WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET9ภาวะตลาดหุ้นไทย : แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงในกรอบจำกัด กังวลหนี้กรีซ,ต่างชาติขายถ่วงตลาด

     นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้จะยังคงมีความผันผวน และมีโอกาสปรับลดลงได้อีก หลังปัจจัยแวดล้อมยังไม่เป็นบวก โดยตลาดหุ้นต่างประเทศ ทั้งยุโรปและสหรัฐปรับลดลง ส่วนหนี่งมาจากความกังวลต่อปัญหาหนี้กรีซ หลังการประชุมระหว่างกรีซและรัฐมนตรีคลังยูโรโซนเมื่อวานนี้ที่มีการหารือประเด็นเบิกจ่ายเงินช่วยเหลือเพื่อช่วยคลี่คลายวิฤตหนี้ของกรีซนั้น แทบไม่มีความคืบหน้าใดๆ

    นอกจากนี้การประกาศผลประกอบการไตรมาส 1/58 ของบริษัทจดทะเบียน(บจ.)ที่ทยอยออกมา ยังคงมีแนวโน้มไม่สดใสนัก อาจจะยังเป็นปัจจัยที่รบกวนต่อตลาดด้วย ประกอบกับมองว่านักลงทุนต่างชาติน่าจะยังคงมีการขายออกมาต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามมองว่าการปรับลดลงของดัชนีจะอยู่ในกรอบจำกัดแล้ว หลังมองว่าดัชนีที่ระดับ 1,480 จุด น่าจะทำให้นักลงทุนระยะยาวเข้ามาทยอยสะสมหุ้นได้ อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติที่มียอดซื้อสะสมมาตั้งแต่ปี 52 ก็ได้ขายหุ้นออกมาต่อเนื่องจนทำให้มียอดสะสมเหลือไม่มากนักราวกว่า 3 หมื่นล้านบาทเท่านั้น

โดยมองแนวรับวันนี้จะอยู่ที่บริเวณ 1,480 และแนวต้านที่บริเวณ 1,500 จุด

 

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

       - ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(12 พ.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,068.23 จุด ลดลง 36.94 จุด(-0.20%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,976.19 จุด ลดลง 17.38 จุด(-0.35%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.12 จุด ลดลง 6.21 จุด(-0.29%)

        - ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 56.08 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.16 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 66.32 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 16.44 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.33 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.80 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.47 จุด

       - ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(12 พ.ค.58) 1,485.72 จุด ลดลง 15.58 จุด (-1.04%)

                - นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,168.26 ล้านบาท เมื่อวันที่ 12 พ.ค.58

                - ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(12 พ.ค.58) ปิดที่ 60.75 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.5 ดอลลาร์

                - ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(12 พ.ค.58)ที่ 8.85 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

                - เงินบาทเปิด 33.70/72 กลับมาแข็งค่าเล็กน้อย จากแรงขายทำกำไร

                - ซิตี้แบงก์มองบวกกับเศรษฐกิจไทย เชื่อหากรัฐดันงบประมาณการลงทุนออกมาได้จะหนุนเศรษฐกิจฟื้นได้ ส่วนหนี้ครัวเรือนไม่กระทบ เหตุฐานลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าระดับบนแม้ยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตในประเทศลดแต่ยังโตได้ดีในต่างประเทศ พร้อมเปิดสาขารูปแบบใหม่เอาใจลูกค้ายุคใหม่

                - บลูมเบิร์ก ระบุ ดีลควบรวมกิจการในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ล้มแผนระนาว รับพิษเศรษฐกิจซบเซา ระบุมูลค่าการทำรายการลดลง 45% เทียบปีที่แล้ว ต่ำสุดรอบ 6 ปี วาณิชธนกรเผยแนวโน้มดีลควบรวมไทยยังโตหลังอินฟราฯฟันด์ จัสมิน ระดมทุนกว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์

                - โบรกเกอร์ เตรียมปรับลดกำไรบริษัทจดทะเบียน หลังผลประกอบการไตรมาส 1 แย่กว่าคาด เนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า เบื้องต้นคาดกลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เป็นกลุ่มหลักที่โดนปรับลด พร้อมมองไตรมาส 2 ยังเป็นขาลง และเป็นช่วงต่ำสุดของปีนี้

                -  นายกฯ สั่งจี้เบิกจ่ายงบทุกขั้นตอน เพื่อให้ลงสู่พื้นที่โดยเร็ว พร้อมเร่งรัดงานก่อสร้างขนาดใหญ่ ด้าน "หม่อมอุ๋ย" ยันเศรษฐกิจไม่ฟุบ แนะดูยอดเก็บ VAT โตต่อเนื่อง แสดงว่าการใช้จ่ายในประเทศยังเพิ่มขึ้น

