WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

SET24วงการหุ้นคาดสัปดาห์หน้า SET ผันผวน จับตาบทสรุปหนี้กรีซ - เงินเฟ้อไทย และกระแสเงินต่างชาติ แนะรอซื้อจังหวะอ่อนตัว

วงการหุ้น คาดสัปดาห์หน้าหุ้นไทยยังผันผวน หลังโบรกฯ เห็นต่างเรื่องแผนชำระหนี้กรีซ  เชื่อยังได้ภาคส่งออกหนุนหลังเงินบาทอ่อนค่า แต่หวั่นต่างชาติทิ้งหุ้นรอบใหญ่ หลังเจอแรงขายใน TFEX อย่างหนักต่อเนื่องหลายวัน พร้อมจับตาเงินเฟ้อไทยในวันที่ 2 มิ.ย.นี้  แนะซื้อหุ้นช่วงดัชนีฯ อ่อนตัว อย่าง กลุ่มเช่าซื้อ - ส่งออก - พลังงานปิโตรเคมี และรับเหมา หรือหุ้นรายตัวอย่าง CPF-ROBINS-CBG-WORK-SPA-CK-STEC ให้แนวรับ 1,480-1,470 จุด แนวต้าน 1,515-1,527 จุด

    นายกรภัทร  วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ดัชนีหุ้นไทยรีบาวน์ในกรอบแคบ ต่อประเด็นความคาดหวังกรณีปัญหาหนี้กรีซเป็นบวกมากขึ้น ว่าท้ายที่สุดแล้วกรีซจะสามารถบรรลุการเจรจากับกลุ่มเจ้าหนี้ในการชำระหนี้รอบที่จะครบกำหนดในวันที่ 5 มิ.ย. นี้ ส่วนหนึ่งสะท้อนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลกรีซปรับลง 13 basis point มาอยู่ที่ระดับ 10.78%

   นอกจากนี้ ยังได้ปัจจัยบวกจากดุลการค้า ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยที่ดูดีขึ้น หลังจากก่อนหน้า กระทรวงพาณิชย์ประเมินเบื้องต้นว่า เดือนเม.ย. ไทยจะขาดดุลราว 523 ล้านาดอลลาร์สหรัฐฯ แต่ล่าสุดธนาคารแห่งประเทศไทยรายงานว่าเกินดุลอยู่ 1,107 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ เป็นผลมาจากการนำเข้าหดตัวมากการการส่งออก ถือว่าเป็นสัญญาณที่ดี หากพิจารณาในแง่ของดุลการค้า

   ขณะที่คืนนี้ต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ โดยเฉพาะตัวเลข GDP ไตรมาสแรกของปี ตลาดฯ คาดว่าหากเทียบกับไตรมาสก่อนหน้าจะติดลบ 0.9% แต่หากออกมาต่ำกว่าคาด จะส่งผลบวก เพราะสะท้อนว่าเฟดจะไม่รีบร้อนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

   สำหรับสัปดาห์หน้า คาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่จะ ฟื้นตัว โดยมีมุมมองเชิงบวกมากขึ้นต่อปัญหาหนี้กรีซ ว่าท้ายที่สุดแล้วกรีซจะบรรลุการเจราจากับบรรดาเจ้าหนี้ได้ รวมถึงภาคการส่งออกไทยที่น่าจะได้รับผลดีจากค่าเงินบาทอ่อนค่า ซึ่งจะช่วยหนุนให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัว ส่วนกรอบการลงทุนในเดือนมิ.ย. เชื่อว่า 60% ดัชนีฯ ผ่านจุดต่ำสุดที่ 1,478 จุดไปแล้ว โดยคาดหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวได้ จากการเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นปัจจัยหลัก รวมถึงภาคการส่งออกที่ได้รับผลดีจากค่าเงินบาทอ่อนค่า ส่วนกระแสเงินทุนนักลงทุนต่างชาติที่สร้างความประหลาดใจซื้อสุทธิหุ้นไทยในเดือน พ.ค. มองว่า เม็ดเงินต่างชาติพร้อมที่จะเข้ามาลงทุนในไทย เพียงแต่ว่าภาพการฟื้นตัวเศรษฐกิจต้องชัดเจนและต่อเนื่อง

   ด้านกลยุทธ์ แนะซื้อหุ้นที่มีปัจจัยเด่นเฉพาะตัว อาทิ CPF-ROBINS-CBG-WORK-SPA พร้อมกับประเมินแนวรับ 1,480-1,470 จุด แนวต้าน 1,515-1,527 จุด 

