WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

004ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้ารีบาวด์ตามดาวโจนส์ดีดตัวแรงรับมาตรการกระตุ้นศก.จีน

   นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้มีแนวโน้มรีบาวด์หลังจากวานนี้ปรับตัวลงไปราว 6 จุด เป็นไปตามทิศทางของดัชนีดาวโจนส์เมื่อคืนนี้ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นถึง 208 จุด หลังจากธนาคารกลางจีนปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์(RRR)ลงอีก 1% หวังผลกระตุ้นเศรษฐกิจ

     ปัจจัยดังกล่าวเป็นตัวดึงให้ sentiment กลับมาเป็นบวก ส่งผลต่อตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดมาเคลื่อนไหวในแดนบวก และเชื่อว่าจะมีผลเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยเช่นกัน พร้อมให้แนวต้าน 1,570-1,580 จุด แนวรับ 1,550 จุด

ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ ขานรับข่าวจีนลด RRR

    ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ขณะเดียวกันเงินเยนที่อ่อนค่ายังช่วยหนุนตลาดหุ้นญี่ปุ่นเช่นกัน

  ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.2% แตะระดับ 152.57 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

   ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,731.57 จุด เพิ่มขึ้น 97.08 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,404.15 จุด เพิ่มขึ้น 309.22 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,554.80 จุด เพิ่มขึ้น 1.95 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,153.42 จุด เพิ่มขึ้น 6.71 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,510.33 จุด เพิ่มขึ้น 7.08 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,850.71 จุด เพิ่มขึ้น 2.05 จุด

    ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1% โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวานนี้ ซึ่งนับเป็นการปรับลดอัตราส่วน RRR เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางได้ปรับลดไปแล้ว 0.5% เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 57.50 จุด หลังหุ้นเหมืองพุ่งรับจีนลด RRR

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ทะยานขึ้น หลังจากจีนออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

  ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 57.50 จุด หรือ 0.82% ปิดที่ 7,052.13 จุด

                หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ปรับตัวแข็งแกร่ง หลังจากธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1% โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งนับเป็นการปรับลดอัตราส่วน RRR เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางได้ปรับลดไปแล้ว 0.5% เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว

                หุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่ง 2.72% หุ้นริโอ ทินโต ดีดขึ้น 2.61 และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน ปรับขึ้น 2.46%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : ข่าวจีนกระตุ้นเศรษฐกิจ หนุนตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก

                ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า จีนตัดสินใจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1% ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

                ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.8% ปิดที่ 406.87 จุด

                ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,187.59 จุด เพิ่มขึ้น 44.33 จุด หรือ +0.86% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,891.91 จุด พุ่งขึ้น 203.21 จุด หรือ +1.74% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,052.13 จุด เพิ่มขึ้น 57.50 จุด หรือ +0.82%

                ตลาดหุ้นยุโรปดีดตัวขึ้นขานรับข่าวที่ว่าธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1% โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว

                ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนชะลอลงสู่ระดับ 7% ในไตรมาสแรกปีนี้ จากระดับ 7.3% ในไตรมาส 4 ปี 2557 โดย GDP ไตรมาสแรกขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 6 ปี

                ข่าวการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีนช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์พุ่งขึ้น โดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน และหุ้นริโอ ทินโต ต่างก็ปรับตัวขึ้นอย่างน้อย 2.5%

                หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ พุ่งขึ้น 2.2% หลังจากนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นดังกล่าว

     นักลงทุนจับตาดูความคืบหน้าในการเจรจาปัญหาหนี้กรีซ โดยกรีซมีกำหนดต้องจ่ายหนี้จำนวน 750 ล้านยูโร (801 ล้านดอลลาร์) ให้กับ IMF ในวันที่ 12 พ.ค.นี้

    นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยูโรโซนในสัปดาห์นี้ด้วย โดยในวันนี้ สถาบัน ZEW จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี และในวันพุธ อิตาลีจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมเดือนก.พ. และยอดค้าปลีกเดือนก.พ.

    ส่วนวันพฤหัสบดี เยอรมนีจะเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนพ.ค.และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นเดือนเม.ย. ขณะที่ฝรั่งเศสและยูโรโซนจะเปิดเผยดัชนี PMI เบื้องต้นเดือนเม.ย.เช่นกัน  และในวันศุกร์ สถาบัน Ifo จะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือนเม.ย.ของเยอรมนี

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 208.63 จุด ขานรับจีนกระตุ้นเศรษฐกิจ

   ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

   ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,034.93 จุด พุ่งขึ้น 208.63 จุด หรือ +1.17% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,994.60 จุด เพิ่มขึ้น 62.79 จุด หรือ +1.27% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,100.40 จุด เพิ่มขึ้น 19.22 จุด หรือ +0.92%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวที่ว่า ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1% โดยมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว

  ทั้งนี้ นับเป็นการปรับลดอัตราส่วน RRR เป็นครั้งที่ 2 ในปีนี้ หลังจากที่ธนาคารกลางได้ปรับลดไปแล้ว 0.5% เมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา โดยจีนมีเป้าหมายที่จะให้การสนับสนุนด้านการเงินในภาคส่วนที่เฉพาะเจาะจง โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดเล็ก ภาคการเกษตร และโครงการน้ำขนาดใหญ่