                - ประธาน บอร์ด รฟม.การันตีรถไฟฟ้าสายสีม่วง 3 ขบวนแรกถึงท่าเรือแหลมฉบังใน ก.ย. 58 และ พร้อมทดสอบทันที เพื่อเตรียมเปิดให้บริการเดินรถกับประชาชน ใน ธ.ค. 58 โดยไม่เก็บค่าโดยสาร เป็นของขวัญปีใหม่ ก่อนทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ 12 ส.ค. 59 ต่อไป

                - แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการสรรหาประธาน และคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มีนายสมพล เกียรติไพบูลย์ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ที่ผ่านมา ได้มีมติเลือกนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นประธานคณะกรรมการธปท.อีกวาระ

                - บีโอไอ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2558 ที่ผ่านมา บีโอไอได้ดำเนินการพิจารณาอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนจริงโดยเร็ว ซึ่งในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2558 (ม.ค.-เม.ย.2558) บีโอไอได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนไปแล้วทั้งสิ้น 957 โครงการเงินลงทุนรวม 325,490 ล้านบาท สูงกว่ามูลค่าการอนุมัติโครงการลงทุนช่วงเดียวกันของปี 2557 ที่ผ่านมาถึง 6.5 เท่า (โครงการที่ได้รับการอนุมัติช่วง 4 เดือนแรก ปี 2557 มีมูลค่า 43,370 ล้านบาท

                - ภาคเอกชนสนับสนุนโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา อนุมัติงบประมาณก่อสร้างวงเงิน 1.4 หมื่นล้านบาท โดยเชื่อว่าโครงการนี้จะส่งผลดีต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งที่อยู่อาศัย โรงแรม และธุรกิจริมน้ำเจ้าพระยาให้คึกคักขึ้น

*หุ้นเด่นวันนี้

                -BCP (ธนชาต) แนะ"ซื้อ" มอง Upside 24% เป้าหมายพื้นฐาน 42.00 บาท จาก 1) ราคายัง Laggard กลุ่มโรงกลั่นมาก 2) 1Q15 พลิกกลับมามีกำไรจากค่าการกลั่นสูง 3) โครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตและธุรกิจพลังงานทางเลือกช่วยหนุนกำไรเติบโต 4) ความกังวลต่อขายหุ้นของ PTT หมดลงไปแล้ว

                -AOT (ธนชาต) แนะ"ซื้อสะสม" มอง Upside กว่า 30% เป้าหมายทางพื้นฐาน 380 บาท ด้วยปัจจัยสนับสนุนจาก  1) ผู้โดยสารเดือน มี.ค. ที่เพิ่มขึ้น +26% y-y และจำนวนเที่ยวบิน +16.1% y-y 2) การเติบโตของผู้โดยสารระหว่างประเทศโตถึง 25.8% y-y ซึ่งเป็นกลุ่มที่จ่ายค่าธรรมเนียมสนามบินในอัตราสูง ทำให้คาดการณ์ผลการดำเนินงาน 2Q15 จะออกมาดี 3) ปัจจัยบวกเพิ่มเติมจากอาคารผู้โดยสารที่ 2 ของสนามบินดอนเมืองที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการได้เร็วกว่า 4Q15 4) ทางเทคนิคราคาหุ้นสิ้นสุดแนวโน้มขาลงไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ บีบตัวในกรอบสามเหลี่ยม มีเป้าหมายระยะสั้นที่ 300 บาท

                -SVI(เคทีบีฯ)แนะ"ถือ" ให้ราคาเป้าหมาย 5 บาท โดยคาดผลประกอบการของ SVI จะเริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวตั้งแต่ 2Q58 เป็นต้นไป โดยคาดว่าจะเริ่มใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นหลังเครื่องจักรลงครบแล้วใน 1Q58 ขณะที่ลูกค้าอยู่ระหว่างการเข้าตรวจสอบโรงงานและ test run การผลิต ซึ่งเราคาดว่าจะเริ่มส่งออเดอร์เพิ่มขึ้นใน 2Q58 และจะเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนตั้งแต่ 3Q58 เป็นต้นไป นอกจากนี้เรายังคาดการณ์ว่า SVI มีแนวโน้มที่จะได้เงินเคลมประกันคืนเพิ่มเติมอีกจำนวนกว่าพันล้านใน 2Q-3Q58 อีกด้วย

