WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET16ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้านี้รีบาวด์ตามตลาด ตปท.แนะเกาะติดเก็งงบฯ บจ.Q1/58

    นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนายการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้า

     นี้คาดว่าจะรีบาวน์ได้ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นมา โดยได้รับ Sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯที่วานนี้อยู่ในแดนบวก แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าการปรับตัวขึ้นมาวันนี้คงไม่มากนัก เนื่องจากขาดปัจจัยบวกใหม่ๆ ที่เข้ามาช่วยหนุน

    ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตามหลังจากนี้ คือการเข้ามาเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 1/58 ที่จะทยอยออกมา พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,540-1,555 จุด

    ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

                - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(23 เม.ย.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,058.69 จุด เพิ่มขึ้น 20.42 จุด(+0.11%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,056.06 จุด เพิ่มขึ้น 20.89 จุด(+0.41%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,112.93 จุด เพิ่มขึ้น 4.97 จุด(+0.24%)

                - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 45.18 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 58.56 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 150.69 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 42.22 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 7.83 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 5.13 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 6.91 จุด

                - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(23 เม.ย.58)1,544.84 จุด ลดลง 7.17 จุด(-0.46%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,878.12 ล้านบาท เมื่อวันที่ 23 เม.ย.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(23 เม.ย.58) ปิดที่ 57.74 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.58 ดอลลาร์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(23 เม.ย.58)ที่ 7.65 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 32.41/43 คาดกรอบวันนี้ 32.35-32.50

                - รัฐบาลตั้งทีมเฉพาะกิจตรวจเรือประมงใน 22 จังหวัด ชี้ต้องทำให้ถูกกฎหมายใน 3 เดือน มั่นใจไทยหลุด "ใบเหลือง" ใน 6 เดือน ขณะนายกฯ ทวิภาคีอินโดนีเซีย ป้องกันประมงผิดกฎหมาย ยกระดับปัญหาเป็นวาระแห่งชาติ ต้องรื้อใหม่ทั้งระบบ ไม่รับปากทำได้ตามกำหนด

                - "ปรีดิยาธร"มั่นใจมูดี้ส์เข้าใจนโยบายเศรษฐกิจไทย แจงปรับโครงสร้างผลิตใหม่ คาด 3 ปีส่งออกฟื้นชัด เตรียมคัดเลือกที่ปรึกษาต่างชาติทำโครงข่ายบรอดแบนด์ ภายใน 1 เดือน ขณะนักวิเคราะห์ประเมินเศรษฐกิจโตครึ่งปีหลังแนะ กนง.ลดดอกเบี้ย

                - 6 แบงก์รัฐเร่งปล่อยสินเชื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ไตรมาสแรกทะลุเป้า 1.9 แสนล้านบาท สัดส่วน 30.9% ของยอดงบปีนี้ 1.12 ล้านล้านบาท 'ออมสิน'ติดท็อปอนุมัติสูงสุดถึง 1.38 แสนล้านบาท ด้านแบงก์เฉพาะกิจไม่น้อยหน้า บสย.โตกว่า 29%

                - ธนารักษ์ลุยปูพรมประเมินราคาที่ดินรายแปลง จ่อเปลี่ยนวิธีการใช้งบปี 58 วงเงิน 200 ล้านบาท จ้างเอกชนร่วมแจม คาดไม่เกิน 1 ปีครึ่งรู้ผล ระบุราคาประเมินที่ดินใหม่รายแปลงขยับขึ้นแน่

    - ตัวแทนพรรคการเมืองรวมทั้งกลุ่มการเมืองที่ถูก คสช.เชิญเข้าร่วมประชุมเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่สโมสรกองทัพบก เพื่อแสดงความคิดเห็นในการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ของคนในชาติ ซึ่งมี พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก รองเลขาธิการ คสช.เป็นประธาน มีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะ คสช.อยู่ในอำนาจต่อไป โดยให้เลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก 2-3 ปี มีเงื่อนไขว่าต้องแก้ไขการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญที่เป็นกติกาให้เป็นธรรม มีความเป็นสากลและเป็นที่ยอมรับของประชาชน เพราะถ้าเดินหน้าต่อไปในลักษณะนี้ประเทศจะเกิดปัญหา และอาจจะหนักกว่าที่ผ่านมา

*หุ้นเด่นวันนี้

      - PTTGC(เคทีบี)"ซื้อ"เป้า 71 บาท ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดแล้ว ได้เปรียบคู่แข่งในเวลาที่ราคาน้ำมันเป็นขาขึ้นเนื่องจากใช้ก๊าซเป็นวัตถุดิบ ต้นทุนจะปรับขึ้นช้ากว่าเมื่อเทียบกับแนฟทา ราคาหุ้นยัง Laggard จากกลุ่ม โดยหากนับตั้งแต่ต้นปีราคา เพิ่มขึ้นเพียง 21% ขณะที่ IRPC IVL และ TOP เพิ่ม 49%,36% และ 29%ตามลำดับ พร้อมคาด 1Q58 พลิกมีกำไรสุทธิ 5,600 ล้านบาทดีขึ้นจากขาดทุน 4,935 ล้านบาทใน 4Q57 จากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรฯสายอะโรเมติกซ์ซึ่งไตรมาสนี้มีผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมันดิบและสินค้าคงคลังลดลง ขณะที่ค่าการกลั่นและ Market P2F ปรับตัวสูงขึ้น

