WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้ลุ้นรีบาวน์ทางเทคนิคหลังตลาดเข้าสู่เขต Oversold

      นายชัยพร น้อมพิทักษ์ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะรีบาวน์ขึ้นได้ในทางเทคนิคหลังจากที่ตลาดฯได้เข้าสู่เขต Oversold แต่แรงขายน่าจะเกิดขึ้นได้เมื่อดัชนีฯขึ้นมาใกล้บริเวณแนวต้านที่ 1,540-1,550 จุด เนื่องจากดูปัจจัยรวมยังไม่มีอะไรที่ improve มาก แม้จะมีการยกเลิกการใช้กฎอัยการศึก แต่ก็มีการใช้มาตรา 44 แทนซึ่งต่างชาติมองไทยไม่ได้มีผลทางจิตวิทยาบวกมากนัก

      ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยจับตาการเจรจาระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกที่ดูจะมีความคืบหน้า ซึ่งจะไปสะท้อนที่ราคาน้ำมันหากอิหร่านได้ข้อยุติ และมีการส่งออกน้ำมันได้หลังจากที่ได้แบนมาตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งอิหร่านเดิมมีกำลังการผลิตติดอันดับ 2 ของกลุ่มโอเปค หากอิหร่านส่งออกน้ำมันก็น่าจะปั้มน้ำมันได้ 1.1-1.2 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำมันเข้าสู่ตลาดมากขึ้น อันจะทำให้ราคาน้ำมันมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้ และจะกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน เนื่องจากนักวิเคราะห์ฯต่างคาดการณ์กันว่าราคาน้ำมันน่าจะฟื้นตัวได้ในช่วงไตรมาส 3-4 ปีนี้ เพราะหากเป็นจริงก็จะมีความเสี่ยงที่ราคาน้ำมันอาจจะไม่ฟื้นตัวตามคาด

     อย่างไรก็ดี ทางมอร์แกนฯได้ประเมินว่าอิหร่านจะใช้ระยะเวลาในการผลิตน้ำมันล้านบาร์เรลได้ใน 12-18 เดือน แต่ดูจากตอนนี้เชื่อว่าอิหร่านได้ผลิตน้ำมันและเก็บไว้อยู่แล้ว ซึ่งสามารถที่จะส่งออกได้เลย ดังนั้นในเรื่องเวลาน่าจะเร็วกว่าที่คาด

    สำหรับเรื่องแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจของกรีซก็ค่อย ๆ จางไปแล้ว ต่อไปก็ต้องรอดูการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่จะทยอยประกาศออกมา พร้อมให้แนวรับ 1,520 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(2 เม.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,763.24 จุด เพิ่มขึ้น 65.06 จุด(+0.37%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,886.94 จุด เพิ่มขึ้น 6.71 จุด(+0.14%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,066.96 จุด เพิ่มขึ้น 7.27 จุด(+0.35%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 23.75 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 22.40 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.76 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 0.63 จุด

                ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง ตลาดหุ้นไต้หวัน ตลาดหุ้นสิงคโปร์ และตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Good Friday

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(2 เม.ย.58)1,532.23 จุด เพิ่มขึ้น 6.65 จุด(+0.44%)

                - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 754.51 ล้านบาท เมื่อวันที่ 2 เม.ย.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(2 เม.ย.58) ปิดที่ 49.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ปรับลง 95 เซนต์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(2 เม.ย.58)ที่ 7.92 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 32.47/48 ทรงตัว ตลาดรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐฯคืนนี้

                - ภาคธุรกิจชี้มาตรา44 ฟื้นเชื่อมั่น ส่งผลดีการค้าการลงทุน ภาคตลาดทุน-ท่องเที่ยวได้ประโยชน์มากสุดระยะสั้น มั่นใจคสช. ให้อำนาจอย่างสร้างสรรค์แก้ปัญหา ประเทศเดินหน้าได้ ด้าน "ประยุทธ์" ยันไม่มีปัญหา เพราะใช้คำสั่งมาตลอด ดูแลความสงบเรียบร้อย