                -GFPT(เอเซีย พลัสฯ) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 14 บาท  โดยราคาหุนปจจุบันไดสะทอนจุดต่ำสุดของธุรกิจในปี 58 ไปมาก ขณะที่แนวโน้มธุรกิจเริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัวแล้ว โดยแนวโน้มผลการดำเนินงานจะเริ่มไต่ระดับเข้าสู่ช่วงฤดูกาลส่งออกกลุ่มอาหาร พร้อมกับการดีดตัวของราคาไก่ในช่วงครึ่งหลังปีนี้ หลังจะเริ่มเห็นการลดปริมาณการผลิตไก่ลงเหลือ 29 ล้านตัว/สัปดาห์ จาก 32 ล้านตัว/สัปดาห์ในช่วงไตรมาส 1/58 เป็นผลจากการเข้าสู่ฤดูร้อนทำให้อัตราการฟักไข่ของปู่ย่าพันธุ์ และพ่อแม่พันธุ์ลดลงอีกทั้งการตัดลดปริมาณการผลิตของผู้ประกอบการที่คาดหวังว่าจะต้องเกิดขึ้นในภาวะที่ราคาไก่เริ่มตกต่ำกว่าจุดคุ้มทุน

ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่เพิ่มขึ้นเช้านี้ แต่ยังกังวลหนี้กรีซ

     ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ แต่ดัชนี MSCI Asia Pacific อ่อนตัวลงตามทิศทางตลาดหุ้นทั่วโลก เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ

     ดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.1% แตะ 151.43 จุด เมื่อเวลาประมาณ 9.00 น.ตามเวลาโตเกียว

     ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 19,568.76 จุด ลดลง 56.08 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 4,402.38 จุด เพิ่มขึ้น 1.16 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 27,473.50 จุด เพิ่มขึ้น 66.32 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 9,697.17 จุด เพิ่มขึ้น 16.44 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ที่ 2,100.10 จุด เพิ่มขึ้น 3.33 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 3,449.13 จุด เพิ่มขึ้น 6.80 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,801.08 จุด เพิ่มขึ้น 2.47 จุด

    ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ หลังจากนายยานิส วารูฟากิส รมว.คลังกรีซ เปิดเผยว่า กรีซอาจเผชิญวิกฤตสภาพคล่องในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยระบุว่าสถานการณ์ทางการเงินของกรีซเป็นประเด็นที่มีความเร่งด่วนอย่างมาก

ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดร่วง 96.05 จุด นำโดยหุ้นอีซี่เจ็ท

    ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 นำโดยหุ้นอีซี่เจ็ท ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินของกรีซ

    ดัชนี FTSE 100 ลดลง 96.05 จุด หรือ 1.37% ปิดที่ 6,933.80 จุด

    หุ้นอีซี่เจ็ท ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำรายใหญ่อันดับ 2 ของยุโรป ดิ่งลง 9.8% หลังจากสายการบินคาดการณ์ว่ารายได้ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้จะอ่อนแรงลง

    หุ้นคาร์ลสเบิร์ก ปรับลง 4.7% เนื่องจากบริษัทเปิดเผยว่าตัวเลขขาดทุนในช่วงไตรมาสแรกจะเพิ่มมากขึ้นในยุโรปตะวันออก

   ทั้งนี้ นักลงทุนยังคงมีความวิตกเกี่ยวกับปัญหาหนี้ของกรีซ ขณะที่นายยานิส วารูฟากิส รมว.คลังกรีซ เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า กรีซอาจเผชิญวิกฤตสภาพคล่องในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยระบุว่าสถานการณ์ทางการเงินของกรีซเป็นประเด็นที่มีความเร่งด่วนอย่างมาก

ภาวะตลาดหุ้นยุโรป : หุ้นยุโรปปิดร่วง วิตกตลาดบอนด์ถูกกระหน่ำขาย

    ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายในตลาดพันธบัตร และวิกฤตหนี้สินของกรีซ

    ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.3% ปิดที่ 396.09 จุด

    ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,974.65 จุด ลดลง 53.22 จุด หรือ -1.06% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,472.41 จุด ร่วงลง 200.94 จุด หรือ -1.72% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,933.80 จุด ลดลง 96.05 จุด หรือ -1.37%

    ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับตลาดพันธบัตรที่ถูกกระหน่ำขายอย่างหนัก ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีในสหรัฐ เยอรมนี อิตาลี และสเปน ปรับตัวสูงขึ้น

    ทั้งนี้ แรงขายพันธบัตรสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีส่งผลให้อัตราผลตอบแทนดีดตัวแตะระดับ 2.357% เมื่อวานนี้ เพื่มขึ้นจาก 2.13% เมื่อวันก่อน ขณะที่อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรเยอรมนีประเภทอายุ 10 ปีพุ่งแตะระดับ 0.72% เพิ่มขึ้นจาก 0.52% เมื่อวันก่อน ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอายุ 30 ปีทะยานแตะ 3.1% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน

    นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ หลังจากนายยานิส วารูฟากิส รมว.คลังกรีซ เปิดเผยว่า กรีซอาจเผชิญวิกฤตสภาพคล่องในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยระบุว่าสถานการณ์ทางการเงินของกรีซเป็นประเด็นที่มีความเร่งด่วนอย่างมาก

    กรีซมีเวลาจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.เพื่อที่จะบรรลุข้อตกลงด้านการปฏิรูปกับบรรดาเจ้าหนี้ ขณะที่ฐานะการคลังของประเทศย่ำแย่ลงมากจนกระทั่งต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐบาลภายในประเทศ ทั้งนี้ วิกฤตหนี้สินของกรีซจุดปะทุให้มีกระแสคาดการณ์ว่ากรีซอาจผิดนัดชำระหนี้และอาจต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกของยูโรโซน

    หุ้นสายการบินอีซีเจ็ทร่วงลง 9.8% หลังจากอีซีเจ็ทระบุว่า การยกเลิกเที่ยวบินในเดือนเม.ย.ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์ประท้วงในฝรั่งเศสนั้น อาจส่งผลกระทบต่อกำไรก่อนหักภาษีของบริษัท

      ส่วนหุ้นคาร์ลสเบิร์ก ดิ่งลง 4.7% หลังจากบริษัทเปิดเผยว่าตลาดเบียร์ในรัสเซียซบเซาลงในไตรมาสแรกปีนี้

      นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศยูโรโซนในวันนี้ รวมถึงจีดีพีไตรมาสแรกของฝรั่งเศส เยอรมนี และอิตาลี รวมทั้งการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปเดือนมี.ค. และจีดีพีเบื้องต้นของสหภาพยุโรปช่วงไตรมาส 1/2558

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดาวโจนส์ปิดลบ 36.94 จุด เหตุวิตกปัญหาหนี้กรีซ

     ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ หลังจากรมว.คลังกรีซได้ออกมายอมรับว่า กรีซอาจเผชิญปัญหาการขาดสภาพคล่อง

     ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,068.23 จุด ลดลง 36.94 จุด หรือ -0.20% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,976.19 จุด ลดลง 17.38 จุด หรือ -0.35%  ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.12 จุด ลดลง 6.21 จุด หรือ -0.29%

    ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้กรีซ หลังจากนายยานิส วารูฟากิส รมว.คลังกรีซ เปิดเผยว่า กรีซอาจเผชิญวิกฤตสภาพคล่องในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยระบุว่าสถานการณ์ทางการเงินของกรีซเป็นประเด็นที่มีความเร่งด่วนอย่างมาก

     กรีซมีเวลาจนถึงสิ้นเดือนมิ.ย.เพื่อที่จะบรรลุข้อตกลงด้านการปฏิรูปกับบรรดาเจ้าหนี้ ขณะที่ฐานะการคลังของประเทศย่ำแย่ลงมากจนกระทั่งต้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานของรัฐบาลภายในประเทศ ทั้งนี้ วิกฤตหนี้สินของกรีซจุดปะทุให้มีกระแสคาดการณ์ว่ากรีซอาจผิดนัดชำระหนี้และอาจต้องพ้นจากการเป็นสมาชิกของยูโรโซน

      อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวันจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ค่อนข้างเป็นบวก โดยสมาพันธ์ธุรกิจอิสระแห่งชาติของสหรัฐ (NFIB) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจขนาดย่อมของสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 96.9 ในเดือนเม.ย. จากระดับ 95.2 ในเดือนมี.ค. เพราะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของตัวเลขจ้างงาน

      ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กระบุว่า หนี้ภาคครัวเรือนของสหรัฐ ซึ่งได้แก่ เงินกู้เพื่อซื้อที่อยู่อาศัย, รถยนต์ และเงินกู้เพื่อการศึกษา รวมทั้งหนี้บัตรเครดิต ขยับขึ้นเพียง 0.2% ในไตรมาสแรก สู่ระดับ 11.85 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นน้อยที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2 ของปีที่แล้ว

     หุ้น AOL ซึ่งเป็นบริษัทมีเดียและเทคโนโลยี พุ่งขึ้น 18.62% และหุ้นเวริซอน คอมมูนิเคชัน ขยับลง 0.36% หลังจากมีรายงานว่า เวริซอน คอมมูนิเคชัน ลงนามในข้อตกลงซื้อกิจการ AOL มูลค่า 50 ดอลลาร์ต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าราว 4.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

     หุ้น Gap ซึ่งเป็นผลิตและจำหน่ายเสื้อผ้าชื่อดัง ร่วงลง 3.79% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายสุทธิในไตรมาสแรกลดลง 3% สู่ระดับ 3.66 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีที่แล้วที่ระดับ 3.77 พันล้านดอลลาร์

     นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันพุธ สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนเม.ย.และสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนมี.ค. ขณะที่วันพฤหัสบดี สหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ และดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนเม.ย.

