WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET11ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าอ่อนลงหลังยังไร้ปัจจัยใหม่หนุน-ผลเจรจาหนี้กรีซไม่คืบ

       นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุน บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะอ่อนตัวลง เนื่องจากตลาดฯไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา ประกอบกับผลการเจรจาเรื่องหนี้ของกรีซกับทางกลุ่มยูโรโซนยังไม่มีความคืบหน้า ซึ่งทางรมว.คลังของกรีซก็ออกมาว่าไม่อาจบรรลุข้อตกลงได้ในการเจรจาครั้งนี้ ทำให้ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่เช้านี้อยู่ในแดนลบเล็กน้อย

       ส่วนปัจจัยในประเทศก็มีแรงกดดันจากที่แบงก์ชาติได้ประกาศตัวเลข NPL ของบัตรเครดิต และสินเชื่อรายย่อยได้สูงขึ้น ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวล

       พร้อมให้แนวรับที่ 1,495 จุด ซึ่งเป็นจุดทดสอบ Low เดิมของ 2 วันก่อน หากรับได้ก็มีโอกาสที่จะรีบาวน์ขึ้น แต่ถ้ารับไม่อยู่ก็จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,485 จุด ซึ่งเป็น Low เดิมในรอบ 1 เดือน ส่วนแนวต้านให้ไว้ที่ 1,510 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

      - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(11 พ.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,105.17 จุด ลดลง 85.94 จุด(-0.47%),ดัชนีNASDAQ ปิดที่ 4,993.57 จุด ลดลง 9.98 จุด(-0.20%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,105.33 จุด ลดลง 10.77 จุด(-0.51%)

      - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 12.68 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 8.79 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ ลดลง 54.02 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ ลดลง 26.01 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.25 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 0.41 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 6.85 จุด

       - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(11 พ.ค.58)1,501.30 จุด ลดลง 9.21 จุด (-0.61%)

                - นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,717.59 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 พ.ค.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(11 พ.ค.58) ปิดที่ 59.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 14 เซนต์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(11 พ.ค.58)ที่ 8.44 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 33.77/79 อ่อนค่าต่อ นลท.วิตกปัญหาหนี้กรีซ หลังเจรจาไม่คืบ

                - ที่ปรึกษาเศรษฐกิจนายกฯญี่ปุ่นถกรัฐบาล ชี้ญี่ปุ่นยันสนับสนุนโครงการทวาย พร้อมลงนามในเอสพีวีเดือน ก.ค.นี้ ส่วนเส้นทางรถไฟ 2 เส้นทาง รมว.คมนาคมเตรียมลงนามความร่วมมือภายในเดือน มิ.ย.นี้ ด้าน "ประจิน" เผยถกร่วมจีนปรับแผนเส้นทาง "กรุงเทพฯ-หนองคาย" เริ่มก่อสร้าง ต.ค.นี้

                - คลังชงแผนกู้เงินลงทุนมอเตอร์เวย์ 2 สาย 1.4 แสนล้าน เข้าครม.วันนี้ ยืนยันไม่มีปัญหาเรื่องเงินกู้ ด้านสบน.แจง พร้อมจัดหาเงินกู้ให้ เผยเป็นจังหวะเหมาะของรัฐในการกู้เงินลงทุน หลังสภาพคล่องในตลาดมีสูง แถมดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง แย้มมีโอกาสกู้ในประเทศมากกว่าเงินนอก เพื่อปิดความเสี่ยงเรื่องการชำระหนี้

                - กมธ.ปฏิรูปพลังงาน อัดรัฐบาลก่อนหน้านี้ใช้ประชานิยมทำราคาพลังงานบิดเบือนจากความจริง ชงเพิ่มทางเลือกสำรวจ-ผลิตน้ำมันนอกเหนือจากสัมปทาน แนะตั้งองค์กรรัฐแข่ง การค้นพบควรใช้ราคาตลาดโลก เพื่อให้ราคามีความ เหมาะสม "รสนา" ย้ำกิจการพลังงานควรจะเป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานทำราคาต่ำที่สุด ดันไทยแข่งขันในเวทีเออีซีได้ หนุนรีดภาษีสรรพสามิต ปตท. พร้อมห้ามผูกขาดธุรกิจพลังงาน แนะแก้จัดเก็บกองทุนน้ำมัน เหตุไม่มีกฎหมายรองรับ

                - นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) แถลงว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือน พ.ค. อยู่ที่ระดับ 102.71 จุด เพิ่มขึ้น 30.19% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่อยู่ในระดับ 78.90 จุด ปรับตัวขึ้นมาอยู่ในระดับทรงตัว โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ยัง มีความเชื่อมั่นที่ดี

                - พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวภายหลังนายฮิโระโตะ อิซุมิ ที่ปรึกษาพิเศษของนายก รัฐมนตรีญี่ปุ่นเข้าพบว่า จะลงนามบันทึกความร่วมมือระบบราง 2 ฉบับ ในวันที่ 26-27 พ.ค.นี้ ที่กรุงโตเกียว ฉบับแรกเป็นข้อตกลงสร้างรถไฟความเร็วสูง 2 เส้นทาง คือ เส้นทางกาญจนบุรี-กรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทราแหลมฉบัง และกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทราอรัญประเทศ 574 กม. และรถไฟสายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ 715 กม.

                - ธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานยอดการให้บริการบัตรเครดิตทั้งระบบสิ้นไตรมาสแรกปีนี้ว่า มียอดการใช้จ่ายผ่านบัตรลดลง 3.23 หมื่นล้านบาท หรือลดลง 18.5% จากไตรมาสก่อนหน้า อยู่ที่ 1.42 แสนล้านบาท โดยการรูดในประเทศลดลงมากที่สุด 21.89% เหลือ 1.16 แสนล้านบาท การเบิกเงินล่วงหน้าผ่านบัตรลดลง 0.86% เหลือ 1.62 หมื่นล้านบาท ส่วนการใช้ในต่างประเทศยังเพิ่มขึ้น 5.67% เป็น 9,539 ล้านบาท แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน การใช้บัตรเครดิตโดยรวมเพิ่มขึ้น 8.67%

*หุ้นเด่นวันนี้

                - AP(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 8.80 บาท จัดให้เป็น Top Pick ในหมวดหลักทรัพย์ที่อยู่อาศัย คาดกำไร 1Q58 เพิ่มเป็นเท่าตัวจาก yoy เป็น 543 ล้านบาท ผลพวงจากการโอนบ้านแนวราบและคอนโดได้อย่างแข็งแกร่ง และคาดการณ์กำไรปีนี้และปีหน้าเพิ่มขึ้นในอัตราที่ดีเป็น 12% และ 11% ตามลำดับ ถือเป็นยอดสูงสุดใหม่ (New High) ในอีก 2 ปีต่อเนื่อง พร้อมคาดการณ์เงินปันผลปี 58 เท่ากับ 0.33 บาท (ให้สมมติฐานอัตราการจ่ายปันผล 35% ของกำไรสุทธิต่อหุ้น)คิดเป็น Dividend Yield 4.6%

                - QH(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 4.50 บาท เห็นว่าการที่ราคาหุ้นปรับตัวลง ถือเป็นโอกาสในการซื้อ เพราะ QH มีเงินลงทุนที่ดี นั่นคือหากไม่นับมูลค่าเงินลงทุน พบว่าปัจจุบันหุ้นบริษัทซื้อขายด้วย P/E ปี 58 เฉพาะธุรกิจที่อยู่อาศัยที่เพียง 0.2 เท่า เสมือนกับซื้อหุ้นแล้วได้ธุรกิจอสังหาฯมาฟรี

                - INTUCH(โกลเบล็ก)เป้า 88 บาท ประกาศกำไร Q1/15 ที่ 4.1 พันลบ.(+7.2% YoY) คาดกำไรปี 2015 ที่ 1.6 หมื่นลบ. (+9%YoY) ตามส่วนแบ่งรายได้และกำไรของบ.ลูกที่ขยายตัวขึ้น ได้แก่ ADVANC การใช้งาน data เติบโตขึ้นและได้ประโยชน์จากการประมูลคลื่น 4G ในช่วง 4Q58  , THCOM กำไรแกร่งจากการรับรู้รายได้ TC6 และ TC7 เต็มปี จากการเปลี่ยนระบบภาพ SD ไปเป็น ระบบ HD และ 4K ซึ่งช่องทางนี้มีต้นทุนที่ถูกกว่า TV Digital และมีความโดดเด่นด้านเงินปันผล คาด div yield ปี 2015 ที่ 6.4%

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงเช้านี้ ขณะวิกฤตหนี้กรีซยังไม่คลี่คลาย

     ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากการอ่อนตัวลงของตลาดหุ้นนิวยอร์ก ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนยังไม่สามารถหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซได้ ในขณะที่กรีซมีกำหนดจะต้องจ่ายเงิน 750 ล้านยูโรคืนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันนี้

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.1% แตะ 151.63 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,608.23 จุด ลดลง 12.68 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,664.18 จุด ลดลง 54.02 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,637.71 จุด ลดลง 26.01 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,100.63 จุด เพิ่มขึ้น 3.25 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,470.39 จุด ลดลง 0.41 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,798.64 จุด ลดลง 6.85 จุด