                - "ประจิน" คาดเจรจาการบินญี่ปุ่นได้ ความชัดเจนแก้ปัญหาเที่ยวบินวันนี้ มั่นใจแก้ไขได้ตามกำหนดเวลา 90 วัน กรมการบินพลเรือนกางตารางเดินสายแจงต่างชาติ เริ่มเกาหลี-จีน ต่อด้วยออสเตรเลีย-ยุโรป ช่วงหลังสงกรานต์

                - แนวโน้ม "ราคารถยนต์" หลังปรับโครงสร้างภาษีรถใหม่ 1 ม.ค.59 มีทั้งที่ปรับราคาลด-เพิ่มขึ้น ตั้งแต่ 5,000-1 แสนบาทขึ้นไป เหตุใช้เกณฑ์การปล่อยก๊าซ CO2 มากำหนดอัตราภาษี "ปล่อยมากเสียมาก" แจงปิกอัพแบบมีแค็บ-รถอเนกประสงค์แบบพีพีวี จ่อปรับราคาใหม่ ขณะอีโคคาร์ 2 -อี 85 แนวโน้มราคาลดลง จากการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถยนต์ใหม่ ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2559

                - นายวิสุทธิ์ ศรีสุพรรณ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ได้มอบนโยบายให้ผู้บริหารกรมธนารักษ์ไปเจรจากับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในวันที่ 8 เม.ย.นี้ เพื่อนำที่ดินบริเวณสถานีรถไฟมักกะสัน เนื้อที่ 490 ไร่ จากทั้งหมด 700 ไร่เศษ เพื่อนำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในรูปของสวนสาธารณะ พื้นที่สีเขียว พื้นที่แก้มลิงเพื่อรองรับปัญหาน้ำท่วม กทม. และจะมีการแบ่งพื้นที่บางส่วนเพื่อนำมาพัฒนาการสร้างอาคารในเชิงพาณิชย์

                - การประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) วันที่ 3 เม.ย.นี้ ที่มี นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รมว.พลังงาน เป็นประธาน จะมีการพิจารณาวาระสำคัญคือ การประกาศราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ในเดือน เม.ย. ซึ่งมีโอกาสที่จะปรับลดราคาแอลพีจีลง

                - นางหิรัญญา สุจินัย รักษาราชการแทนเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอตั้งเป้าหมายว่าจะอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนในปีนี้ไว้ 1.4 ล้านล้านบาท โดยในช่วง 3 เดือนแรก บีโอไอได้อนุมัติการลงทุนไปแล้วกว่า 700 โครงการ วงเงิน 1.1 แสนล้านบาท สูงกว่าที่ตั้ง เป้าหมายไว้ที่ 300 โครงการ หรือเกือบ 3 เท่า ถือเป็นมิติที่ดี

                - "สภาธุรกิจตลาดทุน" เผยดัชนีความ เชื่อมั่นนักลงทุนช่วง 3 เดือนข้างหน้าทรุด 33.5% เหตุกังวลปัญหาเศรษฐกิจในประเทศ สะท้อนความเชื่อมั่นที่เข้าสู่ภาวะซบเซา ด้าน ตลาดหลักทรัพย์ มั่นใจต่างชาติไม่ลดน้ำหนักลงทุน หลังค่า พี/อี หดเหลือ 14.7 เท่า ขณะที่หุ้นไทยแกว่งตัวแคบ ห่วงเจรจาหนี้กรีซไม่จบ

*หุ้นเด่นวันนี้

                - UWC-W2 ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบมจ.เอื้อวิทยา(UWC)เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 5,540,154,997 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 0.10 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 4 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ(วันที่ 1 เมษายน 2558)ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 30 มี.ค. 2559 และวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 29 มี.ค. 2562