  การตัดสินใจปรับลด RRR ในครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะชะลอตัว หลังจากทางการจีนเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ชะลอลงสู่ระดับ 7% ในไตรมาสแรกปีนี้ จากระดับ 7.3% ในไตรมาส 4 ปี 2557 โดย GDP ไตรมาสแรกขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดในรอบ 6 ปี และยังสะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจจีนยังคงเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง

     หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ขยับขึ้น 0.57% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรในไตรมาสแรกพุ่งแตะระดับ 2.39 พันล้านดอลลาร์ เทียบกับระดับ 1.51 พันล้านดอลลาร์ในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ขณะที่กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ระดับ 85 เซนต์ สูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ 78 เซนต์

    หุ้นฮัลลิเบอร์ตันพุ่งขึ้น 2.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่งกว่าการคาดการณ์

    หุ้นอินเตอร์เนชันแนล บิสิเนส แมชีนส์ ทะยานขึ้น 3.4% ก่อนที่บริษัทจะเปิดเผยผลประกอบการ

   นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ รวมถึงยอดขายบ้านมือสองเดือนมี.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนเม.ย., ยอดขายบ้านใหม่เดือนมี.ค. และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค.

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 20 เม.ย.2558

 

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,034.93 จุด                               เพิ่มขึ้น 208.63 จุด      +1.17%

 

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,994.60 จุด                            เพิ่มขึ้น 62.79 จุด       +1.27%

 

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,100.40 จุด                             เพิ่มขึ้น 19.22 จุด       +0.92%

 

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,052.13 จุด                         เพิ่มขึ้น 57.50 จุด       +0.82%

 

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,891.91 จุด                                เพิ่มขึ้น 203.21 จุด      +1.74%

 

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,187.59 จุด                             เพิ่มขึ้น 44.33 จุด       +0.86%

 

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,552.85 จุด                                ลดลง 18.08 จุด        -0.19%

 

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,146.71 จุด                             เพิ่มขึ้น 3.21 จุด        +0.15%

 

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,634.49                              ลดลง 18.39 จุด        -0.09%

 

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,807.10 จุด          ลดลง 44.40 จุด        -0.76%

 

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,833.10 จุด                ลดลง 44.80 จุด        -0.76%

 

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 4,217.08 จุด                          ลดลง 70.22 จุด        -1.64%

 

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,865.27 จุด                ลดลง 81.62 จุด        -1.03%

 

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,094.93 จุด                                 ลดลง 558.19 จุด       -2.02%

 

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,400.80 จุด        ลดลง 9.84 จุด         -0.18%

 

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,848.66 จุด                        เพิ่มขึ้น 2.80 จุด        +0.15%

 

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,503.25 จุด                         ลดลง 21.94 จุด        -0.62%

 

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,886.21 จุด                           ลดลง 555.89 จุด       -1.95%

 

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดพุ่งขึ้นกว่า 200 จุดเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับข่าวธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ 

 

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,034.93 จุด พุ่งขึ้น 208.63 จุด หรือ +1.17% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,994.60 จุด เพิ่มขึ้น 62.79 จุด หรือ +1.27% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,100.40 จุด เพิ่มขึ้น 19.22 จุด หรือ +0.92%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากข่าวที่ว่า จีนตัดสินใจใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1% ซึ่งปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง

 

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.8% ปิดที่ 406.87 จุด

 

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,187.59 จุด เพิ่มขึ้น 44.33 จุด หรือ +0.86% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,891.91 จุด พุ่งขึ้น 203.21 จุด หรือ +1.74% ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,052.13 จุด เพิ่มขึ้น 57.50 จุด หรือ +0.82%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ที่ทะยานขึ้น หลังจากจีนออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

          ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 57.50 จุด หรือ 0.82% ปิดที่ 7,052.13 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังได้รับแรงหนุนจากการที่จีนประกาศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการปรับลดอัตราการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลงอีก 1%

 

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 64 เซนต์ ปิดที่ 56.38 ดอลลาร์/บาร์เรล 

 

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.ทรงตัวอยู่ที่ 63.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลที่ว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้

 

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 9.4 ดอลลาร์ หรือ 0.78% ปิดที่ระดับ 1,193.70 ดอลลาร์/ออนซ์

 

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.ลดลง 34 เซนต์ ปิดที่ 15.889 ดอลลาร์/ออนซ์

 

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 18.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,148.80 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (20 เม.ย.) จากความวิตกที่เพิ่มมากขึ้นว่ากรีซอาจจะผิดนัดชำระหนี้ภายในไม่กี่เดือนนี้

 

          ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0734 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0794 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.4903 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.4961 ดอลลาร์สหรัฐ

 

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.31 เยน เทียบกับระดับ 118.77 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9564 ฟรังก์ จาก 0.9528 ฟรังก์

 

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7720 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7778 ดอลลาร์

 

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 598.00 จุด เพิ่มขึ้น 1.00 จุด, +0.17%

 

อินโฟเควสท์

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!