      - UV(โกลเบล็ก)"ซื้อเก็งกำไร" Q1/58 กำไรกระโดดจากช่วงเดียวกันของปีก่อน บุ๊กรายได้เต็มมือ ส่งซิกงบ Q2/58 แรงฉุดไม่อยู่ซดกำไรพิเศษขายกอง REIT จากมูลค่ารวมกว่า 8.2 พันล้านบาท ผุด 16 โครงการ มูลค่า 1.5-1.6 หมื่นล้านบาทหวังรับทรัพย์ยาว คอนเฟิร์มปี 58 งบทุบสถิติ ซุ่มศึกษาแตกไลน์พลังงาน ด้านเทคนิคลุ้นทดสอบแนวต้านที่ 9.10 โดยมีแนวรับที่ 8.35-8.50 Cut loss 8.50 บาท

    - LH(ฟินันเซีย ไซรัส)รับปันผล 0.40 บาท/หุ้น(yield 4%)XD 29 เม.ย.คาดกำไรปกติ 1.45 พันล้านบาทใน 1Q15 -18.5% Q-Q, +0.1% Y-Y ตามรายได้โอนเดือน ก.พ.ซื้ออพาร์ทเมนท์ให้เช่าที่ซานฟรานซิสโกอีก 1 แห่ง คาดรับรู้รายได้ 100-120 ล้านบาท/ปี เพิ่มจาก 2 แห่งที่ซานฟรานซิสโกที่ทำรายได้ 300 ล้านบาท/ปี คิดเป็น 1% ของรายได้รวมและมีโอกาสขายเข้า REIT ปรับราคาเป้าหมายลงเป็น 11.40 บาทจาก 12 บาทตามง QH และ HMPRO ที่ dilute จากหุ้นปันผล

   - AP(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 8.80 บาท จัดให้ AP เป็น Top Pick ในหมวดหลักทรัพย์ที่อยู่อาศัย คาดการณ์กำไร 1Q58 เพิ่มเป็นเท่าตัวจาก y-o-y เป็น 543 ล้านบาท ผลพวงจากการโอนบ้านแนวราบและคอนโดได้อย่างแข็งแกร่ง

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นเช้านี้ ขณะหุ้นญี่ปุ่นอ่อนตัวลง

     ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช้านี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวในทิศทางเดียวกันตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นญี่ปุ่นอ่อนตัวลงเพราะได้รับปัจจัยถ่วงจากเงินเยนที่แข็งค่าและแรงขายทำกำไร

     ดัชนี MSCI Asia Pacific เพิ่มขึ้น 0.3% สู่ระดับ 155.65 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.30 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 20,142.47 จุด ลดลง 45.18 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,978.39 จุด เพิ่มขึ้น 150.69 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,839.71 จุด เพิ่มขึ้น 42.22 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,181.24 จุด เพิ่มขึ้น 7.83 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,507.88 จุด เพิ่มขึ้น 5.13 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,852.99 จุด เพิ่มขึ้น 6.91 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดบวก 25.43 จุด รับคาดการณ์จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) จากกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากทางการจีน หลังมีการเปิดเผยข้อมูลการผลิตที่หดตัว

   ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 25.43 จุด หรือ 0.36% ปิดที่ 7,053.67 จุด

     เอชเอสบีซี โฮลดิงส์ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนเม.ย.ลดลงแตะ 49.2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 12 เดือน จาก 49.6 ในเดือนมี.ค.

                ตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 แสดงให้เห็นถึงภาวะหดตัว และดัชนีที่สูงกว่า 50 จะบ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของจีนมีการขยายตัวจากเดือนก่อนหน้า

                ตลาดหุ้นลอนดอนปิดในแดนบวก เนื่องจากข้อมูลภาคการผลิตล่าสุดของจีนที่ปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปี ได้หนุนความหวังที่ว่าจีนจะออกมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศที่อยู่ในภาวะชะลอตัว

                หุ้นแองโกล อเมริกัน ดีดขึ้น 4.73% นำขบวนหุ้นกลุ่มบลูชิพ ขณะที่หุ้นอันโตฟากัสตา ทะยาน 4.67% หุ้นริโอ ทินโต ปรับขึ้น 3.30% และหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน 3.27%

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดลบ วิตก PMI ภาคผลิต,บริการยูโรโซนชะลอตัว

      ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) หลังจากมีรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของยูโรโซน

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.4% ปิดที่ 407.18 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,178.91 จุด ลดลง 32.18 จุด หรือ -0.62% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,723.58 จุด ร่วงลง 143.79 จุด หรือ -1.21% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,053.67 จุด เพิ่มขึ้น 25.43 จุด หรือ +0.36%

    ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงหลังจากผลสำรวจมาร์กิต อิโคโนมิคส์ เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนเม.ย.ของยูโรโซน ลดลงแตะ 51.9 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 52.2 ในเดือนก่อนหน้า ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเดือนเม.ย.ปรับตัวลงมาอยู่ที่ 53.7 ซึ่งต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เมื่อเทียบกับระดับ 54.2 ในเดือนมี.ค.