                - TASCO(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 120 บาท วันที่ 7 เม.ย. มีการประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อขอมติอนุมัติการแตกพาร์จาก 10 บาท เป็น 1 บาท ซึ่งหากได้รับการอนุมัติ จะทำให้สภาพคล่องการซื้อขายของหุ้น TASCO หลังแตกพาร์ดีขึ้น และอาจทำให้กองทุน / สถาบัน สามารถเข้าลงทุนในหุ้น TASCO ได้ โดยคงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2558 เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันดิบที่ลดง ซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการผลิตยางมะตอย ขณะที่ราคาขายยางมะตอยปรับตัวลงในอัตราที่ช้ากว่าต้นทุนที่ลดลง จะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นปี 2558 ให้เร่งตัวขึ้น และ Valuation น่าสนใจ

                - THCOM(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 50 บาท แนวโน้มกำไรปกติใน 1Q15 ยังแข็งแกร่ง คาดเพิ่มขึ้น 6% Q-Q และ 37% Y-Y จาก Utilization rate ของไทยคม 7 และ IPSTAR ที่เพิ่มต่อเนื่องเป็น 30% และ 57% ตามลำดับ ขณะที่ต้นทุนส่วนใหญ่เป็นต้นทุนคงที่ แนวโน้มการเติบโตของผลการดำเนินงานในอนาคตยังสดใสจากภาวะอุตสาหกรรมที่เป็น Over-demand

                - AAV(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 5.93 บาท ประเมิน downside ของผลประกอบการโดยตั้งสมมติฐานกรณีแย่สุดว่า AAV จะไม่มีการรับมอบเครื่องบินเพิ่ม ไม่สามารถเปิดเที่ยวบินและเส้นทางบินเพิ่ม และลดการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารและปริมาณผู้โดยสารลงจากเดิม 4% กำไรสุทธิปี 2015-16 จะลดลงจากประมาณการของเราปีละ 17% เหลือเติบโต 613% Y-Y และ 38% Y-Y ตามลำดับ ยังถือว่าปี 2015 เป็นปี Turnaround

                - IVL(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 31 บาทโดยปี 58 ตั้งเป้าผลิตเพิ่ม 15% คาดว่าผลประกอบการบริษัทจะฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่องในปีนี้ และบริษัทประกาศจ่ายปันผล 0.19 บาท กำหนด XD 30 เม.ย.58 ทั้งนี้ IVL ประกาศซื้อกิจการ CEPSA Chimie Montral s.e.c 100% จาก Cepsa Quimica SA โดยบริษัทที่เข้าซื้อเป็นโรงงานผลิต PTA ซึ่งเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำหรับผลิต PET มีกำลังการผลิต 600,000 ตันต่อปี สูงที่สุดในประเทศแคนาดา และมีส่วนแบ่งการตลาดประมาณ 15% ในทวีปอเมริกาเหนือ ผลดีจากการเข้าซื้อ คือ ทำให้บริษัทมีกำลังการผลิตเพิ่มและมีความมั่นคงทางด้านวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ประเมินว่าดีลนี้จะทำให้บริษัทกำไรได้ดีขึ้น เนื่องจากมี Synergies และเป็นตลาดที่ให้อัตรากำไรสูง

ตลาดหุ้นเอเชียผันผวนเช้านี้ ส่วนใหญ่ปิดทำการในวัน Good Friday

   ตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวนในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่ตลาดหุ้นส่วนใหญ่ปิดทำการเนื่องในวัน Good Friday

    ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,289.04 จุด ลดลง 23.75 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,035.83 จุด เพิ่มขึ้น 6.76 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,831.34 จุด ลดลง 0.63 จุด

     ตลาดหุ้นฮ่องกง ตลาดหุ้นไต้หวัน ตลาดหุ้นสิงคโปร์ และตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดทำการวันนี้

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 23.96 จุด ขานรับหุ้นค้าปลีกพุ่ง

      ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก แต่การปรับตัวขาขึ้นของตลาดได้ถูกสกัดไว้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนแอ

     ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 23.96 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 6,833.46 จุด

      หุ้นมาร์คส์ แอนด์ สเปนเซอร์ ซึ่งเป็นบริษัทค้าปลีกของอังกฤษ ปรับตัวแข็งแกร่ง โดยทะยานขึ้น 4.4% หลังจากบริษัทรายงานว่ายอดขายในช่วง 3 เดือนจนถึงวันที่ 28 มี.ค. มีการขยายตัว 1.9% โดยระบุถึงธุรกิจโดยทั่วไปที่ฟื้นตัวขึ้น และธุรกิจอาหารที่ปรับตัวโดดเด่น

