุข นอร์ธ 4 และ 5 เชียงใหม่ พร้อมมีแผนจัดตั้งกองทุน REIT เพิ่มเติมในปี 58 ได้แก่ โรงแรมแกรนด์ เซ็นเตอร์ พ้อยท์ เทอมินัล 21 และเซอร์วิสอพาร์ทเม้นท์ที่เพลินจิตและราชดำริขนาดประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นเช้านี้ หลังหุ้นเฮลธ์แคร์ทะยาน

    ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค

    ดัชนี MSCI Asia Pacific ขยับขึ้นเกือบ  0.1% แตะที่ 146.35 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 18,844.28 จุด เพิ่มขึ้น 58.49 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 3,296.83 จุด ลดลง 1.53 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 24,902.61 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 1,992.76 จุด ลดลง 0.32 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,420.82 จุด ลดลง 5.36 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ที่ 7,773.25 จุด เพิ่มขึ้น 8.86 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,822.27 จุด เพิ่มขึ้น 1.40 จุด

 ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 14.35 จุด รับข่าวซีอีโอสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) เนื่องจากข่าวการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงของสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดได้ช่วยหนุนตลาด

      ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 14.35 จุด หรือ 0.21% ปิดที่ 6,949.73 จุด

      สแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ด ซึ่งเป็นธนาคารของอังกฤษ ประกาศวานนี้ว่านายปีเตอร์ แซนด์ส ซีอีโอของธนาคาร จะก้าวลงจากตำแหน่งในเดือนมิ.ย.ปีนี้ หลังจากบริหารงานมากว่า 8 ปี และนายบิล วินเทอร์ส จากอดีตผู้บริหารจากเจพี มอร์แกน จะเข้ามาทำหน้าที่แทน

      ข่าวดังกล่าวได้ช่วยหนุนหุ้นสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดให้พุ่งขึ้น 5.37% นำขบวนหุ้นกลุ่มบลูชิพ

       นอกจากนี้ การปรับตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองก็ได้ช่วยหนุนตลาด โดยหุ้นริโอ ทินโต และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ต่างก็ดีดตัวขึ้นกว่า 1.6%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดพุ่ง ขานรับผลประกอบการเอกชน

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ทะยานขึ้นแข็งแกร่งสุดในรอบกว่า 1 เดือน ขานรับผลประกอบการของบริษัทเอกชน

    ดัชนี Stoxx Europe 600 พุ่งขึ้น 1% ปิดที่ 390.69 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,910.62 จุด เพิ่มขึ้น 28.40 จุด หรือ +0.58% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,327.19 จุด เพิ่มขึ้น 116.92 จุด หรือ +1.04% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,949.73 จุด เพิ่มขึ้น 14.35 จุด หรือ +0.21%

    ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกจากผลประกอบการของบริษัทเอกชน โดยหุ้น Bayer ทะยานขึ้น 3.7% หลังจากบริษัทปรับเพิ่มยอดขายในปี 2558 ขณะที่หุ้น GDF Suez พุ่งขึ้น 1% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ดีเกินคาด

   หุ้นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง โดย Anheuser-Busch InBev ทะยานขึ้น 3.1% หลังจากบริษัทประกาศแผนการซื้อคืนหุ้น ส่วนหุ้น Heineken และหุ้น Carlsberg ต่างก็พุ่งขึ้นกว่า 2% และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนี Stoxx 600 ปิดทะยานขึ้นด้วย

   นักลงทุนจับตาดูความคืบหน้าในการเจรจาปัญหาหนี้กรีซอย่างใกล้ชิด โดยล่าสุดนางแองเจลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมัน กล่าวว่า พรรคอนุรักษ์นิยมในซีกรัฐบาลจะให้การสนับสนุนการขยายมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินต่อกรีซออกไปอีก 4 เดือน เมื่อสภาผู้แทนราษฎรลงมติในร่างกฏหมายดังกล่าวในวันนี้

    ทั้งนี้ รัฐมนตรีคลังยูโรโซนให้ความเห็นชอบต่อการขยายมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับกรีซออกไปอีก 4 เดือนเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หลังจากที่ได้อนุมัติมาตรการปฏิรูปที่รัฐบาลกรีซได้ยื่นเสนอมาก่อนหน้านี้ ส่งผลให้กรีซสามารถหลีกเลี่ยงภาวะล้มละลายในนาทีสุดท้าย ก่อนที่ข้อตกลงให้ความช่วยเหลือทางการเงินฉบับปัจจุบันจะหมดอายุลงในวันที่ 28 ก.พ.

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : หุ้นพลังงานร่วง ถ่วงดาวโจนส์ปิดลบ 10.15 จุด

      ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 ก.พ.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กดิ่งลงอย่างหนัก นอกจากนี้ ข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐยังส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 ปิดในแดนลบด้วย

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,214.42 จุด ลดลง 10.15 จุด หรือ -0.06% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,987.89 จุด เพิ่มขึ้น 20.75 จุด หรือ +0.42% และดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,110.74 จุด ลดลง 3.12 จุด หรือ -0.15%

    ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเป็นไปอย่างผันผวน โดยดัชนีดาวโจนส์และ S&P 500 อ่อนแรงลงหลังจากหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบ WTI ในตลาดนิวยอร์ก โดยหุ้นเชฟรอน ร่วงลง 1.3% ขณะที่หุ้นเอ็กซอน โมบิล ปรับตัวลง 1.3%

   นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลแรงงานที่ซบเซาของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 21 ก.พ. เพิ่มขึ้น 31,000 ราย สู่ระดับ 313,000 ราย ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐอาจชะลอตัว

     อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์ปิดขยับลงเพียงเล็กน้อยเนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการคาดการณ์ของนายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ที่ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัวไม่ต่ำกว่า 3% ในปีนี้ เนื่องจากเศรษฐกิจยังคงได้รับแรงผลักดันจากปัจจัยต่างๆ โดยเฉพาะราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยบวกจากรายงานที่ว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐพุ่งขึ้น 2.8% ในเดือนม.ค. ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.6% ซึ่งส่งสัญญาณว่าภาคธุรกิจได้เพิ่มการลงทุนในช่วงต้นปีนี้

    ส่วนดัชนี NASDAQ ปิดบวกเพราะได้รับแรงหนุนจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี โดยหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 1.4% หุ้นแอปเปิล ปรับขึ้น 1.3% และหุ้นกูเกิล อิงค์ ทะยานขึ้น 2.1% หลังจากมีรายงานว่ากูเกิลจับมือกับแบล็คเบอร์รี่ และซัมซุง อิเล็กทรอนิก เพื่อนำเสนอโซลูชั่นจัดการอุปกรณ์พกพาสำหรับองค์กรให้สามารถรันบนระบบแอนดรอยด์ได้

     นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ รวมถึงประมาณการจีดีพีประจำไตรมาส 4/2557 ครั้งที่ 2, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.พ.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน และยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนม.ค.

                อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!