    ส่วนวันศุกร์ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนพ.ค.,  การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนเม.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 พ.ค.2558

          ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 18,068.23 จุด                           ลดลง 36.94 จุด     -0.20%

          ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,976.19 จุด                       ลดลง 17.38 จุด     -0.35%

          ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,099.12 จุด                         ลดลง 6.21 จุด      -0.29%

          ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,933.80 จุด                     ลดลง 96.05 จุด     -1.37%

          ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,472.41 จุด                             ลดลง 200.94 จุด    -1.72%

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,974.65 จุด                          ลดลง 53.22 จุด     -1.06%

          ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,680.73 จุด                             เพิ่มขึ้น 17.01 จุด    +0.18%

          ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,624.84 จุด                      เพิ่มขึ้น 3.93 จุด     +0.02%

          ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,096.77 จุด                          ลดลง 0.61 จุด      -0.03%

          ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,673.10 จุด        เพิ่มขึ้น 45.50 จุด    +0.81%

          ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,674.70 จุด              เพิ่มขึ้น 49.50 จุด    +0.88%

          ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 4,401.22 จุด                       เพิ่มขึ้น 67.64 จุด    +1.56%

          ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,794.55 จุด               เพิ่มขึ้น 16.65 จุด    +0.21%

          ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 27,407.18 จุด                                ลดลง 311.02 จุด    -1.12%

          ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,205.61 จุด       เพิ่มขึ้น 33.13 จุด    +0.64%

          ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,798.61 จุด                        ลดลง 6.88 จุด      -0.38%

          ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,442.33 จุด                        ลดลง 28.47 จุด     -0.82%

          ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,877.48 จุด                          ลดลง 629.82 จุด    -2.29%

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กิดลบเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สินของกรีซ หลังจากรมว.คลังกรีซได้ออกมายอมรับว่า กรีซอาจเผชิญปัญหาการขาดสภาพคล่อง

          ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 18,068.23 จุด ลดลง 36.94 จุด หรือ -0.20% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,976.19 จุด ลดลง 17.38 จุด หรือ -0.35%  ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,099.12 จุด ลดลง 6.21 จุด หรือ -0.29%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากแรงเทขายในตลาดพันธบัตร และวิกฤตหนี้สินของกรีซ

          ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.3% ปิดที่ 396.09 จุด

          ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,974.65 จุด ลดลง 53.22 จุด หรือ -1.06% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,472.41 จุด ร่วงลง 200.94 จุด หรือ -1.72% ดัชนี FTSE100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,933.80 จุด ลดลง 96.05 จุด หรือ -1.37%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 นำโดยหุ้นอีซี่เจ็ท ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้สินของกรีซ

          ดัชนี FTSE 100 ลดลง 96.05 จุด หรือ 1.37% ปิดที่ 6,933.80 จุด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นยุโรป อันเนื่องมาจากวิกฤตหนี้กรีซนั้น ยังกระตุ้นให้นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

          สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 9.4 ดอลลาร์ หรือ 0.79% ปิดที่ระดับ 1,192.40 ดอลลาร์/ออนซ์  

          สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 21.2 เซนต์ ปิดที่ 16.526 ดอลลาร์/ออนซ์

          สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 5.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,133.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 4.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 785.15 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันในปีนี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดในเยเมน

          สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 1.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 60.75 ดอลลาร์/บาร์เรล

          สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.95 ดอลลาร์ ปิดที่ 66.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (12 พ.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐโดยรวมที่อ่อนแอส่งผลให้นักลงทุนเชื่อกันว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออกไป

          ค่าเงินยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.1220 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.1158 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5676 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5590 ดอลลาร์สหรัฐ

          ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 119.89 เยน เทียบกับระดับ 120.10 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9286 ฟรังก์ จาก 0.9335 ฟรังก์

          ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7991 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7901 ดอลลาร์

ดัชนี ค่าระวางเรือ BDI ปิดวันทำการล่าสุดที่ 589.00 จุด เพิ่มขึ้น 11.00 จุด, +1.90%

อินโฟเควสท์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!