    อย่างไรก็ตาม ตลาดปิดบวกไม่มากนัก เนื่องจากมาร์กิต อิโคโนมิคส์เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคก่อสร้างของอังกฤษในเดือนมี.ค.ลดลงแตะ 57.8 จาก 60.1 ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาด และยังเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนด้วย

     หุ้นอิมพีเรียล โทแบคโค กรุ๊ป ปรับขึ้น 2.82% แต่หุ้นบีเอชพี บิลลิตัน อ่อนแรงลง 2.62% นำหุ้นกลุ่มเหมืองร่วงลง

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นพลังงาน,เหมืองแร่ร่วง ฉุดตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมี.ค.ในวันศุกร์

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 397.80 จุด

     ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,967.39 จุด ลดลง 33.99 จุด หรือ -0.28% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,074.14 จุด เพิ่มขึ้น 11.92 จุด หรือ +0.24%  ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,833.46 จุด เพิ่มขึ้น 23.96 จุด หรือ +0.35%

     หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง หลังจากนักวิเคราะห์ของโซซิเอเต เจนเนอราลคาดการณ์ว่า ราคาแร่เหล็กจะปรับตัวลงอีก โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ร่วงลง 2.6% ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นรอยัล ดัทช์ เชลล์ และหุ้นโททาล ต่างก็ปรับตัวลง

    หุ้นดอยช์ ลุฟฮันซา ร่วงลง 2.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์สได้ปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว  ส่วนหุ้นมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ ดีดตัวขึ้น 4.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่ดีเกินคาด

     นักลงทุนระมัดระวังก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมี.ค.ในคืนนี้ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 248,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งน้อยกว่าเดือนก.พ.ที่เพิ่มขึ้น 295,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.5% ในเดือนมี.ค.

     ส่วนเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) เปิดเผยว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 189,000 รายในเดือนมี.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 225,000 ราย

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 65.06 จุด รับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย) ขานรับข่าวชาติมหาอำนาจและอิหร่านบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานซึ่งปรับตัวลงเกือบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,763.24 จุด เพิ่มขึ้น 65.06 จุด หรือ +0.37% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,886.94 จุด เพิ่มขึ้น 6.71 จุด หรือ +0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,066.96 จุด เพิ่มขึ้น 7.27 จุด หรือ +0.35%

     ตลาดหุ้นนิวยอร์กดีดตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่า อิหร่านและชาติมหาอำนาจสามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นในการจำกัดศักยภาพโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน หลังจากการที่การเจรจาดำเนินไปเป็นเวลาหลายวัน ขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติยังประกาศว่าจะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านด้วยเช่นกัน

     นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐซึ่งได้มีการเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 28 มี.ค. ลดลง 20,000 ราย อยู่ที่ 268,000 ราย ซึ่งใกล้เคียงระดับต่ำที่สุดในรอบ 16 ปี นับเป็นสัญญาณล่าสุดที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานยังคงปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง

   ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าในเดือนก.พ.ลดลงสู่ระดับ 3.544 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2552 ซึ่งสะท้อนถึงการนำเข้าที่ลดลงมากกว่าการส่งออก

   หุ้นกลุ่มสื่อสารดีดตัวขึ้น นำโดยหุ้นไทม์ วอร์เนอร์ ทะยานขึ้น 2.7% ขณะที่หุ้นซีบีเอส คอร์ป พุ่งขึ้นกว่า 2.5% และหุ้นดิสคัฟเวอรี คอมมูนิเคชันส์ ปรับตัวขึ้น 2.5%

   ส่วนหุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงตามราคาน้ำมันดิบ หลังจากมีรายงานว่าอิหร่านและชาติตะวันตกสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ โดยหุ้นวาเลโร เอนเนอร์จี หุ้นเทโซโร และหุ้นมาราธอน ปิโตรเลียม ต่างก็ร่วงลงกว่า 4.6%

   หุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวลงเช่นกัน โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ส และหุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ต่างก็ร่วงลงกว่า 2.3%

    นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมี.ค.ในวันนี้ ด้านนักวิเคราะห์คาดว่า ตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นเพียง 248,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งน้อยกว่าเดือนก.พ.ที่เพิ่มขึ้น 295,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 5.5% ในเดือนมี.ค.