   การเติบโตของกิจกรรมทางธุรกิจในยูโรโซนอ่อนแรงลงจากระดับสูงสุดในรอ[ 11 เดือนที่ทำไว้เมื่อเดือนมี.ค. ภาวะชะลอตัวดังกล่าวสะท้อนถึงอัตราการขยายตัวที่ลดต่ำลงในเยอรมนีและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในยูโรโซน แม้ว่าประเทศอื่นๆในภูมิภาคมีการเติบโตในอัตราสูงสุดนับแต่เดือนส.ค.2550

     หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง นำโดยหุ้นอิริคสันที่ดิ่งลงรุนแรงถึง 10% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอเกินคาด

    หุ้นบิลฟิงเกอร์ ร่วงลง 18% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลกำไรในปีนี้ เนื่องจากความต้องการพลังงานลดลง

     นักลงทุนจับตาดูการเจรจาหนี้กรีซอย่างใกล้ชิด หลังจากที่รัฐบาลกรีซออกยอมรับว่า ทางรัฐบาลอยู่ในภาวะขาดแคลนเงินสด และการที่กรีซตัดสินใจโอนย้ายเงินสดสำรองจากรัฐบาลท้องถิ่นและหน่วยงานอื่นๆของรัฐบาลนั้น ถือเป็น "การกู้ยืมเงินภายในประเทศ" เพื่อรองรับความต้องการระดมทุนเฉพาะหน้า

     ขณะเดียวกัน ข้อตกลงระหว่างกรีซและเจ้าหนี้ต่างประเทศในเรื่องที่กรีซจะต้องดำเนินการปฏิรูปในด้านต่างๆเพื่อแลกเปลี่ยนกับการรับความช่วยเหลือเพิ่มเติมนั้น ยังคงไม่คืบหน้า แม้ว่าได้มีการเจรจากันอย่างรอบคอบมาเป็นเวลา 2 เดือนแล้วก็ตาม

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดบวก 20.42 จุด จากแรงซื้อเก็งกำไร

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (23 เม.ย.) ขณะที่ดัชนี NASDAQ ปิดที่ระดับสูงสุดในรอบ 15 ปี เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรในช่วงท้าย อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อย เพราะได้รับแรงกดดันในระหว่างวันจากผลประกอบการที่ผันผวนของบริษัทจดทะเบียน และข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่เพิ่มขึ้นเกินคาด

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,058.69 จุด เพิ่มขึ้น 20.42 จุด หรือ +0.11% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,056.06 จุด เพิ่มขึ้น 20.89 จุด หรือ +0.41% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,112.93 จุด เพิ่มขึ้น 4.97 จุด หรือ +0.24%

     ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรในช่วงท้าย หลังจากที่ตลาดร่วงลงในช่วงเช้า อันเนื่องมาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 18 เม.ย. เพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 295,000 ราย สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 290,000 ราย

    ขณะที่มาร์กิต ซึ่งเป็นบริษัทสำรวจข้อมูลทางการเงิน เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐร่วงลงสู่ระดับ 54.2 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 55.7 ในเดือนมี.ค. ด้านนักวิเคราะห์คาดว่าอยู่ที่ระดับ 55.5

    นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐร่วงลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปีครึ่งในเดือนมี.ค. ซึ่งบ่งชี้ถึงการชะลอตัวของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ

   หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (จีเอ็ม) ดิ่งลง 3.34% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรและรายได้ไตรมาสแรกที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของตลาด

   หุ้นเป๊ปซีโค ร่วงลง 1.59% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิลดลง 3% เมื่อเทียบเป็นรายปี

     หุ้นเฟซบุ๊กร่วงลง 2.62% แม้ว่าบริษัทเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกปีนี้อยู่ที่ 3.54 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 42% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีที่แล้วที่ระดับ 2.50 พันล้านดอลลาร์

   ส่วนหุ้น AT&T พุ่งขึ้น 4.17% หลังจากบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาสแรกอยู่ที่ 61 เซนต์ อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าช่วงไตรมาสแรกปีที่แล้วที่ 70 เซนต์

    นักลงทุนจับตาดูทางการสหรัฐจะเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมี.ค.ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย

                        อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!