   ขณะที่นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ทรีนีตี้ กล่าวว่าการเคลื่อนไหวของดัชนีตลาดหุ้นไทยในวันนี้(29 พ.ค.)เป็นลักษณะของการไซต์เวย์ เพื่อรอดูการเปลี่ยนแปลงของหุ้นที่ใช้ในการคำนวณดัชนี MSCI Thailand Standard Index และ Small Cap Index ทำให้เห็นเม็ดเงินที่ซื้อขายสำหรับหุ้นที่เกี่ยวข้องทั้งหุ้นที่ถูกตัดออกจาการคำนวณ และหุ้นที่ถูกเพิ่มเข้าคำนวณอย่างชัดเจน

   ขณะที่วานนี้ นักลงทุนต่างชาติ Short สุทธิในตลาดล่วงหน้าอีกกว่า 23,000 สัญญา ถือเป็นการ Net short ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่จากสถิติการศึกษาของบล.ทรีนีตี้พบว่าเมื่อใดก็ตามที่นักลงทุนต่างชาติ Net short เกินกว่า 15,000 สัญญาต่อวันขึ้นไป SET Index มักปรับตัวลงในช่วง 1-2 สัปดาห์หลังจากนั้น  

   สำหรับ ทิศทางของตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า(2-5 มิ.ย.) คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในลักษณะที่ผันผวน หลังปัจจัยต่างประเทศยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันโดยเฉพาะปัญหาหนี้กรีซ พร้อมติดตามตัวเลขการจ้างงานฯของสหรัฐที่จะมีขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่บ่งชี้ถึงทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ในเดือนมิ.ย.นี้

   ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศต้องติดตามตัวเลขเงินเฟ้อที่กระทรวงพาณิชย์จะประกาศในวันที่ 2 มิ.ย. ซึ่งหากออกมาติดลบ น่าจะเป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการนโยบายทางการเงิน(กนง.)ในวันที่ 10 มิ.ย. เกี่ยวกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ย

   กลยุทธ์การลงทุน แนะนำ เข้าสะสมหุ้นช่วงที่ดัชนีฯเคลื่อนไหวระดับ 1,470-1,480 จุด โดยเน้นกลุ่มเช่าซื้อ,ส่งออกและพลังงานปิโตรเคมี พร้อมประเมินแนวรับที่ 1,470 จุดและแนวต้านที่ 1,520 จุด

   ด้านนายอดิศักดิ์  ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์  บล.ธนชาต ภาพรวมตลาดหุ้นไทยวันนี้ ยังเป็น Sideway เนื่องจากนักลงทุนเริ่มปรับพอร์ต เพื่อย้ายไปลงทุนในดัชนี MSCI Global Small Cap (MSCI)ที่จะมีผลในเย็นวันนี้ จึงทำให้ปริมาณการซื้อค่อนยังเบาบาง อีกทั้งยังได้แรงกดดันจากกรณีกรีซที่ใกล้ถึงกำหนดวันชำระหนี้ในวันที่ 5 มิ.ย.58

   สำหรับ แนวโน้มตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า คาดว่าดัชนีฯ มีโอกาสปรับตัวขึ้น หลังจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติงบลงทุนร่วมภาครัฐและเอกชนมูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย  โดยมองว่าในสัปดาห์หน้าจะเริ่มมีความคืบหน้าของการประมูลงานของโครงการบางส่วน  ซึ่งเป็นสัญญานที่ดีต่อหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง

   "ในสัปดาห์หน้าจะเริ่มมีความคืบหน้าของการประมูลงานจากภาครัฐ มูลค่า 1.4 ล้านล้านบาท เพื่อยกระดับเศรษฐกิจในประเทศ โดยมองว่าหุ้นกลุ่มรับเหมาจะได้รับประโยชน์โดยตรง"นายอดิศักดิ์ กล่าว

   ส่วนนักลงทุนต่างชาติ เริ่มมีทิศทางที่ไม่ชัดเจน จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวเนื่องจากค่าเงินที่อ่อนค่าหลังธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ปรับลดดอกเบี้ย

   ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือการชำระหนี้ของกรีซ ที่จะถึงกำหนดวันชำระหนี้ในวันที่ 5 มิ.ย.58 โดยมองว่ากรีซไม่สามารถชำระหนี้ได้ด้วยตัวเอง หากไม่ได้ได้รับเงินช่วยเหลือ

   โดยกลยุทธ์การลงทุน โดยเน้นลงทุนในหุ้นกลุ่มรับเหมา เนื่องจากได้ผลบวกของโครงการประมูลงานจากภาครัฐ ประเมินแนวรับ 1,480 แนวต้าน 1,500จุด หากดัชนีผ่านแนวต้านมีโอกาศขึ้นไปแตะแนวต้านถัดไปที่1,514 จุด หุ้นเด่น บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) CK ราคาเป้าหมาย 35 บาท และ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด(มหาชน) STEC ราคาเป้าหมาย 29 บาท

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!