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 2 เม.ย.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,763.24 จุด                          เพิ่มขึ้น 65.06 จุด     +0.37%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,886.94 จุด                      เพิ่มขึ้น 6.71 จุด      +0.14%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,066.96 จุด                        เพิ่มขึ้น 7.27 จุด      +0.35%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,833.46 จุด                    เพิ่มขึ้น 23.96 จุด     +0.35%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,967.39 จุด                            ลดลง 33.99 จุด      -0.28%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,074.14 จุด                         เพิ่มขึ้น 11.92 จุด     +0.24%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,869.70 จุด      เพิ่มขึ้น 36.80 จุด     +0.63%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,898.60 จุด           เพิ่มขึ้น 37.80 จุด     +0.64%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,600.32 จุด                           เพิ่มขึ้น 92.66 จุด     +0.97%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,312.79 จุด                    เพิ่มขึ้น 277.95 จุด    +1.46%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,029.07 จุด                         เพิ่มขึ้น 0.62 จุด      +0.03%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,825.78 จุด                     เพิ่มขึ้น 15.49 จุด     +0.41%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 25,275.64 จุด                              เพิ่มขึ้น 192.89 จุด    +0.77%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,456.40 จุด      ลดลง 10.47 จุด      -0.19%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,453.75 จุด                       เพิ่มขึ้น 6.73 จุด      +0.20%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,831.97 จุด                       เพิ่มขึ้น 5.66 จุด      +0.31%

      ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย) ขานรับข่าวชาติมหาอำนาจและอิหร่านบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานซึ่งปรับตัวลงเกือบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,763.24 จุด เพิ่มขึ้น 65.06 จุด หรือ +0.37% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,886.94 จุด เพิ่มขึ้น 6.71 จุด หรือ +0.14% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,066.96 จุด เพิ่มขึ้น 7.27 จุด หรือ +0.35%

       ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่และกลุ่มพลังงาน นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรเดือนมี.ค.ในวันศุกร์

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.2% ปิดที่ 397.80 จุด

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,967.39 จุด ลดลง 33.99 จุด หรือ -0.28% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,074.14 จุด เพิ่มขึ้น 11.92 จุด หรือ +0.24%  ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,833.46 จุด เพิ่มขึ้น 23.96 จุด หรือ +0.35%

   ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มค้าปลีก แต่การปรับตัวขาขึ้นของตลาดได้ถูกสกัดไว้ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจภายในประเทศที่อ่อนแอ

          ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 23.96 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 6,833.46 จุด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) หลังจากมีรายงานว่า อิหร่านและชาติมหาอำนาจสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ปรับลง 95 เซนต์ ปิดที่ 49.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค.ร่วงลง 2.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 54.95 ดอลลาร์/บาร์เรล

      สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีรายงานว่าอิหร่านและชาติมหาอำนาจสามารถบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ และหลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานซึ่งปรับตัวลงเกือบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 16 ปี

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 7.3 ดอลลาร์ หรือ 0.60% ปิดที่ระดับ 1,200.90 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 35.8 เซนต์ ปิดที่ 16.701 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 11.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,154.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ปรับลง 2.55 ดอลลาร์ ปิดที่ 746.30 ดอลลาร์/ออนซ์

   ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบยูโร แต่ปรับตัวขึ้นลงแตกต่างกันเมื่อทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (2 เม.ย.) ขณะที่นักลงทุนรอดูการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันนี้

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0895 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0764 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4822 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4826 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.69 เยน เทียบกับระดับ 119.61 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9590 ฟรังก์ จาก 0.9664 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7585 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7600 ดอลลาร์

   ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 588.00 จุด ลดลง 8.00 จุด, -1.34%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!