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน : ฟุตซี่ปิดลบ 16.97 จุด หลังพุ่งแรงเมื่อวันศุกร์

     ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) โดยตลาดชะลอความแรงหลังพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขานรับชัยชนะของพรรคอนุรักษ์นิยมในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ

     ดัชนี FTSE 100 ลดลง 16.97 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 7,029.85 จุด

     ตลาดปิดในแดนลบ หลังจากพุ่งขึ้น 2.32% เมื่อวันศุกร์ เนื่องจากพรรคอนุรักษ์นิยมของนายเดวิด คาเมรอน ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ โดยพรรคอนุรักษ์นิยมได้ที่นั่งสูงถึง 331 ในสภา ทำให้พรรคสามารถจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว

     ทางด้านธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.5% เมื่อวานนี้ และคงวงเงินการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ที่ระดับ 3.75 แสนล้านปอนด์ (5.79 แสนล้านดอลลาร์)

      การประกาศคงอัตราดอกเบี้ย และคงวงเงินในมาตรการ QE ของคณะกรรมการนโยบายการเงิน BoE เป็นไปตามการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงต้นปี

    หุ้นเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ ร่วงลง 1.4% หลังจากเครดิต สวิส กรุ๊ปได้ออกมาเตือนนักลงทุนเกี่ยวกับศักยภาพในการทำกำไรที่ระดับต่ำของเอชเอสบีซี

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดบวก แต่ตลาดยังกังวลปัญหาหนี้กรีซ

     ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น แต่ตลาดหุ้นฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ อ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ

     ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 401.34 จุด

     ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,027.87 จุด ลดลง 62.52 จุด หรือ -1.23% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,673.35 จุด ลดลง 36.38 จุด หรือ -0.31% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,029.85 จุด ลดลง 16.97 จุด หรือ -0.24%

     ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้นเพราะได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ โดยหุ้นริโอทินโต และหุ้นเกล็นคอร์ รีซอสเซส ต่างก็ปรับขึ้นราว 1.1% ขณะที่หุ้นอินเทซา

    หุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นเช่นกัน นำโดยหุ้นอินเทซา ซานเปาโล พุ่งขึ้น 1.9% หุ้นธนาคารบังคา มอนติ เดอ เซียนา ปรับขึ้น 1.5% หลังจากธนาคารทั้งสองแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

     อย่างไรก็ตาม แม้ว่าดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดบวก แต่ตลาดหุ้นฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ อ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ ในขณะที่กรีซมีกำหนดจะต้องจ่ายเงิน 750 ล้านยูโรคืนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันอังคาร

     ทั้งนี้ นายยานิส วารูฟากิส รมว.คลังกรีซ ยอมรับว่า คงไม่มีการบรรลุข้อตกลงในการประชุมครั้งล่าสุดระหว่างรมว.คลังยูโรโซนและกรีซ แม้มีความคืบหน้าในบางประเด็นก็ตาม

     หุ้นแอร์บัส ร่วงลง 1.2% หลังจากมีรายงานว่า หนึ่งในฝูงบินขนส่งทางทหาร A400M ของแอร์บัส ประสบอุบัติเหตุตกในสเปนเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 85.94 จุด จากขายทำกำไร,วิตกหนี้กรีซ

     ดัชนี ดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 260 จุดเมื่อวันศุกร์ นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนยังไม่สามารถหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซได้จนถึงขณะนี้

     ดัชนี เฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,105.17 จุด ลดลง 85.94 จุด หรือ -0.47% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,993.57 จุด ลดลง 9.98 จุด หรือ -0.20% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,105.33 จุด ลดลง 10.77 จุด หรือ -0.51%

     ตลาดหุ้นนิวยอร์กเข้าสู่ระยะพักฐานเมื่อคืนนี้ โดยนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์พุ่งขึ้นแข็งแกร่งถึง 267.05 จุด หรือ +1.49% ปิดที่ 18,191.11 จุด ภายหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐเพิ่มขึ้น 223,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. จากระดับ 85,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 5.4% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี โดยตัวเลขจ้างงานเดือนเม.ย.ออกมาใกล้เคียงกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 224,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย.

    นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังอ่อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวที่ว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนเมื่อวานนี้ยังไม่สามารถหาทางคลี่คลายวิกฤตหนี้สินของกรีซได้ ในขณะที่กรีซมีกำหนดจะต้องจ่ายเงิน 750 ล้านยูโรคืนให้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ในวันอังคาร

   หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก นำโดยหุ้นโนเบิล เอนเนอร์จี ดิ่งลง 6.2% หลังจากบริษัทตกลงซื้อกิจการโรเซทต้า รีซอสเซส มูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นเอ็กซอน โมบิล และหุ้นเชฟรอน ต่างก็ร่วงลงกว่า 1.1%

    หุ้นกลุ่มเหมืองและกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบร่วงลงเช่นกัน โดยหุ้นอัลโค อิงค์ และหุ้นมอนซานโต ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 1.2% ขณะที่หุ้นเอฟเอ็มซี คอร์ป ขยับลง 0.4%

    อย่างไรก็ตาม หุ้นแคทเทอร์พิลลาร์ ปรับขึ้น 1.7% หลังจากนักวิเคราะห์ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นแคทเทอร์พิลลาร์ ขณะที่หุ้นดีน ฟู๊ดส์ พุ่งขึ้น 6.5% หลังจากบริษัทเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด

     นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร สหรัฐจะเปิดเผยดุลงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐเดือนเม.ย. ส่วนวันพุธจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค.

    สำหรับ วันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย. ส่วนวันศุกร์จะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนพ.ค.,  การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนเม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน

สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

ดัชนี และภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 พ.ค.2558

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ทะยานขึ้นกว่า 260 จุดเมื่อวันศุกร์ นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซนยังไม่สามารถหาทางออกเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซได้จนถึงขณะนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,105.17 จุด ลดลง 85.94 จุด หรือ -0.47% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,993.57 จุด ลดลง 9.98 จุด หรือ -0.20% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,105.33 จุด ลดลง 10.77 จุด หรือ -0.51%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น แต่ตลาดหุ้นฝรั่งเศส เยอรมนี และอังกฤษ อ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.3% ปิดที่ 401.34 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,027.87 จุด ลดลง 62.52 จุด หรือ -1.23% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,673.35 จุด ลดลง 36.38 จุด หรือ -0.31% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,029.85 จุด ลดลง 16.97 จุด หรือ -0.24%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) โดยตลาดชะลอความแรงหลังพุ่งขึ้นอย่างมากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ขานรับชัยชนะของพรรคอนุรักษ์นิยมในการเลือกตั้งทั่วไปของอังกฤษ

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 16.97 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 7,029.85 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่สูงเกินไป หลังจากมีรายงานว่าปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับที่สูงมาก และการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มโอเปกลดลงเพียงเล็กน้อยในเดือนเม.ย.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 14 เซนต์ ปิดที่ 59.25 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 48 เซนต์ ปิดที่ 64.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้อย่างใกล้ชิด เพื่อนำมาเป็นปัจจัยในการคาดการณ์ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 5.9 ดอลลาร์ หรือ 0.50% ปิดที่ระดับ 1,183.00 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 15.1 เซนต์ ปิดที่ 16.314 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ร่วงลง 16.2 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,127.30 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.ร่วงลง 21.90 ดอลลาร์ ปิดที่ 780.45 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (11 พ.ค.) ขณะที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาซานฟรานซิสโก ได้แสดงความคิดเห็นที่ช่วยหนุนกระแสคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1158 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1206 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5590 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5458 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 120.10 เยน เทียบกับระดับ 119.79 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9335 ฟรังก์ จาก 0.9217 ฟรังก์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7901 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7918 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,105.17 จุด                           ลดลง 85.94 จุด        -0.47%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,993.57 จุด                          ลดลง 9.98 จุด         -0.20%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,105.33 จุด                          ลดลง 10.77 จุด        -0.51%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,029.85 จุด                        ลดลง 16.97 จุด        -0.24%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,673.35 จุด                            ลดลง 36.38 จุด        -0.31%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,027.87 จุด                          ลดลง 62.52 จุด        -1.23%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,663.72 จุด                            ลดลง 28.28 จุด        -0.29%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,620.91 จุด                        เพิ่มขึ้น 241.72 จุด      +1.25%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,097.38 จุด                          เพิ่มขึ้น 11.86 จุด       +0.57%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,627.60 จุด               ลดลง 7.80 จุด         -0.14%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,625.20 จุด                  ลดลง 9.40 จุด         -0.17%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 4,333.58 จุด                       เพิ่มขึ้น 127.67 จุด      +3.04%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,777.90 จุด                   เพิ่มขึ้น 14.69 จุด       +0.19%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,718.20 จุด                             เพิ่มขึ้น 140.86 จุด      +0.51%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,172.48 จุด             ลดลง 9.73 จุด         -0.19%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,805.49 จุด                        ลดลง 2.16 จุด         -0.12%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,470.80 จุด                        เพิ่มขึ้น 18.79 จุด       +0.54%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,507.30 จุด                          เพิ่มขึ้น 401.91 จุด      +1.48%

อินโฟเควสท์

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!